วางแผนการศึกษาเพื่อลูก คุณพ่อคุณแม่ต้องเริ่มจากอะไรบ้าง

อนาคตทางการศึกษาของลูกเป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรใส่ใจ และรู้จักการวางแผนในระยะยาว เพื่อให้เกิดความมั่นคงและมีแนวทางการปฏิบัติที่แน่ชัดว่าคุณต้องเก็บออมอย่างไรเพื่อให้เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต วันนี้เราจึงมี 4 วิธีในการวางแผนทางการเงินเพื่อการศึกษาของลูกมาแนะนำ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วางแผนการศึกษาเพื่อลูก คุณพ่อคุณแม่ต้องเริ่มจากอะไรบ้าง

เมื่อลูกของเราเติบโตขึ้น การศึกษา จึงเป็นอีกแผนการหนึ่งที่เราควรเตรียมไว้ให้ลูก และ ปัจจัยที่เข้ามาเกี่ยวข้องการ วางแผนการศึกษาเพื่อลูก นั่นก็คือ การวางแผนทางด้านการเงิน ทีม TheAsianparent มี 4 วิธี ( ไม่ ) ลับ สำหรับ การวางแผนทางการเงินด้านการศึกษาสำหรับลูกน้อย มาฝากคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ คุณพ่อ และ คุณแม่คนไหน ที่ลูกน้อยกำลังจะเข้าโรงเรียน สามารถนำ 4 วิธี ดังกล่าวไปปรับใช้ได้นะคะ

วางแผนการศึกษาเพื่อลูก

คุณพ่อคุณแม่ ต้องเริ่มวางแผนจากอะไรบ้างนะ ?

1. แนวทางการศึกษา

วางแผนการศึกษา เพื่อลูก

แรกเริ่มนั้น คุณพ่อคุณแม่ทุกคนต่างก็ต้องการให้ลูกได้เข้าเรียนในสถาบันที่ดี เป็นที่รู้จัก และ ได้รับการยอมรับ ซึ่งก็มีตัวเลือกอยู่มากมายพอสมควร และ แต่ละสถาบัน ก็ยังมีข้อดีแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนรัฐบาล โรงเรียนเอกชน โรงเรียนสองภาษา โรงเรียนทางเลือก หรือ โรงเรียนนานาชาติ อีกทั้งยังมี ปัจจัยในเรื่องการเดินทาง และ ความต้องการในการวางพื้นฐานให้กับลูก อย่างเช่น หากต้องการเน้นให้ลูกมีความสามารถด้านภาษา ก็จะเหมาะกับโรงเรียนนานาชาติ หรือ โรงเรียนที่มีการสอนแบบ English Program และ โรงเรียนสองภาษา แบบ Bilingual ซึ่งทั้งหมดนี้ ถือว่าเป็นปัจจัยแรกเริ่มที่ควรพิจารณาเป็นสิ่งแรก ๆ

2. วางแผนงบประมาณ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วางแผนการศึกษา เพื่อลูก

ลองวางแผนคำนวณค่าใช้จ่ายคร่าว ๆ ที่จะต้องเกิดขึ้น ประเภทที่เป็นค่าใช้จ่ายที่แน่นอน อย่างเช่น ค่าเล่าเรียนในแต่ละปี ค่าชุดนักเรียน ค่าหนังสือเรียน ค่าเดินทาง และ อย่าลืมเผื่อไปถึงกิจกรรม และ การเรียนเสริม เพื่อ เป็นแนวทางว่าจะต้องมีงบประมารเท่าไรสำหรับการเรียนในระดับชั้นนั้น ๆ ไว้ล่วงหน้า

3. ออมเงินระยะยาว

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

วางแผนการศึกษา เพื่อลูก

อย่าคิดว่า เงินเก็บที่คุณมีคือสิ่งที่จะเพียงพอสำหรับค่าเล่าเรียนของลูกเสมอไป เพราะ แม้จะมีอยู่จำนวนมาก แต่ หากคุณไม่เก็บไว้เพิ่มเติม และ มีเหตุฉุกเฉินที่จำเป็นทำให้ต้องใช้จ่ายเงินก้อนนั้น รับรองได้เลยว่า ต้องมีผลกระทบต่อแผนการศึกษาของลูกอย่างแน่นอน ดังนั้น นอกจากเงินเก็บก้อนหลักที่คุณมีแล้ว ควรแยกบัญชีสำหรับ ค่าใช้จ่ายในส่วนของค่าเล่าเรียนสำรองไว้อีกทางหนึ่ง นอกจากนี้ ควรมีวินัยในการออม และ ไม่นำเงินก้อนนี้ไปใช้ในทางอื่น เพื่อ ความคล่องตัว และ ความปลอดภัยของการเงิน เพื่อการศึกษาในอนาคตของลูก

4. ประกันอนาคต

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

นอกจากเงินเก็บที่กล่าวไปแล้ว ควรทำประกันการศึกษาเพื่อเป็นตัวช่วยในกรณีที่เราต่างก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเราหรือเปล่า เพราะ หากเกิดขึ้นจริง เงินเก็บสะสมอาจจะไม่เพียงพอตามแผนที่วางไว้ ดังนั้น การทำประกันการศึกษากับบริษัทประกันภัยจะทำให้ลูกได้รับค่าเล่าเรียนตามปีการศึกษา เพื่อ อนาคตที่ดีและมั่นคง

เพียงวิธีทั้งสี่ข้อนี้ ก็เชื่อได้เลยว่าจะช่วยทำให้อนาคตทางด้านการศึกษาที่คุณวางไว้ให้กับลูกอันเป็นที่รัก ที่อยากจะให้เกิดความมั่นคง และ ประสบความสำเร็จตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงวันจบการศึกษานั้น จะไม่ใช่เรื่องยากหรือไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป

The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพ และ สังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และ เอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และ เด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งานฟรี เพื่อ ติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุด และ ผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์ และ สื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่ และ เด็ก โภชนาการแม่ และ เด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว

การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง

เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”

ที่มา : 1

บทความอื่นๆที่น่าสนใจ

ค่าเทอมลูก ส่งลูกเรียนหนังสือ เก็บเงินเท่าไหร่ วางแผนยังไง

ชาคริต แอน วางแผนอนาคต ทำสวนไว้ให้ลูก อนาคตจะได้เป็นเจ้าของสวนผลไม้

บทความใกล้เคียง: สอนลูกให้รู้จักใช้เงิน

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team