ตาแห้ง เกิดจากสาเหตุอะไร มีโอกาสเสี่ยงทำให้ตาบอดจริงไหม?

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ตาแห้ง ถือเป็นภาวะที่หลาย ๆ คนในปัจจุบันพบเจอเป็นจำนวนมาก ดังนั้น บทความวันนี้เราจะพาไปหาสาเหตุหลักกันค่ะว่าอาการตาแห้งที่เกิดขึ้นนั้นสามารถเกิดขึ้นจากอะไรได้บ้าง และจะมีอาการอย่างไร รวมถึงวิธีการป้องกันการเกิดอาการตาแห้งขึ้น ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันเลย

 

ตาแห้ง เกิดจากสาเหตุอะไร

สำหรับอาการตาแห้งถือเป็นอาการที่มีสาเหตุเกิดขึ้นหลากหลายปัจจัย เช่น อาจจะเกิดจากต่อมน้ำตาทำงานผิดปกติตั้งแต่เกิด หรือจากโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือเกิดจากการที่ดวงตาผลิตน้ำตา หรือสารหล่อลื่นดวงตาไม่มาก พอที่จะคงความชุ่มชื้นของดวงตาไว้ได้นั่นเองค่ะ หรือจะเกิดจากการที่ฮอร์โมนต่าง ๆ นั้นเกิดการเปลี่ยนแปลงก็สามารถส่งผลให้ตาแห้งได้ค่ะ ซึ่งมักพบในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน เพราะอายุที่มากขึ้นจะทำให้เยื่อบุต่าง ๆ ในร่างกายผลิตน้ำได้น้อยลงค่ะ

และการใช้ยาบางประเภทก็อาจจะส่งผลทำให้ตาแห้งได้เช่นกันนะคะ เพราะมีส่วนผสมของสารกันเสีย เช่น ยาแก้หวัด ยาแก้แพ้ ยาลดความดันโลหิต เป็นต้น นอกจากนี้ การใช้สายตามากเกินไปก็ส่งผลเสียทำให้เกิดตาแห้งได้เช่นกัน ซึ่งหลาย ๆ คนที่เกิดอาการตาแห้งโดยส่วนใหญ่ก็อาจจะเป็นเพราะสาเหตุนี้ ซึ่งพฤติกรรมการใช้สายตามากเกินไปมักจะพบมากในวัยทำงาน โดยเฉพาะคนที่ทำงานโดยใช้งานคอมพิวเตอร์ และสวมคอนแทคเลนส์เป็นประจำอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานค่ะ

 

อาการตาแห้ง

 

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • ตาแดง
  • ตาพร่ามัว มองเห็นสิ่งต่าง ๆ ไม่ชัด
  • รู้สึกระคายเคืองตา แสบ ไม่สบายตา
  • มีน้ำตาไหลมาก
  • แพ้แสง ตาสู้แสงไม่ได้
  • มีเมือกดวงตาเป็นเส้น ๆ ในตา
  • รู้สึกเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในตา

 

ตาแห้งเสี่ยงทำให้ตาบอดจริงไหม?

ปกติแล้วอาการตาแห้งมักจะมีอาการที่ไม่รุนแรงมาก แต่ถ้าหากปล่อยให้ตาแห้งนาน ๆ จนก่อให้เกิดอาการเปลือกตาอักเสบเกิดแผลที่กระจกตา มีอาการน้ำตาไหลเยอะ ก็อาจจะต้องเข้ารับการผ่าตัด หรือถ้าหากเกิดอาการที่อาจรุนแรงกว่านี้ก็อาจถึงขั้นตาบอดได้เช่นกันนะคะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : โรคตาบอดสี เป็นอย่างไร ทำอย่างไรเมื่อสีแดงดูเหมือนสีน้ำตาล

แสงสีฟ้าอันตรายต่อดวงตาอย่างไรบ้าง?

แสงสีฟ้า เรียกได้ว่าเป็นภัยร้ายเงียบต่อสายตาของมนุษย์มาก ๆ เลยค่ะ โดยเฉพาะคนที่ใช้สายตาหนักจากการเพ่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์เป็นระยะเวลานาน ก็จะส่งผลเสียทำให้กล้ามเนื้อในดวงตาของคุณมีอาการตาล้า ตาแห้ง จนเกิดการระคายเคือง และเกิดเป็นแผลในนัยน์ตาได้ ส่งผลให้ดวงตานั้นเกิดการเสื่อมสภาพก่อนวัยอันควร ซึ่งอันตรายจากแสงสีฟ้าก็จะทำให้เกิดอาการต่าง ๆ ตามมา โดยจะแบ่งออกเป็น ดังนี้

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

  • อาการตาแห้ง (Dry Eyes)

หากใครที่จะต้องจดจ้องคอมพิวเตอร์เป็นระยะนาน ๆ ก็จะทำให้เกิดอาการตาแห้งขึ้นได้นะคะ เนื่องจากหน้าจอของคอมพิวเตอร์นั้นจะมีรังสี UV คลื่นแสงสีฟ้าที่มีความเข้มข้นสูงอยู่ ดังนั้น ถ้าหากจ้องจอคอมพิวเตอร์นาน ๆ ก็จะทำให้เกิดผลข้างเคียงต่าง ๆ ตามมา เช่น อาการคันตา และตาแดงร่วมด้วย และถ้าหากปล่อยทิ้งไว้ไม่รีบรักษา ก็อาจจะทำให้ผิวกระจกตาอักเสบ และเกิดรอยแผลบนกระจกตาได้ ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองต่อดวงตา และกระทบในการใช้สายตาในชีวิตประจำวันอีกด้วยค่ะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • การนอนหลับ (Insomnia)

การได้รับคลื่นพลังงานแสงสีฟ้ามากเกินไปอาจจะส่งผลกระทบต่อการนอนหลับได้เช่นกันนะคะ เพราะแสงสีฟ้าจากหน้าจอจะทำให้ต่อมไพเนียล (Pineal gland) นั้นสร้างฮอร์โมนเมลาโทนิน (Melatonin) จากสมองน้อยลง ทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิทเกิดขึ้น

 

  • โรคจอประสาทตาเสื่อม (Macular Degeneration)

การที่ดวงตานั้นได้รับคลื่นพลังงานแสงสีฟ้าจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ก็อาจจะส่งผลเสียทำให้เกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม (Macular Degeneration) ได้ค่ะ และทำให้เกิดอาการตามัวขึ้น หรือประสิทธิภาพการมองเห็นนั้นเกิดการเสื่อมสภาพลงไปเรื่อย ๆ นั่นเอง อย่างเช่น เห็นภาพสีเพี้ยน มองไม่ชัด  ตาไม่สู้แสง เห็นจุดดำตรงกลางภาพ เป็นต้น แนะนำให้รีบรักษานะคะ ไม่ควรปล่อยทิ้งไว้ เพราะอาจจะทำให้ตาบอดได้

บทความที่เกี่ยวข้อง : โรคตาที่ต้องระวัง แก้ไข และป้องกันได้อย่างไร

 

วิธีป้องกันตาแห้ง

 

 

  • หากใครที่เกิดอาการตาแห้งจากการใช้สายตาหนักเกินไปจากการเพ่งจ้องหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์ ควรหยุดพักใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์ทุก ๆ 30 นาที หรืออาจหลับตาพักสายตาสัก 2-3 นาที หรือมองไกล ๆ สัก 20 ฟุต เพื่อทำให้ดวงตานั้นผ่อนคลาย และสบายตามากขึ้น
  • สำหรับใครที่มีอาการตาแห้ง และเกิดการระคายเคืองตาเกิดขึ้น แนะนำให้หยอดน้ำตาเทียมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นกับดวงตานะคะ
  • และถ้าหากเกิดอาการตาแห้งจากการใส่คอนแทคเลนส์ ควรงดการใช้คอนแทคเลนส์อย่างต่อเนื่องไปก่อนนะคะ
  • หลีกเลี่ยงการใช้งานคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์ในที่ที่มีแสงสว่างน้อย
  • กะพริบตาให้บ่อย ๆ เพื่อที่จะได้ให้น้ำตาเคลือบดวงตาอยู่เป็นระยะ ๆ
  • ถ้าหากอยู่ในที่อากาศแห้ง ร้อน หรือลมแรง แนะนำให้สวมแว่น เพื่อกันแดด และกันลม

 

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สำหรับข้อมูลที่เรานำมาฝากกันวันนี้ ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการตาแห้ง รวมถึงวิธีป้องกันต่าง ๆ ดวงตาถือเป็นอวัยวะสำคัญที่ผู้ควรหมั่นดูแลบำรุงสายตา และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่าง เพื่อให้การมองเห็นของคุณนั้นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และหลีกเลี่ยงปัญหาอาการทางสายตา หรือโรคแทรกซ้อนทางดวงตาตามมา หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์สำหรับทุกคนนะคะ

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ลูก คันตา เกิดจากสาเหตุอะไร เป็นเพราะเยื่อบุตาอักเสบจากภูมิแพ้ได้หรือไม่ ?

9 ผัก ผลไม้สีส้ม แหล่งรวมวิตามิน บำรุงสายตา เสริมภูมิคุ้มกัน ผิวสดใสแข็งแรง !!

10 วิตามินบำรุงสายตา ยี่ห้อไหนดี ช่วยถนอมสายตา และปกป้องดวงตาให้แข็งแรง

ที่มา : bangkokhospital, samitivejchinatown

บทความโดย

Suttida Butdeewong