เสื้อให้นม อุปกรณ์สำหรับคุณแม่ช่วยให้สบาย พร้อมเคล็ดลับการเลือกซื้อ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

การให้นมลูก คุณแม่ก็ควรจะที่อยู่ในท่าที่สบาย รวมถึงเสื้อผ้าอาภรณ์ ที่ง่าย และสะดวกต่อการให้นมลูกด้วย ที่สำคัญ ก็ควรจะสวย ถูกใจคุณแม่ด้วยนะคะ วันนี้เรามีเคล็ดลับการเลือกซื้อ เสื้อให้นม ให้ถูกใจคุณแม่ แถมคุณลูกยังแฮปปี้ มาฝากกันค่ะ

ถ้าจะพูดถึงตัวช่วยที่ทำให้คุณแม่มือใหม่ หรือคุณแม่หลังคลอดสะดวกสบายยิ่งขึ้น โดยเฉพาะคุณแม่ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ คงหนีไม่พ้นเสื้อให้นมอย่างแน่นอน เนื่องจากช่วยให้คุณแม่สามารถให้นมเจ้าตัวน้อยได้สะดวกและรวดเร็ว คุณลูกไม่ต้องรอนาน ส่วนคุณแม่ก็ไม่ต้องกลัวโป๊เมื่ออยู่นอกบ้าน ไม่ว่าจะไปเที่ยวพักผ่อนหรือไปออกงานสำคัญก็หมดกังวล สำหรับคุณแม่คนไหนที่ยังไม่มีชุดให้นม ลองหาซื้อกันดูนะคะ รับรองว่าเป็นไอเทมที่มีประโยชน์แน่นอน

 

ทำไมต้องซื้อ เสื้อให้นม

อาจจะมีคุณแม่หลายคนตั้งข้อสงสัยว่า จำเป็นแค่ไหน ที่จะต้องซื้อเสื้อให้นม เสื้อธรรมดาใช้ไม่ได้หรืออย่างไร? ก่อนอื่น ต้องมาดูก่อนว่าเสื้อให้นมนั้น มีหน้าอะไร? และต้องใช้นานแค่ไหน

ตามชื่อค่ะ “เสื้อให้นม” คือชุดที่เหมาะจะใส่ในช่วงที่คุณแม่จะต้องให้นมลูก เป็นชุดที่สร้างความสะดวกสบาย และความมั่นใจ ให้กับคุณแม่ เรียกได้ว่า จะต้องใช้ชุดนี้ตั้งแต่แรกคลอด จนกระทั่งลูกหย่านมกันเลยค่ะ ซึ่งระยะเวลาการใช้งานนั้น ก็ขึ้นอยู่กับพัฒนาการของลูกด้วย ว่าจะสามารถหย่านมจากเต้าได้เมื่อไหร่? บางรายอาจจะใช้เวลาแค่ 6 เดือน แต่ในบางรายอาจจะยาวนานถึง 1 ปี ดังนั้น การเลือกซื้อเสื้อให้นม ที่ดี ที่ถูกใจ และเหมาะกับการใช้งาน นอกจากจะทำให้มั่นใจเมื่อสวมใส่แล้ว ยังช่วยประหยัดเงินคุณแม่ ที่ไม่ต้องคอยหาซื้อใหม่ และลองใหม่เรื่อย ๆ

 

เสื้อให้นม มีประโยชน์อย่างไร

เสื้อให้นมลูก มีออกมาให้เลือกหลายแบบ หลายสไตล์ ทั้งรูปแบบการดีไซน์ที่ทำให้คุณแม่ดูเก๋ ดูทันสมัย และยังสามารถให้นมลูกได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย แต่ในการเลือกซื้อชุดให้นมนั้น คุณแม่จะมีระยะเวลาในการใช้งานประมาณ 6 เดือน เป็นอย่างต่ำ เพราะช่วงนี้ จะเป็นระยะที่คุณจำเป็นต้องให้นมลูกจากเต้า หรือแม้กระทั่งการปั๊มนม อยู่ตลอดเวลา ดังนั้นสิ่งสำคัญ ที่คุณแม่จะต้องคำนึงถึง คือ

  1. ช่วยอำนวยความสะดวกเวลาป้อนนมลูก
  2. สร้างความมั่นใจ และรู้สึกสบายตัวเมื่อได้สวมใส่
  3. สามารถปกปิดได้อย่างมิดชิด ไม่โป๊ และคล่องตัว เมื่อต้องให้นมลูกในที่สาธารณะ

นี่คือ 3 ปัจจัยหลักที่คุณแม่จะต้องคำนึงถึง ส่วนในเรื่องของเนื้อผ้า และราคา ก็ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของคุณแม่

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

เทคนิคง่าย ๆ ในการเลือกซื้อ เสื้อให้นม

มีเจ้าตัวน้อยทั้งที จะให้คิดถึงแต่ตัวเองได้ยังไงจริงมั้ยคะ ก่อนหน้านี้ คุณแม่อาจจะเลือกเสื้อผ้าตามความชอบส่วนตัว รัดนิด เว้าหน่อย ขอให้สวยและดูดี เนื้อผ้านุ่ม ๆ ใส่สบายตัว แค่นี้ก็เป็นเลิศแล้ว แต่พอเจ้าตัวน้อยมาอยู่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคุณนี่ซิ เราคงต้องเปลี่ยนแปลงอะไรหลาย ๆ อย่าง เพื่อให้เขารู้สึกสบายที่สุด และต้องให้ตัวคุณแม่ยังแฮปปี้ได้อีกด้วยจริงมั้ยคะ งั้นมาดูกันดีกว่าว่า เราจะเลือกซื้อ เสื้อให้นม ยังไงกันดีนะ

การเลือกซื้อ เสื้อให้นม คำนึงถึงอะไร

1. เลือกจากสไตล์การเปิดให้นมในแบบที่คุณแม่ถนัด

ปัจจุบันมีเสื้อให้นมที่มีวิธีการเปิดให้นมหลากหลายสไตล์

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • แบบซิปตั้ง/ แบบกระดุมแนวตั้ง เป็นซิปแนวตั้งที่เจาะช่องในระดับอกพอดี ใช้งานง่าย
  • แบบซิปสองทาง (แนวขวาง) เป็นซิปแนวขวางที่รูดลื่นได้ยาวตลอดทั้งแนว ทำให้สามารถรูดได้ตามความกว้างที่ต้องการ ทำให้สะดวกในการให้นม
  • แบบแหวกหน้า/แหวกข้าง ส่วนใหญ่เสื้อลักษณะนี้จะมีเนื้อผ้าบางเบาใส่สบาย และดูแทบไม่ออกว่าเป็นเสื้อให้นม เพราะซ่อนช่องให้นมไว้ด้านหน้า หรือด้านข้าง
  • แบบเปิดหน้า เป็นเสื้อสองชิ้นที่ชิ้นหน้าสั้น ชิ้นหลังคอกว้าง เปิดให้นมได้รวดเร็ว มองแทบไม่ออกเช่นกันว่าเป็นเสื้อให้นม

 

2. เสื้อให้นม สไตล์โดนใจ

เดี๋ยวนี้มีเสื้อให้นมแบบแฟชั่นมากมายหลากหลายให้เลือก ทั้งแนววัยรุ่น เสื้อยืด แนวผู้ใหญ่ผ้าชีฟอง เดรสออกงานได้ ชุดทำงาน ชุดเที่ยว เป็นต้น คุณแม่ก็ต้องลองเลือกให้ถูกใจ เหมาะกับกาลเทศะ และการใช้งานด้วยนะคะ

 

3. วัดไซซ์ที่แท้จริงในขณะนั้น

ช่วงหลังคลอด น้ำหนักของคุณแม่จะมีความเปลี่ยนแปลงมากกว่าปกติ ดังนั้นการยึดตามไซซ์เดิมที่เคยใส่ แล้วคิดว่า เดี๋ยวน้ำหนักจะลดลงเองเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นความเข้าใจที่ผิดค่ะ คุณแม่จำเป็นจะต้องวัดไซซ์ใหม่ทั้งหมด ทั้งหน้าอก รอบแขน สะโพก เอว เพราะหากไซซ์ผิด ก็อาจส่งผลให้เกิดความไม่สบายตัว เมื่อได้สวมใส่เสื้อให้นม ทำให้ไม่เกิดประโยชน์สูงสุด และอาจจะต้อง หาซื้อใหม่อีกรอบก็เป็นได้

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

4. ราคาที่ใช่

แน่นอนว่าราคาจะแพง หรือถูกนั้นย่อมขึ้นอยู่กับยี่ห้อ เนื้อผ้า รูปแบบดีไซน์ การตัดเย็บ ถ้าเสื้อให้นมราคาเบา ๆ อยู่ที่ตัวละประมาณ 200-400 บาท คุณภาพการตัดเย็บ และเนื้อผ้าอาจจะสู้ เสื้อให้นมที่ราคาสูงกว่า หรือที่เป็นแบรนด์ชั้นนำไม่ได้ แต่หากคุณแม่รู้สึกว่าแพงนิดแพงหน่อย แต่ใส่สบาย และคุ้มค่า คราวนี้ก็มาดูว่าคุณแม่ไหวแค่ไหน เพราะคุณแม่อาจจะต้องใส่เสื้อให้นมไปอีกพักใหญ่ อย่างน้อยก็ 6 เดือน – 1 ปีเต็ม ๆ นี่แหละค่ะ

 

5. เนื้อผ้าใส่สบาย

ชุดให้นมที่เลือก ควรจะต้องมีความสบาย มีเนื้อผ้าที่นุ่ม และเหมาะกับสภาพอากาศ สัมผัสเนื้อผ้ามีความละมุน ไม่คัน จะทำให้ไม่เกิดอาการระคายเคืองทั้งแม่ และลูก อีกทั้งเมืองไทย เป็นประเทศที่มีความร้อนชื้นสูง ก็เลือกเนื้อผ้าที่ไม่หนา ระบายอากาศได้ดี ก็จะทำให้คุณแม่รู้สึกสบายตัวได้มากยิ่งขึ้น

 

6. คำนึงถึงของตกแต่ง

แน่นอนว่า การดีไซน์ บางครั้งมักจะมีวัสดุโลหะ หรือวัสดุที่มีเหลี่ยม มีคม สิ่งเหล่านี้ อาจจะทำให้เสื้อผ้าดูเก๋ ดูสวยขึ้นก็จริง แต่มันอาจจะทำร้ายกับผิวของลูกน้อยของคุณในช่วงให้นมก็เป็นได้ ดังนั้นคุณจะต้องคำนึงถึงสิ่งนี้มากเป็นพิเศษ

 

7. ปกปิดมิดชิด

นี่คือหัวใจหลักของเสื้อให้นมสำหรับคุณแม่ค่ะ เพราะเสื้อให้นมนั้น ความสำคัญที่นอกจากจะสะดวกสบายแล้ว จำเป็นจะต้องปกปิดมิดชิดในขณะให้นมลูก การเปิดเสื้อจะต้องสามารถใช้มือเพียงข้างเดียวในการจัดการได้ เพราะในบางครั้ง คุณแม่จำเป็นจะต้องอุ้มลูกไปด้วย และต้องจัดการเสื้อผ้าของคุณด้วยในเวลาเดียวกัน การที่เสื้อสามารถแหวกง่าย อีกทั้งปกปิดดี จึงเป็นคำตอบที่สำคัญสำหรับคุณแม่เลยค่ะ

 

8. ควรซื้อกี่ชุดดี

คุณแม่บางคนตื่นเต้นกับการให้นมลูก ก็อาจจะไปขนซื้อมาเพียบ แต่คุณแม่ขา… เราอยากจะบอกว่า คุณจะมีช่วงเวลาที่ใช้ชุดเหล่านี้ประมาณ 6 เดือน – 1 ปี ดังนั้น ซื้อเอาแค่พอใช้ก็พอค่ะ อาจจะมีอย่างน้อย 2-3 ชุด ก็น่าจะเพียงพอสำหรับคุณแม่แล้วล่ะค่ะ แต่หาก คิดว่ามันน้อยไป อาจจะเพิ่มเข้าไปอีก 1-2 ชุด ก็น่าจะเพียงพอแล้วค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ชนิดของ เสื้อให้นม

อย่างที่เราได้เกริ่นไปตั้งแต่แรกว่า ยุคนี้ สมัยนี้ มีการออกแบบดีไซน์เสื้อให้นม แบบใหม่ ๆ มาเยอะมาก จนบางครั้งแทบจะแยกไม่ออกระหว่างชุดแฟชั่นทั่วไป กับชุดให้นมลูก ซึ่งเราสามารถแยกออกได้เป็น 3 แบบ หลัก ๆ ดังนี้

 

  • เสื้อยืดมีที่บังสายตาในการให้นม

นับว่าเป็นเสื้อสไตล์แรก ๆ ที่คุณแม่จะต้องมีเอาไว้ติดตู้เสื้อผ้ากันเลยค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นสไตล์ที่เรียบง่าย คล่องตัวแล้ว ยังสามารถใส่สบายได้ทั้งในบ้าน และนอกบ้าน ได้แบบไม่ตะขิดตะขวงใจกันเลยค่ะ การออกแบบ จะมีลักษณะคล้ายเสื้อยืดทั่วไป แต่จะมีบริเวณที่สามารถแหวก เพื่อให้ลูกสามารถเข้าไปดูดนมได้อย่างสะดวก แถมไม่โป๊อีกด้วยค่ะ

 

  • เดรสสวย ซ่อนซิป

สำหรับคุณแม่ที่นิยมในการใส่ชุดเดรส หรือคุณแม่ที่ต้องการชุดเดรสเพื่อใส่ไปงาน หรือออกไปข้างนอก แล้วแต่งตัวสวย ๆ เดรสให้นม แบบซิปซ่อน ก็ดูจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคุณแม่ ๆ กันเลยค่ะ เพราะชุดลักษณะนี้ นอกจากจะถูกออกแบบให้มีความสวยงามแล้ว ก็ยังสามารถรูดซิปเพื่อให้นมลูกได้อีกด้วย แต่ก็ต้องยอมรับอย่างหนึ่งว่า ความสะดวกสบาย ก็คงสู้เสื้อยืดไม่ได้ เดรสบางรุ่น อาจจะไม่สามารถปกปิดได้มากพอเวลาให้นมลูก คุณแม่อาจจะต้องมีออปชันเพิ่มเติมด้วย ผ้าคลุมให้นมลูกอีกชิ้นนึง เพื่อความสะดวกสบายค่ะ และอาจจะติด ๆ ขัด ๆ บ้างช่วงเวลาที่รูดซิปปิด และเปิด ก็ต้องลองชั่งน้ำหนักดูนะคะ ว่าคุ้มค่ากับคุณแม่บ้างมั้ย?

 

  • เสื้อคลุมซ้อน

ชุดลักษณะนี้ จะเป็นการผสมผสานระหว่างสองชุดด้านบน เพื่อตอบโจทย์การใช้งานให้กับคุณแม่ รูปแบบอาจจะไม่ได้สวยงามเท่าชุดเดรสใส่ออกงาน แต่ชุดสไตล์นี้ จะเหมาะกับการไปสถานที่ที่ต้องแต่งตัวเรียบร้อย และกึ่งเป็นทางการ เช่น สถานที่ทำงาน เป็นต้น โดยจะมีลักษณะของชุดเดรส ที่มีเสื้อคลุมอีกหนึ่งชั้น สามารถแหวกเสื้อเพื่อให้นมได้ โดยไม่โป๊ นับว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่สามารถใช้งานได้อย่างครอบคลุม

สุดท้ายแนะนำว่าคุณแม่ว่า หัวใจสำคัญในการเลือกซื้อเสื้อให้นม ก็คือ ควรเลือกเสื้อให้นมที่ใส่สบาย ให้นมถนัด สะดวกสบายในการให้นม ไม่มีวัตถุแปลกปลอมที่จะเสียดสีผิวลูกน้อย และคุณแม่ และที่สำคัญคือ ไม่โป๊ ก็จะทำให้คุณแม่รู้สึกดี และมั่นใจมากขึ้น เมื่อสวมใส่ค่ะ (เพราะในบางครั้งคุณแม่อาจจำเป็นต้องให้นมลูกนอกสถานที่ การที่เสื้อให้นม สามารถให้นมลูกได้ แถมยังปกปิดมิดชิด ก็จะทำให้คุณแม่รู้สึกสะดวกมากยิ่งขึ้น)

และนอกจากนี้อาจเลือกที่มีสีสันสดใส และอาจมีลวดลายด้วย ก็จะช่วยกระตุ้นพัฒนาการด้านการมองเห็นของลูกน้อยค่ะ และหากคุณแม่จำเป็นต้องให้นมจากอกแม่ในที่สาธารณะ มีข้อแนะนำดังนี้ค่ะ

บทความที่เกี่ยวข้อง : เสื้อในให้นม คืออะไร ดีอย่างไร ? ไอเทมที่ช่วยให้ชีวิตคุณแม่มือใหม่ง่ายขึ้น !!

 

 

ให้นมลูกอย่างไร เมื่ออยู่ในที่สาธารณะ

หลายครั้งที่เรามักจะพบเจอดราม่าในการให้นมลูกในที่สาธารณะ หากเจอคนเข้าใจก็โชคดีไป แต่คนที่ไม่เข้าใจก็ยังมีอีกเยอะ จนบางครั้ง ก็ทำให้ตัวคุณแม่เอง เกิดความเครียด ไม่กล้าที่จะให้นมลูก จนลูกร้องหิวนมมากขึ้นไปอีก เจอเสียงร้องไห้ของเด็ก พาลจะพาคุณแม่เครียดเพิ่มอีกทวีคูณ มาดูวิธีให้นมลูกในที่สาธารณะ ให้รอดจากดราม่ากันค่ะ

  • ควรหามุมในที่คนไม่พลุกพล่าน หรือเป็นที่มุมในสุด นั่งหันหน้า หรือเอียงตัวเข้าหากำแพงก่อนที่จะให้ลูกเข้าเต้า
  • ในภาวะจำเป็นต้องให้นมจากอกแม่ในที่สาธารณะ คุณแม่ควรใจเย็น ๆ ทำตัวสบาย ๆ และผ่อนคลาย เพื่อการให้นมลูกเป็นสำคัญ
  • ถ้าจำเป็นต้องออกนอกบ้าน คุณแม่ควรเลือกเสื้อผ้าที่สามารถเปิดให้นมลูกได้ง่าย เลือกใส่เสื้อในแบบเปิดหน้า เพื่อสะดวกและรวดเร็วในการเปิดให้นมลูก
  • เมื่อลูกเข้าเต้าแล้ว ใช้ผ้าคลุมผืนใหญ่ หรือผ้าอ้อมปิดด้านที่ให้นมลูก
  • ลองฝึกการให้นมลูกจากอกที่หน้ากระจกดู เพื่อความมั่นใจในท่าที่คุณแม่จะให้ลูกเข้าเต้าได้
  • ให้คุณพ่อ หรือเพื่อนที่ไปด้วยเป็นตัวช่วยในการยืนบังในขณะที่ให้นมลูก
  • หากคุณแม่ยังไม่มั่นใจในการให้นมลูกจากอกแม่ในที่สาธารณะ ควรลดกิจกรรมนอกบ้านในกรณีที่ไม่จำเป็น

 

ควรให้นมลูกข้างเดียว หรือสองข้าง

ในการให้นมแต่ละครั้งคุณต้องลองสังเกตดูว่า ลูกกินข้างเดียวแล้วอิ่มไหม ถ้าลูกกินข้างเดียวแล้วอิ่ม การให้นมครั้งต่อไป ควรจะให้อีกข้างหนึ่ง เพื่อป้องกันเต้านมคัด แต่ ถ้าลูกกินเก่งคุณอาจต้องให้ลูกกินทั้ง 2 ข้าง ในการให้นมแต่ละครั้ง

 

ให้นมลูกอย่างไร ให้สบาย

การให้นมลูกแต่ละครั้ง อาจกินเวลานานถึง 40 นาที ดังนั้น จึงควรเลือกที่นั่งที่สบาย ในแต่ละครั้ง ที่ให้นมลูก คุณอาจจะหามุมเงียบสงบ เพื่อให้นมลูก หากคุณคิดว่า เวลาให้นมลูกค่อนข้างเงียบ และ น่าเบื่อ ก็ลองเปิดทีวีดูรายการโปรดของคุณ ขณะให้นมลูกก็ได้ แต่คุณควรฝึกให้นมลูก จนคล่องก่อน แล้วค่อยทำกิจกรรมอื่นร่วมกับเวลาให้นมลูก แม่บางคนนั่งอ่านหนังสือ หรือ หาข้อมูลต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ต ขณะให้นมลูก พอผ่านไปสักระยะหนึ่ง คุณก็จะหาท่าให้นมลูก และ มุมโปรดของคุณตลอดจนกิจกรรมที่คุณสามารถทำร่วมกับการให้นมลูกได้เหมาะสมกับตัวคุณเอง

คุณควรอุ้มลูกในท่าที่จะไม่ทำให้คุณปวดหลัง และควรใช้หมอนหนุนเพื่อช่วยพยุงจะได้ไม่ปวดแขน ทั้งคุณและลูกควรอยู่ในท่าที่ผ่อนคลายตลอดการให้นมทุกครั้ง ถ้าลูกดูดนมจนคุณเจ็บหัวนมให้ใช้นิ้วก้อยแหย่เข้าไประหว่างเหงือกและหัวนมคุณเพื่อให้ลูกคลายปากออกจากการดูดนม แล้วค่อยลองให้ลูกดูดนมอีกครั้ง เมื่อลูกดูดนมได้ถูกต้องแล้ว ลูกจะดูดต่อไปจนอิ่ม

 

ท่าให้นมที่เหมาะสม หลังผ่าตัดคลอดลูก

ท่าให้นมที่เหมาะสมที่สุด หลังผ่าตัดคลอดลูก คือ ท่านอนตะแคง หรือ นอนพิงพนัก โดยใช้หมอนนิ่ม ๆ วางไว้บนท้อง เพื่อป้องกันลูกดิ้นโดนแผล หากวางหมอนไว้ใต้แขน ก็จะช่วยให้คุณรู้สึกไม่เกร็งแขน และ สบายมากขึ้น

ถ้าคุณเลือกที่จะนอนตะแคงให้นมลูก ควรให้ลูกนอนตะแคงหันหน้าเข้าหาคุณ ให้ระดับปากของลูกอยู่ระดับเดียวกับหัวนม และ ใช้แขนประคองลำตัวลูก หากคุณต้องการให้ลูกดูดนมอีกข้าง ก็เพียงแค่อุ้มลูกไว้บนอก แล้วค่อยพลิกตัวไปอีกด้านหนึ่ง หลังจากนั้นประมาณ 2-3 วันหลังการผ่าตัด คุณถึงจะเปลี่ยนเป็นท่านั่งให้ลูกกินนมได้ แต่ ไม่ต้องฝืนนะคะ ปล่อยให้ค่อยเป็นค่อยไป และ ให้สมาชิกในครอบครัวช่วยวางลูกให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ หากคุณยังเจ็บแผลอยู่

 

 

หากคุณแม่ที่กำลังเรื่องการให้นมลูกน้อยนอกบ้าน หรือนอกสถานที่ เราขอเสนอ Mama’s Choice Maternity Nursing Bra มีความโดดเด่นในเรื่องของคุณภาพเนื้อผ้าที่ผลิตจาก โพลีเอสเตอร์ 85% และสแปนเด็กซ์ 15% ซึ่งให้ทั้งความยืดหยุ่นและให้ผิวสัมผัสที่นุ่มสบาย ดังนั้นจึงสามารถรองรับเต้านมของคุณแม่ที่กำลังอยู่ในช่วงที่ขยายขึ้นได้เป็นอย่างดี ทำให้คุณแม่ไม่รู้สึกอึดอัดหรือกดทับมากจนเกินไปจากการใส่เสื้อในให้นมตลอดทั้งวัน นอกจากนี้ยังสามารถระบายอากาศได้ดี ไม่ก่อให้เกิดความอับชื้น และการระคายเคืองผิว ดังนั้นคุณแม่จึงมั่นใจได้เลยว่าเมื่อต้องใส่ในช่วงที่มีอากาศร้อน หรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็ไม่ต้องกังวลว่าจะมีผื่นแพ้หรืออาการคันจากการอับชื้น หรือการสะสมของแบคทีเรีย

นอกจากนี้แล้วในส่วนของตัวเสื้อในยังสามารถยืดหยุ่นได้ง่าย สัมผัสนุ่มสบาย และไร้ตะเข็บรวมถึงโครงที่อาจกดทับทำให้คุณแม่รู้สึกเจ็บ ดังนั้นจึงสามารถสวมใส่ได้ตลอดทั้งวันและสามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้อย่างคล่องตัว นอกจากนี้คุณแม่สามารถดูรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 7 ชุดชั้นในให้นม เสื้อในให้นม เลือกแบบไหนถึงจะดี วันนี้มีคำตอบ

 

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

เสื้อในให้นม คืออะไร ดีอย่างไร ? ไอเทมที่ช่วยให้ชีวิตคุณแม่มือใหม่ง่ายขึ้น !!

วิธีปั๊มนม ปั๊มนมให้เกลี้ยงเต้า เอาใจคุณแม่ที่ไม่ค่อยมีเวลาว่าง

ผ้าคลุมไหล่สำหรับแม่ให้นม 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 76

ที่มา : mom365

บทความโดย

ธิดา พานิช