หากคุณยังคิดไม่ออกว่าเย็นนี้จะกินอะไรดี หรือไม่รู้จะทำอะไรดี เราอยากให้คุณได้ลองทำ ลาซานญ่า ที่มีฟักทองกับผักโขม เป็นส่วนประกอบ อร่อยได้ประโยชน์ทั้งครอบครัว วิธีทําลาซานญ่า ดี ๆ มีที่นี่
ลาซานญ่า (Lasagna)
ลาซานญ่า เป็นชื่อเรียกเส้นพาสต้าที่เก่าแก่ และเป็นที่รู้จักกันดี ในรูปร่างสี่เหลี่ยม มีลักษณะกว้าง ๆ แบน ๆ และมีความหนา ซึ่งมีส่วนผสมหลักคือ แป้งสาลี และไข่ ลักษณะของลาซานญ่าที่เรารู้จักกันดี คือการนำเส้นพาสต้าชนิดนี้ วางซ้อน ๆ กันเป็นชั้น คั่นด้วยส่วนผสมที่หลากหลาย ตามแต่ละพื้นที่
ต้นกำเนิดของอาหารอิตาเลียนจานนี้ มาจากเมืองเอมีเลีย–โรมัญญา ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี นำแผ่นแป้งพาสต้าที่มีลักษณะเฉพาะนี้มาวางซ้อน ๆ กัน โดยสูตรที่เป็นที่รู้จักมากที่สุด นั่นคือ lasagne alla bolognese เป็นซอสเนื้อผสมซอสเบชาเมล หรือซอสขาว ข้ามมาทางฝั่งทางใต้ของอิตาลี สูตรลาซานญ่าของเมืองเนเปิลส์ (Neples) จะมีส่วนผสมของซอสมะเขือเทศ มอสเซอเรลล่าชีส ริคอตต้าชีส และมีทบอล ส่วนของลิกูเรีย (Liguria) ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอิตาลี จะใช้ซอสเพสโต (Pesto suace) ในขณะที่ทางฝั่งเวนิสจะใช้ผักแรดิชชิโอ หรือผักกาดหอมสีม่วงแทนซอส
วันนี้ เราจะผสมฟักทอง และผักโขม ลงไปเป็นส่วนผสมในลาซานญ่าโฮมเมด เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการให้เหมาะกับทุกคนในครอบครัว ก่อนที่จะไปดูส่วนผสมอื่น ๆ และวิธีทำ มาดูกันว่า ฟักทอง และผักโขม มีประโยชน์อะไรบ้าง
บทความที่เกี่ยวข้อง : สูตรอาหารอิตาเลียนสำหรับเด็ก
ประโยชน์ของผักโขม
ผักโขมเป็นผักที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ กรดโฟเลต แคโรทีน วิตามินซี โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม แคลเซียม สังกะสี โปรตีน และไฟเบอร์ ซึ่งจะช่วยบำรุงสายตา ชะลอความแก่ ขจัดสารพิษในร่างกาย และช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายอีกด้วย สำหรับคุณแม่ให้นม ผักโขมก็จะช่วยบำรุงน้ำนม ให้คุณแม่มีน้ำนมมากขึ้น สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ ผักโขมก็ให้สารอาหารที่มีประโยชน์ต่อลูกในครรภ์ ซึ่งทำอาหารได้หลากหลาย และไม่ได้มีรสชาติขมเหมือนชื่อเลยสักนิด
บทความที่เกี่ยวข้อง : อาหารที่แม่ให้นมควรกิน แม่ลูกอ่อนควรกินอะไรบ้าง
เมนูผักโขม
ประโยชน์ของฟักทอง
ฟักทองอุดมไปด้วยวิตามินหลากหลาย เช่น วิตามินบี วิตามินอี และมีแร่ธาตุมากมายเช่นกัน เช่น ฟอสฟอรัส แคลเซียม โพแทสเซียม โซเดียม แมงกานีส เหล็ก และซิงค์
ฟักทองมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งช่วยชะลอความแก่ บำรุงผิวพรรณ บำรุงสายตา ฟักทองมักจะถูกนำมาเป็นอาหารมื้อแรก ๆ ของลูก อย่าง ฟักทองบดผสมนมแม่ สามารถนำมาทำเป็นส่วนประกอบได้ทั้งอาหารคาว หวาน อย่างเช่น ซุปฟักทอง บราวนี่ฟักทองก็น่าสนใจ
เมนูฟักทอง
- คุกกี้ เค้ก บราวนี่ มัฟฟิน ผสมฟักทอง
- บัวลอย
- สังขยาฟักทอง
- แกงฟักทอง
- ซุปฟักทอง
- ฟักทองผัดไข่
สูตรลาซานญ่า ฟักทอง ผักโขม
ส่วนผสม
น้ำมันมะกอก กระเทียมสับหยาบ หอมหัวใหญ่สับ ฟักทอง ปอกเปลือก คว้านเมล็ดออกและสับหยาบ ๆ น้ำซุปผัก ถั่วพิตาชิโอเมล็ดมีเปลือกสับหยาบ ผักโขม แผ่นลาซานญ่าแป้งสด เนยริคอตต้าสด โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ไข่แดง เกล็ดขนมปัง เนยพาเมซานขูด ถั่วพิตาชิโอเมล็ดมีเปลือก |
1 ช้อนโต๊ะ 1 หัว 1/2 หัว 300 กรัม 1/2 ถ้วย 250 กรัม 1/2 ถ้วย ให้พอเรียง 7 ชั้น 1/4 ถ้วย 1/4 ถ้วย 1/2 ลูก 1/2 ถ้วย 1/4 ถ้วย 25 กรัม |
วิธีทำ
- เตรียมเตาอบที่อุณหภูมิ 200 องศาเซลเซียส
- ตั้งน้ำมันมะกอกให้ร้อนในกระทะสำหรับทอด เลือกที่มีขนาดใหญ่ ขอบสูง ใส่หอมหัวใหญ่ ผัดจนนิ่ม ใส่กระเทียมแล้วผัดต่อสัก 30 วินาที ใส่ฟักทอง และน้ำซุป หรี่ไฟลงจนเป็นไฟอ่อน ๆ ปิดฝาหม้อ ตั้งเคี่ยวให้เดือด ประมาณ 20 นาที หรือจนกระทั่งนุ่ม
- ตั้งทิ้งไว้ให้เย็นลงเล็กน้อย บดผสมคลุกเคล้าจนส่วนผสมนุ่ม ใส่ผักโขมลงไป คนให้เข้ากันดี
- ผสมริคอตต้า โยเกิร์ต และไข่แดงเข้าด้วยกัน ปรุงรส
- เทส่วนผสมของริคอตต้าจำนวนเล็กน้อยลงที่ก้นของชามสี่เหลี่ยม เพื่อเตรียมอบ
- วางแผ่นแป้งลาซานญ่าลงบนส่วนผสมที่เทไว้ในชามในข้อ 5 เทส่วนผสมของฟักทอง และส่วนผสมของริคอตต้าลงไปบาง ๆ เรียงแผ่นแป้งลาซานญ่าเป็นชั้น ๆ สลับกับส่วนผสม รวมทั้งหมด 7 ชั้น จบด้วยชั้นของแผ่นแป้งลาซานญ่า แล้วเทส่วนผสมของริคอตต้าที่ยังเหลืออยู่ลงไป
- ผสมเกล็ดขนมปัง เนยพาเมซาน และถั่วพิตาชิโอพร้อมเปลือกเมล็ด โรยบนตัวลาซานญ่าก่อนนำเข้าเตาอบ
- อบโดยการใช้กระดาษฟอยล์ปิดหน้าเป็นเวลา 20 นาที เปิดกระดาษฟอยล์ออก แล้วอบต่ออีกนาน 20 นาที ทิ้งให้เซ็ทตัว 10 นาที ก่อนที่จะเสิร์ฟ
- เชิญพบกับความอร่อยจากลาซานญ่า ฟักทอง และผักโขมของคุณได้เลย!
ลาซานญ่าเก็บเอาไว้ได้กี่วัน ?
สำหรับลาซานญ่าสำเร็จรูปที่ขายในซูเปอร์มาเก็ต สามารถแช่ตู้เย็นเอาไว้ได้ประมาณ 2 สัปดาห์ ในบรรจุภัณฑ์สุญญากาศ แต่ถ้าหากเป็นลาซานญ่าโฮมเมด ที่ซื้อมาจากฟู้ดคอร์ท หรือทำเอง ควรรับประทานให้หมดภายใน 2 วัน การแช่แข็ง จะยืดอายุของเส้นลาซานญ่าให้อยู่ได้นานถุง 1 เดือน
บทความที่เกี่ยวข้อง 6 ขั้นตอนการเตรียมอาหารโฮมเมดสำหรับวัยเริ่มหม่ำ
ที่มา : gourmetandcuisine.com , lacucinaitaliana.com