มีความสุขกับการดื่มชา ไขข้อข้องใจช่วงตั้งครรภ์คุณแม่ดื่มชาอย่างไรถึงจะพอดี ?

คุณแม่ตั้งครรภ์สามารถ มีความสุขกับการดื่มชา ได้หรือไม่? วันนี้ชวนมาไขข้อข้องใจช่วงตั้งครรภ์คุณแม่ดื่มชาอย่างไรถึงจะพอดี เราเข้าใจดีว่าคุณแม่บางท่านที่ติดการดื่มชา หรือกาแฟเป็นอย่างมาก และในกรณีที่ไม่สามารถงดดื่มได้จริงๆ แต่ต้องแน่ใจว่าต้องไม่ใช่เครื่องดื่มชาประเภทชา ที่บรรจุขวดสำเร็จรูปวางขายตามท้องตลาดนะคะ เพราะถ้าพลิกดูฉลากด้านหลังแล้วอาจจะต้องตกใจกับปริมานน้ำตาลที่สูงมาก แน่นอนว่าย่อมไม่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพไม่เป็นผลดีกับร่างกาย และอาจให้โทษด้วยซ้ำค่ะ และสำคัญมากเพราะการรับประทานน้ำตาลเกินความจำเป็นขณะตั้งครรภ์มีโอกาสในการเกิดโรคสูงมากขึ้น ดังนั้นคุณแม่ตั้งครรภ์ทั้งหลายที่อยาก มีความสุขกับการดื่มชา ควรดื่มอย่างพอดีนั้นเป็นอย่างไร มาดูกัน

เชื่อว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ทั้งหลาย ทุกช่วงไตรมาสต้องมีการระมัดระวังเรื่องการกินเป็นพิเศษอยุ่แล้วจริงไหมคะ แต่บางครั้งคุณแม่ตั้งครรภ์ก็มีอาการอยากกินบางอย่างที่เคยชอบกิน หรือไม่บางครั้งก็เป็นสิ่งที่ปกติไม่ชอบกินแต่พอมีครรภ์ก็นึกอยากกิน ซะงั้น ไม่ต้องแปลกใจค่ะ ถือเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากคุณแม่มีข้อห้ามหลายอย่างในการรับประทานอาหาร ต้องระวังมากเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ เรื่องการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องทราบกันดีอยู่แล้วแต่ทราบไหมคะว่าการ มีความสุขกับการดื่มชา เป็นเครื่องดื่มช่วยบำรุงสุขภาพได้อีกทางหนึ่ง แต่มีข้อระวังที่ต้องควรศึกษาและควรรู้ก่อนจะหยิบเจ้าชาเหล่านี้เข้าสู่ร่างกายค่ะแท้จริง มาดูคำแนะนำเหล่านี้กันดีกว่า

• แต่ถ้าคุณแม่ท่านใดต้องการดื่มชาแบบให้ได้ประโยชน์ต่อสุขภาพ คุณแม่ก็ยังคงสามารถมีความสุขกับการดื่มชาได้เหมือนกัน เพียงแต่จะต้องจำกัดปริมาณของการรับคาเฟอีนที่ได้รับจากชาให้น้อยลงกว่าปกติค่ะ เรียกได้ว่า จิบได้แต่พองาม
•  ซึ่งโดยปกติแล้วคุณแม่ตั้งครรภ์ไม่ควรให้ร่างกายได้รับปริมาณคาเฟอีนจากการดื่มชามากเกินวันละ 100-200 มิลลิกรัมนะคะถ้าคุณแม่สามารถควบคุมการดื่มเครื่องดื่มชาที่มีคาเฟอีนในปริมาณไม่เกินนี้ได้ก็ถือว่าไม่เป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ค่ะ

ไม่ว่าจะเป็นเครื่องดื่มประเภทชาหรือกาแฟ ทั้งคู่ก็จะมาพร้อมกับสารคาเฟอีน ซึ่งถ้าไม่พูดถึงคุณแม่ตั้งครรภ์ คนธรรมดาถ้าได้รับคาเฟอีนที่มากเกินไปยังส่งผลเสีย นับประสาอะไรกับคุณแม่ที่ตั้งครรภ์ย่อมมีผลเสียที่มากกว่าคนธรรมดาแน่นอน  ซึ่งผลการวิจัยจากทางการแพทย์ สารคาเฟอีนสามารถถ่ายทอดผ่านสายรกไปสู่ทารกในครรภ์ได้ค่ะ หากดื่มชากาแฟมากๆ อาจมีผลกระทบต่อกระบวนการเจริญเติบโตของทารกและสุขภาพของคุณแม่โดยตรง แต่ถึงอย่างไรก็ตาม จะยังไม่มีรายงานผลสรุปในเรื่องดังกล่าวชัดเจน ว่าชาหรือกาแฟจะเป็นเครื่องดื่มอันตรายต่อทารกแต่ทางคุณแม่ตั้งครรภ์ควรจำกัดปริมานการดื่มชา เพราะในยุคนี้มีชาผลิตออกมาหลายรูปแบบ เย้ายวนใจให้มีความสุขกับการดื่มชาดื่มได้ง่ายและมีการตลาดมากมายที่เย้ายวนค่ะ  เพื่อสุขภาพของตัวคุณแม่เองและเพื่อความปลอดภัยของทารกน้อย แพทย์จึงแนะนำให้คุณแม่ดื่มได้แต่ก็ให้ดื่มในปริมานที่พอดี

มีความสุขกับการดื่มชาและได้รับประโยชน์อย่างไรในระหว่างการตั้งครรภ์

• บรรเทาอาการปวดฟันในชาเขียวมีสารคาเทชิน ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย เชื้อไวรัสในช่องปาก ทำให้เหงือกและฟันแข็งแรงมากยิ่งขึ้น และใครมีอาการปวดฟัน สามารถลดอาการปวดฟันได้
• ช่วยลดความดันเลือดระหว่างตั้งครรภ์และนอกจากนั้น ชาเขียวมีสารโพลีฟีนอล ซึ่งมีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ยังช่วยลดความดันในเลือดระหว่างตั้งครรภ์ ช่วยป้องกันเซลล์ในร่างกายไม่ให้เสื่อมสภาพ ทำให้เซลล์แข็งแรง
• ฟื้นฟูสภาพผิวและบำรุงผิวพรรณในชาเขียวนั้น มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ และสารต่อต้านอาการอักเสบที่เกิดขึ้นจากการเป็นสิวในระหว่างตั้งครรภ์ ลดการเกิดสิวได้ดี
• บรรเทาอาการของโรคซึมเศร้าคุณแม่ท้องบางคนเกิดอาการซึมเศร้าระหว่างตั้งครรภ์ได้ เพราะระดับฮอร์โมนที่เพิ่มสูงขึ้นในช่วงตั้งครรภ์ ในชาเขียวนั้นมีกรดอะมีโนชนิดหนึ่งที่มีชื่อว่า “ธีอะนีน” สรรพคุณ ทำให้สมาธิดีขึ้น ชผ่อนคลายความเครียด มีกรดอะมีโน ช่วยให้แม่ท้องหลับสนิทมากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายพักผ่อนได้อย่างเต็มที่ ตื่นมาด้วยความสดชื่น ไม่อ่อนเพลีย

ที่มา : 1 2

บทความที่เกี่ยวข้อง :คนท้องดื่มชาเขียวได้ไหม จริงๆแล้วมันมีประโยชน์หรือโทษกันแน่?

เรามาดูวิธีการ มีความสุขกับการดื่มชา และเหมาะสมกับช่วงเวลาตั้งครรภ์กันค่ะ

ในใบชาอุดมไปด้วยสารอาหารมากมายหลายร้อยชนิด สารอาหารสำคัญมากอย่างคาเทชิน (Catechin) เป็นสารประกอบที่มีฤทธิ์ในการช่วยดักจับ สารอนุมูลอิสระ และนอกจากนั้น ยังมีธีอะนิน (Theanine) ซึ่งเป็นกรดอะมิโนที่มีฤทธิ์ การทำงานที่มีความสัมพันธ์กันกับเส้นประสาทของร่างกาย คุณสมบัติหลักเลยคือเมื่อดื่มชาแล้วทำให้รู้สึก ผ่อนคลาย นึกถึงชาวญี่ปุ่นที่มีวิถีชีวิตที่เกิดมากับการดื่มชา ชาจึงช่วยในการผ่อนคลายและใช้ชีวิตแบบมีความสมดุลได้ดี อีกทั้งยังช่วยให้สดชื่น กระปรี่กระเปร่า ตื่นตัว และที่สำคัญไปคือ หากต้องการดื่มชาแบบให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากที่สุด คุณแม่ท้องควรดื่มขณะชงเสร็จร้อนๆ ใหม่ๆ ไม่ควรดื่มในรูปแบบเย็นนะคะ ยิ่งชาเขียวเย็นใส่นมหรือ ชานมไข่มุกที่ฮิตกันในปัจจุบัน อาจต้องงด เพราะชาเหล่านี้มีน้ำตาลและมีความเย็นสูงไม่เหมาะกับหญิงตั้งครรภ์ และเพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากใบชามากกว่าการชงดื่มแบบเย็นที่กล่าวมานั้น การดื่มแบบร้อนจะได้รับคุณค่าจากใบช้าได้ดีกว่า เพราะการดื่มในรูปแบบเย็นจะทำให้คุณประโยชน์ก็จะค่อยๆ ลดลงไปจนไม่เหลือคุณประโยชน์สำหรับการดื่มแต่อย่างไร

แต่การดื่มด่ำมีความสุขกับการดื่มชาแสนอร่อยในรูปแบบชาร้อน คุณแม่บางท่านอาจมีคำถามว่า เราสามารถใส่ในกระติกน้ำร้อน กาน้ำชาที่มีตัวกรองชา ไว้จิบทั้งวันได้ใช่ไหมค่ะ ก็ต้องขอตบว่า ไม่ควรค่ะ เพราะการดื่มชาให้ได้ประโยชน์สูงสุดอีกประการหนึ่งก็คือ ไม่ควรปล่อยชาเอาไว้ในกาน้ำชาหรือกระติกน้ำร้อน นานเกินกว่า 2 ชั่วโมง เพราะหลังจากที่ชงแล้วก็ควรดื่มให้หมดในคราวเดียวกัน เพราะสารคาเทชินที่อยู่ในใบชา จะดักจับและรวมตัวกันกับออกซิเจนในอากาศและในน้ำ ถ้าเราสังเกตดีดี การชงชารูปแบบนี้ ส่งผลทำให้สีของน้ำชาคล้ำขึ้นอย่างเห็นได้ชัดค่ะ  รสชาติน้ำชาก็จะฝาดลิ้นมากขึ้น เพราะมีกรดแทนนินในปริมาณสูง ย้ำเลยค่ะ ว่าหากดื่มชาในตอนที่มีรสฝาด ทำให้การดูดซึมสารอาหารเป็นไปได้น้อยมาก ประสิทธิภาพการย่อยลดลง  ส่งผลเสียต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ของคุณแม่ตั้งครรภ์แน่ๆค่ะ

มาถึงตรงนี้แล้ว คุณแม่ตั้งครรภ์หลายๆท่านอาจเตรียมออกไปซื้อใบชามาดื่มร้อนกันแล้ว แต่ก็ต้องขอย้ำตรงนี้ว่า แม้การดื่มชาจะมีประโยชน์สำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์หากจิบชาร้อนๆ แก้กระหายบ้างในบางเวลา บางโอกาสนะคะ ไม่ควรดื่มบ่อยก็ และไม่ควรดื่มมากเกินไปหรือดื่มแทนน้ำ หากกต้องการดื่มจริงๆ ก็ควรดื่มในปริมาณจำกัดต่อวันตามที่แจ้งไว้ด้านบนจะดีกว่าค่ะ โดยอาจดื่มเพียงแก้วเล็กๆ ให้พอหายอยากก็พอ

ดังนั้นเมื่อรู้แบบนี้แล้ว เรายังมีชาชนิดอื่นๆที่อยากจะแนะนำเพิ่มเติม ไม่ใช่แค่ใบชาหรือชาเขียวค่ะเพื่อเป็นไอเดียเพิ่มเติมให้คุณแม่ ได้มีเครื่องดื่มเป็นตัวเลือกในการผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นนะคะ

•  ชาโป๊ยกั๊ก ชาโป๊ยกั๊ก หรือโป๊ยกั๊ก เป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่งที่อยู่ในผงพะโล้ มีส่วนช่วยในระบบย่อยอาหาร ลดอาการอยากอาเจียนในช่วงแพ้ท้อง บรรเทาอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ จุกเสียด แน่นท้อง และช่วยย่อยอาหารย่อยยาก สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่มีปัญหาท้องอืด  ปรับการทำงานของลำไส้ให้เป็นปกติได้ดีเลยค่ะ
• ชาใบเตย ตรงนี้อาจรุ้จักกันดี เพราะใบเตยสรรพคุณ ช่วยคลายร้อนมีกลิ่นหอมชื่นใจ และลดน้ำตาลในเลือดแต่ต้องระวังงดรับประทานน้ำใบเตยในรูปแบบขวดสำเร็จรูปนะคะ เพราะมีน้ำตาลสูง
•  ชามะตูม มะตูม มีกลิ่นหอมหวาน รสชาติอร่อย คลายร้อนใน บำรุงธาตุ แก้ร้อนในได้ดีเหมาะกับช่วงเวลาน่าร้อน เช่นกันงดรับประทานน้ำมะตูมในรูปแบบขวดสำเร็จรูป เพราะมีน้ำตาลสูงมีโทษมากกว่าประโยชน์แน่นอนค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : คนท้องดื่มชาเขียวได้ไหม จริงๆแล้วมันมีประโยชน์หรือโทษกันแน่?

สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ที่ติดการดื่มกาแฟ การหันมาดื่มชาเขียวหรือชาร้อนๆ ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนเช่นกันแต่ต้องยอมรับว่าไม่มากเท่าคาเฟอีนในกาแฟค่ะ การดื่มชาร้อนก็ยังยังดีกว่าการดื่มกาแฟมาก ขอแนะนำว่าควรงดดื่มกาแฟแล้วหันมาดื่มชาเขียวหรือชาร้อนๆแทนจะดีกว่าค่ะ หมดกังวลอาการคุณแม่ตั้งครรภ์ที่อาจมีสาเหตุมาจากคาเฟอีน