8 ข้อห้ามหลังคลอด หยุด! พฤติกรรมเสี่ยง ที่แม่มือใหม่ต้องระวัง

lead image

คุณแม่อาจพบว่าหลังคลอด มีข้อห้ามมากมายที่ต้องระวัง มาดูกันค่ะว่า ข้อห้ามหลังคลอด มีอะไรบ้างที่ต้องระวัง และทำไมถึงห้าม

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การตั้งครรภ์หนึ่งครั้งคุณแม่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ร่างกายคุณแม่หลังคลอดจึงต้องการฟื้นฟูอย่างเหมาะสม ซึ่งคุณแม่อาจพบว่ามี ข้อห้ามหลังคลอด มากมายที่ต้องระวัง มาดูกันค่ะว่า ข้อห้ามหลังคลอด มีอะไรบ้างที่ต้องระวัง และเพราะอะไร เพื่อที่คุณแม่จะสามารถหลีกเลี่ยงความเสี่ยงต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้

 

8 ข้อห้ามหลังคลอด ที่แม่มือใหม่ต้องระวัง

1. ไม่ควรยกของหนัก

ในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังคลอด ควรหลีกเลี่ยงการยกของหนัก (ที่มีน้ำหนักมากกว่าน้ำหนักของทารก) ควรขอความช่วยเหลือจากสมาชิกในครอบครัวในการดูแลทารกและทำงานบ้านต่างๆ แทน หากจำเป็นต้องยกของ ควรยกอย่างถูกวิธี โดยใช้กล้ามเนื้อขาช่วย และไม่ก้มหลัง

ทำไมจึงห้ามยกของหนักหลังคลอด?

  • หลังคลอด โดยเฉพาะการผ่าคลอด กล้ามเนื้อหน้าท้องของคุณแม่จะอ่อนแอมาก การยกของหนักเกินไปจะเพิ่มแรงดันในช่องท้อง ส่งผลให้แผลผ่าตัดปริแตก แผลหายช้า หรือเกิดอาการปวดหลังเรื้อรังได้
  • การคลอดธรรมชาติก็ส่งผลให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานยืดขยาย การยกของหนักเกินไปจะทำให้กล้ามเนื้อเหล่านี้หย่อนคล้อย เกิดปัญหามดลูกต่ำ หรือปัสสาวะเล็ดได้
  • การยกของหนักอาจทำให้เกิดภาวะเลือดออกหลังคลอดมากขึ้น เพราะมดลูกอาจหดรัดตัวได้ไม่ดีพอ
  • การออกแรงมากเกินไปอาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น ไส้เลื่อน หรือปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง


2. ไม่ควรออกแรงเบ่งแรงๆ

หลังคลอด ควรหลีกเลี่ยงการเบ่งถ่ายอุจจาระแรง ๆ หรือนานๆ หากมีอาการท้องผูก ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับยาระบายที่ปลอดภัย หากมีอาการไอหรือจาม ควรใช้มือประคองแผลผ่าตัด (กรณีผ่าคลอด) เพื่อลดแรงกระแทก

ทำไมจึงห้ามออกแรงเบ่งหลังคลอด?

  • กระทบต่อแผลฝีเย็บ การคลอดธรรมชาติมักมีการตัดฝีเย็บเพื่อขยายช่องคลอด การออกแรงเบ่งมากเกินไปหรือนานเกินไป อาจทำให้แผลฝีเย็บปริแตก แผลหายช้า หรือเกิดอาการปวดแผลได้
  • กระทบต่อแผลผ่าตัด แม้จะไม่ได้เบ่งคลอด แต่การออกแรงเบ่งในลักษณะอื่น ๆ เช่น เบ่งถ่ายอุจจาระ หรือเบ่งขณะไอจาม ก็อาจส่งผลเสียต่อแผลผ่าตัดได้ ทำให้แผลหายช้า หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
  • กระทบต่อกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน การคลอดบุตรส่งผลให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานยืดขยาย การออกแรงเบ่งมากเกินไปจะทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแอลง เกิดปัญหามดลูกต่ำ ปัสสาวะเล็ด หรืออุจจาระเล็ดได้
  • เสี่ยงต่อริดสีดวงทวาร การเบ่งเป็นเวลานานจะเพิ่มแรงดันในช่องทวารหนัก ทำให้เส้นเลือดบริเวณนั้นโป่งพอง เกิดเป็นริดสีดวงทวาร ซึ่งทำให้คุณแม่เจ็บปวดและไม่สบายตัวได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

3. ไม่ควรเดินขึ้น-ลงบันไดบ่อยๆ

หลังคลอด ควรเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ และระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเคลื่อนไหวที่อาจทำให้แผลตึง หากจำเป็นต้องเดินขึ้น-ลงบันได ควรทำเท่าที่จำเป็น และจับราวบันไดให้มั่นคง

ทำไมจึงห้ามขึ้น-ลงบันได้หลังคลอด?

  • การเดินขึ้น-ลงบันไดเป็นการออกแรงที่ต้องใช้กล้ามเนื้อหน้าท้องและกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานค่อนข้างมาก ซึ่งอาจทำให้แผลฝีเย็บหรือแผลผ่าตัดตึงและหายช้า
  • หลังคลอด คุณแม่อาจมีอาการอ่อนเพลีย เวียนศีรษะ หรือรู้สึกไม่มั่นคง การเดินขึ้น-ลงบันไดจึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการพลัดตก ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทั้งคุณแม่และทารก
  • การเดินขึ้น-ลงบันไดเป็นการออกแรงที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานอ่อนแอลง และเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหามดลูกต่ำ หรือปัสสาวะเล็ดได้

4. ไม่ควรขับรถโดยไม่จำเป็น

ในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังคลอด คุณแม่ไม่ควรขับรถโดยไม่จำเป็น หากจำเป็นต้องขับรถ ควรขับรถในระยะทางใกล้ๆ และหลีกเลี่ยงการขับรถในเวลาเร่งด่วน

ทำไมจึงห้ามขับรถหลังคลอด?

  • หลังคลอด ร่างกายของคุณแม่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ อาจมีอาการอ่อนเพลีย เวียนศีรษะ หรือปวดเมื่อย การขับรถต้องใช้สมาธิและการควบคุมร่างกาย ซึ่งอาจเป็นอันตรายได้
  • โดยเฉพาะคุณแม่ที่ผ่าคลอด แผลผ่าตัดยังไม่หายสนิท การนั่งขับรถเป็นเวลานานอาจทำให้แผลตึง หรือเกิดอาการปวดแผลได้
  • การขับรถอาจทำให้เกิดแรงกระแทกต่อบริเวณแผลได้ไม่ว่าจะเป็นแผลผ่าคลอด หรือแผลฝีเย็บ
  • หลังคลอด คุณแม่อาจมีอาการนอนไม่พอ หรือมีระดับฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง ซึ่งส่งผลต่อสมาธิและปฏิกิริยาตอบสนองในการขับรถ
  • การใช้ยาแก้ปวดบางชนิดที่คุณแม่หลังคลอดใช้ ก็มีผลทำให้เกิดอาการง่วงซึมได้
  • หากคุณแม่ต้องพาทารกไปด้วย การขับรถอาจทำให้คุณแม่ไม่มีสมาธิในการดูแลทารกได้อย่างเต็มที่


Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

5. ไม่ควรออกกำลังกายหักโหม

ในช่วงแรกหลังคลอด ควรเน้นการพักผ่อน และทำกายบริหารเบาๆ เพื่อช่วยฟื้นฟูร่างกาย เช่น การเดินเบาๆ การยืดเหยียดกล้ามเนื้อ หรือการทำกายบริหารกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน (Kegel exercise) เมื่อร่างกายฟื้นตัวดีขึ้น สามารถค่อยๆ เพิ่มความหนักของการออกกำลังกายได้ แต่ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อน

ทำไมจึงห้ามออกกำลังกายหักโหมหลังคลอด?

  • หลังคลอด ร่างกายของคุณแม่ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟู การออกกำลังกายหักโหมเกินไปอาจทำให้ร่างกายฟื้นตัวช้าลง เกิดอาการปวดเมื่อย หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนได้
  • โดยเฉพาะคุณแม่ที่ผ่าคลอด แผลผ่าตัดยังไม่หายสนิท การออกกำลังกายหักโหมอาจทำให้แผลปริแตก หรือเกิดอาการปวดแผลได้
  • หลังคลอด คุณแม่อาจมีอาการปวดหลัง หรือข้อต่อต่างๆ การออกกำลังกายหักโหมอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บได้

 

6. ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์จนกว่าแผลจะหาย

เพื่อความปลอดภัยและฟื้นฟูร่างกายอย่างเต็มที่ ควรหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ในช่วง 4-6 สัปดาห์แรกหลังคลอด หรือจนกว่าจะได้รับการตรวจสุขภาพหลังคลอดจากแพทย์ เพื่อให้แน่ใจว่าแผลผ่าตัด หรือแผลฝีเย็บหายสนิทดีแล้ว นอกจากนี้ แม้ว่าประจำเดือนจะยังไม่กลับมาเป็นปกติ แต่ก็มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ จึงควรปรึกษาแพทย์ถึงวิธีคุมกำเนิดเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ใหม่เร็วเกินไป

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ทำไมจึงห้ามมีเพศสัมพันธ์หลังคลอด?

  • หลังคลอด ร่างกายของคุณแม่ยังอยู่ในช่วงฟื้นฟู โดยเฉพาะมดลูกที่ต้องกลับคืนสู่สภาพเดิม การมีเพศสัมพันธ์เร็วเกินไปอาจทำให้เกิดการติดเชื้อ หรือมีเลือดออกหลังคลอดมากขึ้น
  • สำหรับคุณแม่ที่ผ่าคลอด แผลผ่าตัดที่หน้าท้องต้องใช้เวลาในการสมานตัว การมีเพศสัมพันธ์ที่ต้องมีการเคลื่อนไหว อาจทำให้แผลหายช้า หรือเกิดอาการปวดแผลได้
  • สำหรับคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติ หากมีการตัดฝีเย็บ แผลบริเวณนั้นก็ต้องใช้เวลาในการหาย การมีเพศสัมพันธ์เร็วเกินไปอาจทำให้แผลปริแตก หรือเกิดการติดเชื้อได้

7. ไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงให้นมลูก

ในช่วงให้นมลูก ควรหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์โดยเด็ดขาด หากคุณแม่ต้องการดื่มแอลกอฮอล์ ควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ และควรรอให้แอลกอฮอล์ถูกกำจัดออกจากร่างกายจนหมดก่อนให้นมบุตร ซึ่งอาจใช้เวลานานหลายชั่วโมง นอกจากนี้ การปั๊มนมทิ้งหลังดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สามารถกำจัดแอลกอฮอล์ออกจากน้ำนมได้ทั้งหมด

ทำไมจึงห้ามดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงให้นมลูก?

  • แอลกอฮอล์สามารถซึมผ่านเข้าสู่น้ำนมแม่ได้ เมื่อทารกได้รับน้ำนมที่มีแอลกอฮอล์ผสมอยู่ อาจส่งผลเสียต่อพัฒนาการทางสมองและร่างกายของทารกได้
  • ทารกไม่สามารถกำจัดแอลกอฮอล์ออกจากร่างกายได้เร็วเท่าผู้ใหญ่ ทำให้แอลกอฮอล์อยู่ในกระแสเลือดของทารกได้นาน
  • การได้รับแอลกอฮอล์ผ่านน้ำนมแม่อย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลต่อการนอนหลับของทารก ทำให้ทารกนอนหลับไม่สนิท หรือมีปัญหาในการนอนหลับ

 

8. ไม่ควรใช้ผ้าอนามัยแบบสอด

ในช่วง 4-6 สัปดาห์แรกหลังคลอด หรือจนกว่าจะได้รับการตรวจสุขภาพหลังคลอด ควรใช้แผ่นอนามัยแบบแผ่นปกติเท่านั้น และควรเปลี่ยนแผ่นอนามัยบ่อยๆ เพื่อรักษาความสะอาด และลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ

ทำไมจึงห้ามใช้ผ้าอนามัยแบบสอดหลังคลอด?

  • หลังคลอด ช่องคลอดและมดลูกยังอยู่ในช่วงฟื้นฟู มีแผลจากการคลอด ซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย
  • การใช้ผ้าอนามัยแบบสอดอาจเพิ่มความเสี่ยงในการนำเชื้อโรคเข้าสู่ช่องคลอดและมดลูก ทำให้เกิดการติดเชื้อในอุ้งเชิงกรานได้
  • การใช้ผ้าอนามัยแบบสอดอาจทำให้เกิดการเสียดสีกับแผลฝีเย็บ ทำให้แผลหายช้า หรือเกิดอาการปวดแผลได้
  • การใช้แผ่นอนามัยแบบแผ่นปกติ ช่วยให้คุณแม่สามารถสังเกตลักษณะของน้ำคาวปลา ได้ง่าย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการติดตามการฟื้นตัวของมดลูก
  • หากมีอาการผิดปกติ เช่น น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น มีสีผิดปกติ หรือมีปริมาณมากผิดปกติ คุณแม่จะสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย และไปพบแพทย์ได้ทันท่วงที

การทำตาม ข้อห้ามหลังคลอด อย่างเคร่งครัดจะช่วยให้ร่างกายคุณแม่ฟื้นตัวได้เร็วและแข็งแรง หากคุณแม่มีคำถามหรือไม่แน่ใจเกี่ยวกับข้อห้ามต่างๆ ควรปรึกษาคุณหมอหรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับตนเอง

ที่มา : โรงพยาบาลเปาโล , โรงพยาบาลเมดพาร์ค , สสส

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

หมอเตือนแม่ๆ อย่าหาทำ! แม่ผ่าคลอดกินลูกปลาช่อน จะทำให้แผลหายเร็ว

8 เคล็ดลับ แม่ผ่าคลอด ฟื้นตัวเร็ว แผลสวย หายไว ร่างกายแข็งแรง

มดลูกเข้าอู่จะรู้ได้ยังไง เผยเคล็ดลับ! ทำยังไงให้มดลูกเข้าอู่ไว

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา