ครีมไวท์เทนนิ่ง เป็น อันตรายสำหรับคนท้อง หรือไม่
ในปัจจุบัน คนท้องหลายๆ ท่าน จะกังวลเรื่องผิวแตกลายในระหว่างตั้งครรภ์ ทำให้เกิดข้อกังวลเกี่ยวกับ ” ครีมไวท์เทนนิ่ง อันตรายสำหรับคนท้อง ” หรือไม่นั้น พญ.รังสิมา วณิชภักดีเดชา แพทย์ผิวหนังจากศูนย์เลเซอร์ผิวหนังภาควิชาตจวิทยา คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาลอธิบายว่า ไวท์เทนนิ่งแบ่งได้ 3 กลุ่มตามลักษณะที่เชื่อว่า สารนั้นทำให้ขาวได้อย่างไร ได้แก่
1. กลุ่มที่มีผลยับยั้งการสร้างเม็ดสี ตัวอย่างเช่น สารไฮโดรควิโนน
2. กลุ่มที่มีผลลอกเซลล์ผิวหนังชั้นบน ตัวอย่างเช่น สารที่เป็นกรด ทั้งกรดวิตามินเอ วิตามินซี และ กรดผลไม้
3. กลุ่มอื่นๆ เช่น สารอาร์บูติน และ ลิโคริซ เป็นต้น
โดยทั่วไปคนท้องใช้ครีมทาผิวได้ทุกชนิดโดยไม่เป็นอันตราย แต่สำหรับยากินที่เป็นกรดวิตามินเอ ซึ่งมักใช้กันในการรักษาสิว จำเป็นต้องระวังอย่างมาก
คุณหมออธิบายเพิ่มเติมว่า กรดวิตามินเอนี้มีทั้งในรูปการกิน และการทา จากรายงานการแพทย์ทั่วโลกพบว่า กรดวิตามินเอแบบกิน มีผลต่อการตั้งครรภ์โดยตรง คือ
1. มีผลต่อการสร้างอวัยวะของตัวอ่อนในครรภ์ โดยเฉพาะช่างอายุครรภ์ 1-3 เดือนแรก โดยมีผลต่อระบบหัวใจ ระบบประสาท และ กระจกตา
2. ระยะเวลาในการใช้ คือ ใช้มานานแล้ว หรือเพิ่งใช้ เพราะความรุนแรงและผลต่อแม่กับทารกในครรภ์จะแตกต่างกัน
3. ผู้กินกรดวิตามินเอเพื่อช่วยรักษาโรคบางอย่าง จะต้องหยุดยาเป็นระยะเวลาหนึ่งก่อน แล้วแต่ชนิดของยา ซึ่งมีตั้งแต่ 1 เดือนจนถึง 2 ปี จึงจะตั้งครรภ์ได้อย่างปลอดภัย
สำหรับ กลุ่มยารักษาสิว ไม่ควรใช้กับคนท้อง เพราะจะมีผลกระทบต่อทั้งแม่ และ ทารกในครรภ์ โดยคุณหมอผิวหนังจะต้องให้ความรู้แก่ผู้มารับการรักษาก่อนว่า ในระหว่างที่ใช้ยารักษาสิวควรคุมกำเนิดไว้ก่อน ไม่ควรตั้งครรภ์ขณะที่ยังใช้ยารักษาสิว และ อาจจะต้องมีการตรวจการตั้งครรภ์ในรายที่สงสัย
ส่วนกรดวิตามินเอแบบทานั้นยังไม่มีผลรายงานว่า มีผลต่อเด็กในครรภ์ แต่ถ้าหากแม่ท้องกังวลว่า การทากรดวิตามินเอเป็นปริมาณมาก จะทำให้มีการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงดีกว่า คุณหมอรังสิมากล่าว
คุณหมอแนะนำ : แม่ท้องสวยอย่างปลอดภัย
1. ไม่กิน ยารักษาสิว ที่มีกรดวิตามินเอเป็นส่วนผสม
2. หากจำเป็นต้องได้รับยากิน ควรสอบถามคุณหมอก่อนว่า ถ้าตั้งครรภ์สามารถกินยานั้นได้หรือไม่
3. การที่ผิวหนังแตกลายขณะท้องขึ้นอยู่กับสภาพผิวตามพันธุกรรม หากกรรมพันธุ์คุณมีผิวแตกลายง่าย แม้ป้องกันอย่างไรก็ยังผิวแตกลายได้นั่นเอง
4. ขนาด และ ความเร็วของผิวหนังที่ขยาย ผิวหนังก็จะแตกลายได้ โดยเฉพาะแม่ท้องที่น้ำหนักตัวขึ้นเร็ว ทำให้ผิวหนังบริเวณหน้าท้องขยายตัวรวดเร็วตามไปด้วย ดังนั้น ผิวหน้าท้องจึงมีโอกาสแตกลายได้มาก
5. การใช้ครีมบำรุงผิว หรือ มอยส์เจอไรเซอร์เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวขณะตั้งครรภ์ จะช่วยลดการแตกลายของผิวหนังหน้าท้องได้ ที่สำคัญ ควรทาตั้งแต่เริ่มท้องไปจนคลอด
6. ใช้ผลิตภัณฑ์ หรือ สารสกัดจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าว จะปลอดภัยทั้งแม่ท้องและทารกในครรภ์
7. การใช้ เครื่องสำอาง แต่งหน้า และการใช้ ครีมกันแดด สามารถทำได้ตามปกติ
เมื่อได้ทราบเช่นนี้แล้ว การดูแลผิวพรรณแม้จะเป็นเรื่องจำเป็นสำหรับคุณแม่ แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของทั้งแม่ และทารกในครรภ์ ซึ่งคุณหมอได้แนะนำวิธีสวยอย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามได้เลยค่ะ รับรองไม่อันรายอย่างแน่นอน
The Asianparent Thailand เพื่อลงทะเบียนรับการดูแลตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์ ช่วงไตรมาสแรก มาติดตามพัฒนาการของลูกอย่างใกล้ชิด ลูกโตขึ้นแค่ไหนกันนะ ไตรมาสที่ 2 มาฟังเสียงลูกน้อย นับว่าหนึ่งวันลูกดิ้นไหมนะ และ ลูกดิ้นวันละกี่ครั้งด้วยแอพพลิเคชั่น The Asianparent นี่เป็นแค่ตัวอย่างกิจกรรมบนแอพพลิเคชั่นในส่วนแรก เพราะคุณแม่จะได้รับการดูแลทั้งอาหารการกินโดยการออกแบบจากผู้เชี่ยวชาญว่าควรทานอะไรบ้างในแต่ช่วงอายุครรภ์ ยาที่เป็นอันตรายชนิดไหนบ้างที่ไม่ควรทาน กิจกรรมใดบ้างที่ทำได้ หรือทำไม่ได้ เคล็ดลับการตั้งชื่อลูกอย่างไรให้เป็นมงคลทั้งเด็กหญิง และเด็กชาย รวมถึงเตรียมแผนการล่วงหน้าถึงอนาคต การเตรียมคลอด การดูแลตนเองหลังคลอด ที่ครอบคลุมทุกช่วงเวลาที่คุณแม่ต้องการ
Source หรือ บทความอ้างอิง : beskinformed.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
สารเคมีในชีวิตประจำวันที่คนท้องควรหลีกเลี่ยง
แชร์เคล็ดลับแก้ผิวแห้ง ทำให้ผิวชุ่มชื้นแบบง่ายๆ