บ่อยครั้งที่คุณพ่อคุณแม่อาจกำลังสงสัยว่าควร มีลูกคนที่ 2 เมื่อไหร่ดี ควรห่างจากคนแรกกี่ปี และควรเตรียมความพร้อมอะไรบ้าง วันนี้ theAsianparent Thailand มีคำแนะนำดี ๆ เกี่ยวกับการมีลูกคนที่ 2 มาฝากคุณพ่อคุณแม่ค่ะ บ้านไหนที่กำลังจะมีน้องคนต่อไป ตามไปดูพร้อมกันเลย
มีลูกคนที่ 2 ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง?
การศึกษาจากมหาวิทยาลัย Tennesses ประเทศสหรัฐอเมริกา บ่งชี้ว่าระยะเวลาที่เหมาะสมในการมีลูกคนที่ 2 คือเมื่อลูกคนโตอายุไม่ถึง 1 ขวบ หรือเมื่ออายุเกิน 4 ปีไปแล้ว เพราะเด็กวัยต่ำกว่า 1 ขวบยังไม่มีความเป็นตัวเองมากนักจึงไม่มีแนวโน้มปฏิเสธ หรืออิจฉาสมาชิกใหม่ของครอบครัว
ในส่วนของเด็กวัยเกิน 4 ปีขึ้นไปจะเริ่มมีความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ทำให้มีช่วงเวลาที่อยากเล่นเพียงลำพังบ้าง แม้ยังต้องการความรักความสนใจจากพ่อแม่อยู่ แต่ก็ยังอยากมีเวลาส่วนตัวบ้าง ไม่ต้องการความใส่ใจตลอดเวลา จึงมักไม่ค่อยอิจฉาหากพ่อแม่จะแบ่งเวลาไปสนใจน้องบ้าง แต่ในความเป็นจริงคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องใส่ใจปัจจัย และองค์ประกอบส่วนอื่น ๆ ประกอบการตัดสินใจ ดังต่อไปนี้
บทความที่เกี่ยวข้อง : ท้องลูกคนที่สอง ใครว่าชิล ถึงมีประสบการณ์ท้องแรกก็ต้องเตรียมตัวอยู่ดี
-
ความพร้อมทางการเงิน
ลูกคนที่ 2 หมายถึง ภาระค่าใช้จ่ายที่ต้องเพิ่มสูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้า รวมไปถึงค่าเล่าเรียน ทุนการศึกษาของลูกทั้งคนโต และคนที่ 2 หากคุณพ่อคุณแม่วางแผนครอบครัวมาดี วางแผนการเงินลงตัว ก็รีบมีลูกคนที่ 2 ได้เลย
-
หน้าที่การงาน
นอกจากเรื่องความพร้อมทางการเงินแล้ว หน้าที่การงานของคุณแม่ก็เป็นเรื่องที่ควรคำนึงอีกเช่นกัน เพราะหากคุณแม่กำลังทำงาน และอยู่ในช่วงมีงานเยอะอย่างต่อเนื่อง การมีลูกคนที่ 2 ก็อาจส่งผลให้คุณแม่ลำบากในการทำงานก็ได้ ดังนั้นหากคุณแม่จะมีลูกคนถัดไป ก็ควรคำนึงถึงความพร้อมของหน้าที่ในการทำงาน ให้มีความมั่นคง ไม่ขัดสนในด้านการเงิน
-
เวลาที่จะดูแลทั้งลูกคนโตและลูกคนเล็ก
เพราะเด็กเล็กเปลี่ยนเหมือนฟองน้ำที่พร้อมจะซึมซับเอาทุกสิ่งรอบตัวมายึดเป็นต้นแบบ และปฏิบัติตามติดตัวไปจนโต การดูแลเอาใจใส่ อบรมเลี้ยงดูลูกให้เป็นคนดี มีความรับผิดชอบจึงจำเป็นต้องอาศัยความอดทน และทุ่มเทจากพ่อแม่ และเด็กแรกเกิดจำเป็นต้องอาศัยการดูแลจากพ่อแม่อย่างใกล้ชิด หากคุณแม่เริ่มชินกับการได้นอนมากขึ้นไม่ต้องตื่นกลางดึกมาให้นมลูก หรือรูปร่างกำลังค่อยกลับสู่สภาพเดิมก่อนตั้งท้อง
หากพร้อมรับมือกับการกลับไปอยู่ในวงจรเลี้ยงลูกเล็กแบบเดิมได้ เพราะคิดว่าอยากเหนื่อยทีเดียวไปเลย ก็ได้ค่ะ หรือหากคุณแม่ยังเข็ดอยู่รอไปก่อนให้พร้อมเหนื่อยอีกครั้ง หรือรอจนลูกคนโตช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น ดื้อน้อยลง พูดรู้เรื่องก่อนก็ยิ่งดี
บทความที่เกี่ยวข้อง : มีลูกคนต่อไปเมื่อไหร่ดี พี่-น้อง ควรมีอายุห่างกันกี่ปีถึงจะดีที่สุด?
-
อายุของคุณแม่
หากเป็นคุณแม่ที่มีลูกคนแรกตั้งแต่อายุยังน้อยก็คงไม่ต้องกังวล แต่หากคุณแม่ที่อายุ 35 ปีขึ้นไป รอช้าไม่ได้แล้วค่ะ ควรรีบไปตรวจเช็กสุขภาพให้ดี ว่ามีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์หรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นความเสี่ยงต่อตัวคุณแม่ หรือต่อตัวลูกน้อย คุณแม่ก็ควรไปตรวจร่างกายให้ดีว่าพร้อมที่จะมีลูกคนที่ 2 หรือเปล่า
-
แผลผ่าคลอด
หากพิจารณาแล้วผ่านทุกข้อ เงินพร้อม เวลาพร้อม อายุเป๊ะ แต่ผ่าคลอด อาจจะต้องรอไปก่อน 2 ปี เพื่อให้แผลผ่าคลอดหายสนิท และร่างกายฟื้นฟูจนกลับมาสมบูรณ์เหมือนเดิมดีกว่าค่ะ
-
ความสะดวกในการไปฝากครรภ์
การไปฝากครรภ์เป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก หากคุณแม่ตั้งท้องก็ต้องไปฝากครรภ์ตามนัดเสมอ ซึ่งโดยปกติแล้ว แพทย์จะนัดคุณแม่ให้ไปฝากครรภ์ต่อเนื่องทุกเดือน ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมากที่คุณแม่ไม่ควรพลาดนัด ดังนั้นหากคุณแม่จะมีลูกคนที่ 2 ก็ต้องดูว่าตัวเองสะดวกไปฝากครรภ์หรือไม่
-
ผ่านการเห็นชอบจากสามี
การมีลูกจำเป็นต้องใช้ความร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจจากสามีด้วยหากคุณพร้อมอยู่ฝ่ายเดียวคงไม่ดีแน่ ควรปรึกษา สอบถามความเห็นจากสามี พูดคุยให้เข้าใจและมีความเห็นตรงกันเสียก่อนจะเป็นการดีที่สุดค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง : 6 ข้อเตือนสติ มีลูกเมื่อพร้อม ต้องพร้อมเรื่องอะไร ทำตัวแบบไหนอย่าเพิ่งมีลูก
มีลูกคนที่ 2 เตรียมตัวอย่างไร?
เมื่อคุณแม่รู้สึกพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์แล้ว ควรเตรียมตัวเพื่อเตรียมความพร้อมในการมีลูกคนที่ 2 เพราะการมีสุขภาพที่ดีนั้น ลูกน้อยก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรงด้วย โดยการเตรียมตัวสำหรับการมีลูกคนที่ 2 มีดังนี้
- ปรึกษาแพทย์ : แน่นอนว่าเมื่อคุณแม่พร้อมที่จะมีลูกคนต่อไปแล้ว ควรไปปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการตั้งครรภ์ โดยแพทย์จะตรวจร่างกาย และเช็กโรคประจำตัวของคุณแม่เพื่อดูว่าพร้อมที่จะตั้งครรภ์ไหม
- ตรวจสุขภาพช่องปาก : หลายคนอาจไม่ทราบว่า เรื่องสุขภาพช่องปากเป็นสิ่งสำคัญกับการตั้งครรภ์เป็นอย่างมาก เพราะหากคุณแม่มีฟันผุ ก็อาจส่งผลให้เกิดปัญหาการตั้งครรภ์ได้ค่ะ
- งดใช้ยาคุมกำเนิด : หากคุณแม่ และสามีมีความพร้อมแล้ว ก็ควรงดใช้ยาคุมกำเนิด และสามารถปล่อยด้วยวิธีธรรมชาติได้เลยค่ะ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ : อย่างที่ทราบกันว่าเรื่องอาหารการกิน เป็นสิ่งสำคัญในการตั้งครรภ์อย่างมาก ดังนั้นคุณแม่จึงควรรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และควรรับประทานวิตามินเสริมที่ช่วยในการตั้งครรภ์ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟ ชา แอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ ก็จะช่วยให้ลูกน้อยแข็งแรง และลดความเสี่ยงในการพิการได้
- ทำกิจกรรมคลายเครียด : คุณแม่ควรหากิจกรรมต่าง ๆ เพื่อคลายความเครียด และความวิตกกังวล ไม่ว่าจะเป็นการดูหนัง ฟังเพลง นั่งสมาธิ ออกกำลังกาย หรือทำสวน เป็นต้น เพราะหากคุณแม่มีความเครียดในช่วงตั้งครรภ์ ก็อาจทำให้ระบบในร่างกายทำงานผิดปกติ รวมไปถึงการตกไข่อีกด้วย ดังนั้นอย่าลืมทำกิจกรรมคลายเครียดบ่อย ๆ และนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอนะคะ
เรื่องการมีลูกคนที่ 2 เป็นเรื่องใหญ่ที่จำเป็นต้องคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ ไม่มีใครจะเข้าใจสถานการณ์ในครอบครัวของเราได้ดีเท่าตัวคุณ ทางออกที่ดีที่สุดคือความเห็นชอบที่ตรงกันของคนในครอบครัว เพื่อคิดดีถี่ถ้วนแล้วอาจไม่จำเป็นต้องรอถึง 4 ปีก็ได้นะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
มีลูกห่างกันกี่ปีดี มีลูกคนที่สอง ห่างจากคนแรกกี่ปีดีนะ มีตอนไหนถึงดีที่สุด
อยากมีลูก คุณแม่ควรเตรียมตัวอย่างไร รวมอาหารควรทานและควรงดมีอะไรบ้าง?
ความเครียด ทำให้มีลูกยากจริงหรือไม่ ความเครียดมีผลกับการตั้งครรภ์จริง ๆ หรือ
ที่มา : theasianparent, sanook, beyondivf