คนท้องดูคอนเสิร์ตได้ไหม เข้าผับได้หรือเปล่า ไปร้องคาราโอเกะลูกจะเป็นอะไรไหม

คนท้องดูคอนเสิร์ตได้ไหม

คนท้องดูคอนเสิร์ตได้ไหม แม่เป็นชอบดูงานแสดง งานคอนเสิร์ต งานมีตติ้ง ละครเวที จำเป็นต้องไงานเงี้ยงเพื่อน งานเลี้ยงบริษัท บางวันต้องไปร้องเพลงคาราโอเกะเลี่ยงไม่ได้ แบบนี้จะเป็นอันตรายต่อลูกในท้องหรือไม่ ถ้าเลี่ยงไม่ได้คนท้องควรทำอย่างไร มาดูคำแนะนำกันค่ะ

 

ทารกในครรภ์เริ่มได้ยินตอนไหน

ทารกจะเริ่มมีพัฒนาการได้ยินประมาณสัปดาห์ที่ 22 หรือเริ่มเข้าสู่เดือน 5 เนื่องจากหูชั้นในที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานของกลไกการได้ยินของลูกน้อยเริ่มสมบูรณ์แล้ว นั่นหมายความว่าทารกเริ่มได้ยินเสียงต่างๆ แล้วค่ะ หากคุณแม่สังเกตดีๆ จะรู้สึกว่าลูกมักจะมีปฎิกิริยากับเสียงดังๆ เช่น ลูกตกใจ ลูกสะดุ้ง แล้วมีการเคลื่อนไหวตุบๆ เวลาที่ได้ยินเสียงค่ะ

 

อยู่ในที่เสียงดังลูกในท้องจะเป็นอะไรไหม

ปกติแล้ว หูของทารกในครรภ์จะได้รับการป้องกันจากกล้ามเนื้อหน้าท้องของคุณแม่ รก และน้ำคร่ำ ทำให้เวลาที่ลูกน้อยอยู่ในท้องอาจได้ยินเสียงอู้อี้และเบากว่าเสียงข้างนอกอยุ่มาก อย่างไรก็ตามในแต่ละครั้งที่คุ๊แม่ตั้งครรภ์อาจจะมีความแตกต่างกันออกไป ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าเสียงในระดับในจะอันตรายต่อหูของทารก ทางที่ดีคุณแม่ควรระมัดระวังเรื่องเสียงบ้างจะดีกว่าค่ะ สำหรับคนท้องเองเสียงดังอาจส่งผลกระทบต่อคนท้องได้ เนื่องจากเสียงที่ดังมากๆ อาจนำไปสู่ภาวะเครียด ทำให้หัวใจของคุณแม่เต้นแรงซึ่งส่งผลเสียต่อทารกได้

 

เสียงประเภทไหนที่อันตราย

การที่คนท้องได้ยินเสียงดังนานๆ อาจทำให้เกิดการสูญเสียการได้ยินของทารกในครรภ์ได้ ดังนั้น เพื่อป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้นแนะนำให้คุณแม่ป้องกันไว้ก่อนจะดีกว่าค่ะ โดยคนท้องควรอยู่ห่างจากเสียงดังต่อไปนี้

  • เสียงที่เกิดจากการยิงปืน เช่น ในสนามยิงปืน
  • ในกรณีที่คุณแม่ไปงานคอนเสิร์ต แนะนำให้หลีกเลี่ยงที่นั่งที่อยู่ใกล้กับลำโพง
  • พยายามอยู่ในห่างจากเสียงของเครื่องบินเป็นเวลานาน
  • อย่าทำงานในที่ที่มีเสียงดังมากกว่า 80 เดซิเบลเป็นประจำ

ทารกได้ยินเสียงดัง อันตรายไหม

หากคุณแม่อยู่ในสถานที่ที่มีเสียงดัง อาจส่งผลกระทบต่อทารกน้อยในครรภ์ได้ ดังนี้

1. ทำให้เด็กตกใจ

เสียงเพลงอาจทำให้ลูกน้อยตกใจ หรือสะดุ้งที่รุนแรงขึ้นได้ คุณแม่ลองสังเกตให้ดี แล้วบันทึกการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเอาไว้นะคะ

2. ส่งผลกระทบต่อการได้ยินของทารก

เสียงที่ดังมากเกินไปอาจย่อมส่งผลกระทบต่อการได้ยินทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นคนท้องหรือลูกในท้องก็ตาม เสียงที่อยู่ในระดับที่ปลอดภัยคือต้องอย่าให้เกิน 80 เดซิเบล เพราะถ้ามากกว่านี้อาจทำให้เกิดปัญหาได้ และส่งผลเสียต่อการได้ยินของทารกในครรภ์

3. อาจทำให้ทารกในครรภ์ผิดปกติ

ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ คุณแม่ควรอยู่ห่างจากเสียงที่ดัง เพราะอาจทำให้ลูกน้อยผิดปกติได้ เพราะว่าการที่คนท้องได้ยินเสียงดังมากๆ เป้นเวลานานอาจทำให้คุณแม่เกิดภาวะความดันโลหิตสูง เกิดความเครียดเกิดขึ้น และนำไปสู่การพัฒนาของทารกในครรภ์ ทำให้ลูกน้อยในครรภ์มีโอกาสที่เสี่ยงต่อความผิดปกติได้ค่ะ

4. ทำให้ทารกในครรภ์เครียด

มีการศึกษาหนึ่งที่มีการทดลองในลิงและหนู พบว่า เสียงดังจะทำให้เกิดการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) และ ฮอร์โมน corticotrophin เพิ่มมากขึ้นในทารกในท้อง ซึ่งฮอร์โมนทั้งสองตัวนี้ทำให้ร่างกายตอบสนองต่อความเครียดเพิ่มมากขึ้นไปอีก จึงทำให้ทารกลิงบางตัวเกิดพฤติกรรมที่ผิดปกติ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการศึกษาในคนมากเท่าไหร่นัก จึงไม่สามารถสรุปได้ว่าเสียงที่ดังจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารก

5. เกิดการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างทางสมองของทารกในครรภ์

จากการทดลองในสัตว์ พบว่า เสียงที่ดังหรือเสียงเพลงดังๆ อาจส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างการทำงานของสมองของทารกในครรภ์ อย่างไรก็ตามยังไม่มีการศึกษาที่เพียงพอในมนุษย์ จึงไม่อาจสรุปได้ว่าจะเกิดผลเช่นไรกับทารกในครรภ์

6. เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด

การที่คุณแม่คลอดลูกก่อนกำหนดนั้นมีหลายปัจจัยด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือเสียงที่ดังมากเกินไป มีการศึกษาหนึ่งระบุว่า หากคุณแม่ได้ยินเสียงที่ดังมากๆ อาจทำให้คลอดเร็วขึ้น เช่น ปกติต้องคลอดสัปดาห์ที่ 40 แต่คุณแม่กับคลอดเมื่ออายุครรภ์ได้ 37 สัปดาห์ ทางที่ดีคุณแม่ท้องแก่ควรหลีกเลี่ยงในพื้นที่ที่มีเสียงดังมากๆ จะดีกว่าค่ะ

 

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:

โรคตอนท้องมีอะไรบ้าง? ลูกจะเป็นอะไรมั๊ย จะรักษายังไงดี?

พัฒนาการทารกในครรภ์แต่ละสัปดาห์ ร่างกายคนท้องมีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง

อาหารลดเบาหวานคนท้อง วิธีควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดของคนท้อง ต้องทำยังไง

ที่มา: parenting.firstcry

บทความโดย

Khunsiri