ปัสสาวะขัด (Dysuria) เป็นอาการปวดแสบ หรือแสบร้อนขณะ ปัสสาวะ ซึ่งพบเจอได้ในเด็กเช่นกัน เนื่องจากปัจจัยที่ทำให้เกิดความเสี่ยงนั้นมีอยู่หลายประการ และเป็นสัญญาณสำคัญที่กำลังบอกว่าร่างกายมีความเสี่ยงการติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ หากดูแลป้องกันให้ลูกมีพฤติกรรมที่ถูกต้องจะสามารถลดโอกาสเกิดปัสสาวะขัดได้
ทำไมจึงแสบร้อนระหว่างปัสสาวะ และมีอันตรายต่อเด็กอย่างไร
อาการปัสสาวะแล้วแสบร้อนจนทำให้ปัสสาวะติดขัด อาการนี้เรียกว่า “ปัสสาวะขัด (Dysuria)” ซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย รวมไปถึงในเด็กด้วยเช่นกัน เด็กอาจมีพฤติกรรมที่เพิ่มความเสี่ยง โดยเฉพาะการอั้นปัสสาวะ หากมีอาการดังกล่าว จะทำให้เด็กมีความเสี่ยงโรค UTI (Urinary Tract Infection) หรือกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ดังนั้นเมื่อลูกเดินมาบอกกับเราว่าเขามีอาการปวด หรือแสบขณะปัสสาวะไม่ควรนิ่งนอนใจ เนื่องจากการแสบ ร้อน หรือขัดเป็นอาการที่ร่างกายกำลังบ่งบอกถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้นได้หลากหลาย เช่น อาการอักเสบในระบบปัสสาวะ นิ่วในไต หรือการติดเชื้อในระบบปัสสาวะ เป็นต้น
อาการปัสสาวะขัดเกิดจากอะไรได้บ้าง
จากที่กล่าวไปข้างต้นว่าสาเหตุที่เกิดขึ้นของอาการขัด แสบ ระหว่างปัสสาวะมีอยู่ด้วยกันหลายสาเหตุ ซึ่งต้องคอยสังเกตพฤติกรรมของลูกด้วยว่าลูกมีพฤติกรรมเสี่ยงโรคใดบ้าง ซึ่งอาการจะมีมากกว่าการแสบร้อน หรืออาการปัสสาวะขัด โดยจะแบ่งตามจุดที่อวัยวะมีความผิดปกติ ได้แก่
- กระเพาะปัสสาวะอักเสบ (Cystitis) : ปัสสาวะน้อย สีขุ่น มีกลิ่น และมีอาการปวดบริเวณท้องน้อย
- กรวยไตอักเสบ (Pyelonephritis) : มีอาการไข้ คลื่นไส้ อาเจียน ปัสสาวะมีสีขุ่น และมีอาการปวดหลังบริเวณส่วนบน
- ช่องคลอดอักเสบ (Vaginitis) : มีอาการเจ็บ หรือคันบริเวณอวัยวะเพศ
- ท่อปัสสาวะอักเสบ (Urethritis) : มีอาการปัสสาวะบ่อย ปลายท่อปัสสาวะจะมีรอยแดง และมีของเหลวปรากฏในท่อปัสสาวะ
สาเหตุของการติดเชื้อในร่างกาย
โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ (UTI) ถือเป็นสาเหตุหลักของการเกิดอาการแสบร้อนขณะปัสสาวะ โดยอวัยวะที่เกิดการติดเชื้อเกิดได้หลายส่วน เช่น ท่อปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะ กรวยไตหรือไต เป็นต้น โดยจะติดเชื้อผ่านแบคทีเรีย สังเกตเพิ่มได้จากปัสสาวะมีสีขุ่น หรือสีชมพู หรือการติดเชื้อในไตที่มักเกิดขึ้นหลังจากการติดเชื้อในระบบปัสสาวะ เนื่องจากอยู่ติดกัน หากติดเชื้อบริเวณนี้จะต้องรีบพาลูกไปหาหมอเพื่อรักษาให้เร็วที่สุด เนื่องจากหากปล่อยไว้อาจมีอันตรายถึงชีวิต
บทความที่เกี่ยวข้อง : โรคนิ่ว ในเด็กเกิดได้อย่างไร และพ่อแม่ควรระวังลูกเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี
ปัจจัยที่ทำให้เด็กเสี่ยงการเกิด ปัสสาวะขัดแสบร้อน
สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าว ส่วนมากจะมาจากโรคที่มีความข้องเกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ หากเป็นพฤติกรรมจะข้องเกี่ยวกับการปัสสาวะ หรือกิจกรรมที่ส่งผลกระทบกับระบบในร่างกายด้านการขับถ่ายทั้งทางตรง และทางอ้อม ได้แก่
- เป็นโรคเบาหวานในเด็ก จะยิ่งทำให้เสี่ยงมากยิ่งขึ้น เพราะระบบภูมิคุ้มกันเด็กจะไม่แข็งแรง
- ร่างกายของเด็กอาจเกิดความผิดปกติมาตั้งแต่กำเนิด หรืออวัยวะไม่เหมือนเดิมจากการผ่าตัด
- เกิดการติดเชื้อได้จากผู้อื่นทั้งทางตรง และทางอ้อม เช่น เด็กไปใช้อุปกรณ์ของผู้ป่วยที่มีโรคติดเชื้อ เป็นต้น
- มีอาการเจ็บป่วย หรือโรคที่เกี่ยวข้อง เช่น เป็นนิ่ว, โรคไต หรือเนื้องอก เป็นต้น
- ทำกิจกรรมที่กระทบต่อระบบปัสสาวะ เช่น การปั่นจักรยานไม่ถูกท่าเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เด็ก ๆ หลายคนชอบทำ
- หากเป็นผู้หญิงอาจเกิดจากอาการระคายเคืองจากการใช้สบู่อาบน้ำส่วนมากจะพบส่วนผสมของน้ำหอม
- อาจเป็นผลข้างเคียงของการรักษาโรคอื่น ๆ หรือการใช้ยาบางชนิด ก่อนใช้จึงควรสอบถามผลข้างเคียงจากแพทย์ก่อน
ไม่อยากให้ลูกปัสสาวะแสบต้องทำอย่างไร
- ให้เด็กได้ทานอาหารครบทั้ง 5 หมู่ เป็นวิธีการป้องกันพื้นฐานที่สามารถฝึกให้ลูกทำได้ตั้งแต่ยังเด็ก ๆ เพื่อให้ลูกจำ และติดเป็นนิสัย อย่าลืมให้ลูกดื่มน้ำมาก ๆ 6-8 แก้วต่อวัน หากมีแบคทีเรียอยู่ในร่างกายจะสามารถช่วยขับออกมาผ่านปัสสาวะได้ด้วยเช่นกัน และเลี่ยงการทานอาหารที่มีคาเฟอีน
- ระวังอย่าให้เด็กอั้นปัสสาวะโดยไม่จำเป็น เพราะจะส่งผลโดยตรงกับความเสี่ยงปัสสาวะขัด ควรพาเด็กเข้าห้องน้ำทันทีที่มีโอกาส
- เด็กผู้ชายที่ไม่ได้ทำการขลิบอวัยวะเพศจะมีโอกาสที่จะเกิดการติดเชื้อได้มากกว่าเด็กที่ขลิบ เนื่องจากหากทำความสะอาดไม่ดีจะทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียได้
- ใส่เสื้อผ้า โดยเฉพาะชุดชั้นใน หรือกางเกงในที่สามารถระบายอากาศได้ดี พยายามให้ไม่เกิดการอับชื้น ให้เด็กใส่ชุดที่สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวก และมีความเหมาะสมกับสภาพอากาศในแต่ละพื้นที่
- ไม่ควรอาบน้ำ หรือทำการแช่น้ำเป็นเวลานานมากเกินไป ซึ่งเวลาเฉลี่ยในการอาบจะอยู่ที่ไม่เกิน 30 นาที
บทความที่เกี่ยวข้อง : ลูกมีไข้สูงไม่ทราบสาเหตุ อาจเกิดจากการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
ลูกปวดปัสสาวะระหว่างเดินทางแต่ไม่มีห้องน้ำควรทำอย่างไร
การอั้นปัสสาวะเป็นพฤติกรรมที่สามารถทำให้เกิดปัสสาวะขัดได้ สำหรับเด็กนั้นจะมีความอดทนไม่มาก จึงอาจเป็นอุปสรรคในบางครั้ง การเตรียมตัวไว้ก่อน รวมถึงรู้วิธีการรับมือกับการปวดปัสสาวะที่ไม่สามารถควบคุมได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ
- การเตรียมตัวไว้ก่อน : ก่อนการเดินทางทุกครั้ง เราไม่สามารถรู้ได้ว่าจะมีความต้องการใช้ห้องน้ำเมื่อใด ยิ่งหากเป็นเด็กอาจจะไม่สามารถอดทนได้เท่ากับผู้ใหญ่ ดังนั้นก่อนออกเดินทางจึงควรให้เด็กได้เข้าห้องน้ำก่อนเสมอ ถึงแม้เด็กจะไม่ร้องขอก็ตาม
- การแก้ปัญหาระหว่างทาง : หากเด็กต้องการปัสสาวะระหว่างทางแต่ไม่มีปั๊มน้ำมันสามารถทำได้ แต่ต้องอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย มีผู้ปกครองไปด้วย และต้องระวังไม่ให้ใกล้กับที่พักอาศัยของผู้อื่น
- เทคนิคที่สำคัญ : พยายามไม่ให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกายมาก เช่น การหัวเราะ หรือการสั่นขาสั่นตัว, พยายามชวนลูกคุยเพื่อให้ลูกมีสมาธิกับเรื่องอื่น, เลี่ยงการนำเครื่องดื่มใด ๆ ให้ลูกดื่มเพิ่ม, ทำให้ร่างกายอบอุ่นในระดับปกติ และการเปลี่ยนท่านั่งเพื่อลดการกดกระเพาะปัสสาวะก็สามารถช่วยได้เช่นกัน
ปัสสาวะขัดในเด็กสามารถรักษาได้หรือไม่
การรักษาสามารถรักษาได้ตามสาเหตุของการเกิดภาวะนี้ เช่น การรับยาในผู้ที่มีเชื้อแบคทีเรีย เป็นต้น และเนื่องจากความรุนแรงของโรคที่อาจเกิดตามมา หากลูกมีอาการปวดแสบขณะปัสสาวะ คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรปล่อยไว้ให้หายเอง แต่ควรพาลูกไปตรวจถึงสาเหตุ หากพบเชื้อแบคทีเรียจริงจะสามารถรักษาได้ก่อนเป็นโรคร้ายแรงอื่น ๆ ต่อไป ในส่วนของอาการที่รุนแรงที่อาจพบได้ในภาวะปัสสาวะขัดในเด็ก ได้แก่
- มีเลือดปนในปัสสาวะ
- ไม่สามารถอั้นปัสสาวะได้ หรือปัสสาวะบ่อย
- มีอาการปวดบริเวณท้อง และหลัง
- มีอาการไข้
หลังปรึกษากับแพทย์แล้ว ให้เด็กปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด คุณพ่อคุณแม่ต้องคอยดูแลพฤติกรรมของเด็กให้เด็กทานยาตรงเวลา และพยายามอย่าให้เด็กอั้นปัสสาวะจึงจะปลอดภัยที่สุด
ที่มาข้อมูล :thestandard.co , th.wikihow.com , healthsmile.co.th , pobpad.com, webmd.com
บทความที่น่าสนใจ
รู้ทัน! สัญญาณและอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหลังคลอด
ปัสสาวะมีกลิ่น ตอนตั้งครรภ์ แบบนี้ปกติหรือไม่ อันตรายหรือเปล่า