ลูกกลัวคนแปลกหน้า เมื่อไรที่ต้องกังวล? พ่อแม่รับมืออย่างไรให้ลูกอุ่นใจ

lead image

ลูกกลัวคนแปลกหน้า อาจดูเป็นพฤติกรรมตามสัญชาตญาณปกติ แต่หากเป็นการกลัวแบบหวาดวิตกเกินไปอาจมีผลต่อพัฒนาการได้ค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

พฤติกรรม “กลัวคนแปลกหน้า” เป็นพัฒนาการตามธรรมชาติที่พบได้บ่อยในเด็กเล็กค่ะ โดยเฉพาะในช่วงวัย 6 เดือนขึ้นไป ซึ่งการเรียนรู้พัฒนาขึ้นมากจนสามารถแยกแยะคนแปลกหน้า และมีปฏิกิริยาโต้ตอบผ่านการ “ปฏิเสธ” ที่จะเข้าใกล้คนแปลกหน้า และร้องหาคุณพ่อคุณแม่หรือคนที่คุ้นเคยได้ แล้วพฤติกรรม ลูกกลัวคนแปลกหน้า แบบไหนที่ไม่ปกติ เมื่อไรที่ต้องกังวล? พ่อแม่จะรับมือกับความกลัวของลูกอย่างถูกต้องได้อย่างไร ไม่ให้ลูกถูกปิดกั้นความสามารถในการพัฒนาความมั่นใจในอนาคต

ลูกกลัวคนแปลกหน้า

ปฏิกิริยาต่อ “คนแปลกหน้า” ของเด็กแต่ละช่วงวัย

เด็กแต่ละคนจะแสดงปฏิกิริยาต่อคนแปลกหน้าตามพัฒนาการทางสังคมและอารมณ์ตามธรรมชาติ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปตามวัย ซึ่งอาจแบ่งได้ดังนี้

  • วัย 2 เดือน ลูกสนใจคนแปลกหน้าน้อยมาก สนใจมองแต่ใบหน้าของแม่
  • ช่วงวัย 4 เดือน ทารกจะเล่นทำเสียงโต้ตอบและยิ้มให้คนแปลกหน้าได้เพราะคิดว่ากำลังเล่นด้วยกัน
  • ในช่วงอายุ 5-6 เดือน ลูกน้อยจะเริ่มรู้แล้วว่าใครเป็นคนแปลกหน้า และจะมีความกลัวชัดเจนขึ้นเมื่ออายุ 9 เดือน ถ้าคนแปลกหน้าเริ่มมีการแตะตัว ลูกจะระวังตัวและแข็งขืน ตามองจ้อง อาจเริ่มเบะปาก กรี๊ดเสียงดัง และอาจร้องไห้ไม่หยุดอีกนานจนกว่าไม่เห็นคนแปลกหน้านั้นแล้ว
  • วัย 9 เดือน ไม่เพียง ลูกกลัวคนแปลกหน้า เท่านั้น แต่ยังกลัวสิ่งที่ใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคยด้วย เช่น หมวกใบใหม่ของแม่ หรือหน้าตาของพ่อหลังโกนหนวด ซึ่งอาการนี้เรียกว่า อาการกลัวคนแปลกหน้า
  • อายุ 12-15 เดือน ลูกน้อยจะสามารถนำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตมาคาดเดาผลที่จะเกิดขึ้นในอนาคต เช่น แม้จะไม่รู้ว่าคนแปลกหน้าคนนั้นเป็นใคร แต่หากไม่เคยทำอะไรที่เกิดผลต่อตัวลูก ลูกจะไม่กลัว

อย่างไรก็ตาม มีทารกประมาณร้อยละ 15 ที่มีความกลัวคนแปลกหน้าหรือสถานการณ์ใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคยอย่างมาก กระทั่งเมื่อถึงวัยหัดเดินจะเป็นเด็กที่ค่อนข้างระวังตัว ไม่ค่อยเข้าร่วมกิจกรรมกับคนอื่นง่ายๆ จนกว่าจะแน่ในสถานการณ์ ซึ่งเป็นการประมวลผลจากการทำงานของสมอง ไม่ได้ขึ้นอยู่กับวิธีการเลี้ยงดูและไม่ถือเป็นความผิดปกตินะคะ คุณพ่อคุณแม่ยังไม่ต้องกังวลค่ะ

 

สาเหตุที่ ลูกกลัวคนแปลกหน้า

  1. ลูกกลัวคนแปลกหน้าเป็นไปตามพัฒนาการปกติของเด็กเล็กที่ก่อนอายุ 6 เดือน ทารกจะยังไม่สามารถแยกแยะคนแปลกหน้ากับคนที่คุ้นเคยได้ สัญชาตญาณทำให้รู้สึกว่าคนแปลกหน้าอาจเป็นอันตราย จึงร้องไห้กลัว
  2. ลูกถูกขู่บ่อยๆ หรือใช้เสียงดัง ทำให้เกิดความหวาดกลัว หรือตกใจอยู่บ่อยๆ
  3. เกิดความไม่มั่นใจในตัวคุณพ่อคุณแม่ ไม่มั่นใจในตัวเอง
  4. มี Role Model ที่เป็นแบบอย่างคนขี้กลัว หรือมีความวิตกกังวลสูง

ลูกกลัวคนแปลกหน้า พ่อแม่รับมืออย่างไรให้ลูกอุ่นใจ

ก่อนรับมือกับพฤติกรรมหรืออาการ ลูกกลัวคนแปลกหน้า อยากให้เข้าใจตรงกันก่อนค่ะว่า คนแปลกหน้าที่เราอยากให้ลูกคุ้นเคยนี้ ควรเริ่มจากเป็นคนแปลกหน้าแค่ของลูก ต้องไม่ใช่คนแปลกหน้าของคุณพ่อคุณแม่นะคะ โดยอาจเริ่มจากให้คนแปลกหน้านั้นคุยอยู่ห่างๆ ก่อน จนกว่าลูกจะเริ่มคุ้นเคย อย่าจู่โจมหรืออุ้มลูกไปจากคุณพ่อคุณแม่ เพราะจะทำให้ลูกยิ่งกลัวมากขึ้น รวมถึงไม่จำเป็นต้องให้คนแปลกหน้ามาจับหรืออุ้มลูกน้อยโดยไม่จำเป็น เพราะอาจเป็นพาหะนำเชื้อโรคต่างๆ มาสู่ลูกได้ หรือรับมือ ลูกกลัวคนแปลกหน้า ด้วยวิธีต่อไปนี้ค่ะ

 

  1. ฝึกให้ลูกน้อยทำสิ่งต่างๆ ด้วยตนเอง

เช่น กินข้าว หยิบของ อาบน้ำ การเดิน และคุณพ่อคุณแม่ตอบสนองความต้องการของลูกสม่ำเสมอด้วยท่าทีที่อบอุ่น สบายๆ และคาดเดาได้ เพื่อช่วยให้ลูกเกิดความมั่นใจในตนเอง รวมถึงหมั่นให้ลูกได้พบคนแปลกหน้าพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่ให้บ่อยขึ้น โดยฝึกซ้ำๆ ไม่เร่ง หากลูกยังไม่พร้อม

 

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  1. ไม่บังคับ หรือยัดเยียดลูกให้คนแปลกหน้า

แม้คุณพ่อคุณแม่จะรู้สึกเกรงใจเมื่อมีคนรักและเอ็นดูลูก จนอยากเข้ามาเล่นด้วย แต่ลูกกลับมีอาการไม่เป็นมิตรกลับไป ไม่ต้องกังวลหรือรู้สึกเสียหน้านะคะ เพราะเป็นพฤติกกรรมตามวัยของลูก คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องยัดเยียดให้ลูกยอมถูกคนอื่นที่ไม่คุ้นหน้าอุ้มหรือพาตัวไป โดยที่ยังปรับตัวไม่ได้ เพราะจะยิ่งทำให้ลูกหวาดกลัวมากขึ้น ควรคุยคนแปลกหน้านั้นให้เข้าใจหรือให้เขาเล่นหยอกล้อกับลูกโดยที่คุณพ่อหรือคุณแม่ยังอุ้มลูกอยู่จะดีกว่าค่ะ

 

  1. ให้เวลาปรับตัว

ลูกอาจจะต้องใช้เวลาสักพักในการปรับตัวเข้ากับคนแปลกหน้า พ่อแม่ไม่ควรกดดันลูกให้ต้องไปทักทายหรือพูดคุยกับคนที่ไม่คุ้นเคยเร็วเกินไป ควรให้ลูกมีเวลาในการปรับตัวและค่อยๆ สร้างความเชื่อมั่นในตัวเอง

 

  1. พ่อแม่เป็นตัวอย่างที่ดี

คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยลูกน้อยให้ผ่อนคลายจากการพบคนแปลกหน้าได้ด้วยการเป็น Role Model หรือแบบอย่างที่ดี โดยแสดงออกถึงความมั่นใจในการพบปะพูดคุยกับคนแปลกหน้า แนะนำให้ลูกเห็นว่าผู้คนใหม่ๆ สามารถเป็นเพื่อนที่ดีได้ เมื่อลูกเห็นพฤติกรรมของพ่อแม่ จะรู้สึกว่าการพบปะคนใหม่ไม่ใช่เรื่องที่น่ากลัวค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

  1. อย่าดุ ข่มขู่ หรือตำหนิลูก

แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะอยากให้ลูกน้อยเป็นเด็กน่ารักในสายตาของคนรอบข้าง แต่เมื่อลูกมีอาการกลัว ก็ไม่ควรดุ ตำหนิ หรือขู่ให้ลูกยอมทำตามใจพ่อแม่ เพราะคำพูดในเชิงลบจะทำให้ลูกกลัวมากขึ้นและยิ่งต่อต้าน แต่อาจใช้วิธีปลอบหรือบอกกับลูกด้วยถ้อคำเชิงบวกว่า คนๆ นี้ไม่น่ากลัว ไม่เป็นไรนะคะ เพื่อให้ลูกค่อยๆ สร้างความคุ้นเคยก่อน เมื่อลูกพร้อมแล้วค่อยปล่อยให้คนแปลกหน้านั้นได้เล่นกับลูก

 

  1. ห้ามทิ้งลูกไว้ แล้วแวบหายไป

กรณีคุณพ่อคุณแม่มีธุระที่ต้องจัดการ ห้ามทิ้งลูกไว้กับคนแปลกหน้าแล้วหายตัวไปโดยที่ลูกไม่รู้ตัวนะคะ หากจำเป็นจริงๆ อาจต้องบอกลูกให้เข้าใจก่อน เช่น คุณแม่จะเข้าห้องน้ำสักครู่ หนูอยู่กับพี่คนนี้ไปก่อนนะคะ เดี๋ยวคุณแม่กลับมา โดยสิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ต้องรักษาคำพูด ต้องทำตามที่พูดเสมอด้วยค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

  1. สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูก

การพาลูกไปร่วมกิจกรรมที่มีคนแปลกหน้ามากมาย เช่น งานเลี้ยงเด็ก หรือกิจกรรมที่มีผู้ใหญ่และเด็กหลายคน จะช่วยให้ลูกน้อยได้ทำความคุ้นเคยกับสถานการณ์ที่มีคนใหม่ๆ ค่ะ โดยควรเป็นสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย และไม่ทำให้ลูกรู้สึกเครียด มีคุณพ่อคุณแม่อยู่เคียงข้างและให้ความมั่นใจว่าลูกจะได้รับการปกป้องเสมอ

 

ลูกกลัวคนแปลกหน้า แบบไหนที่ต้องกังวล?

ตามธรรมชาติของมนุษย์แล้ว ความวิตกกังวล กลัวคนแปลกหน้า นับเป็นสัญชาตญาณประจำตัวที่ควรจะมีติดตัวไว้เพื่อความปลอดภัยค่ะ แต่หากมีมากเกินไปก็อาจขัดขวางพัฒนาการได้ ขณะเดียวกันหากไม่มีเลยก็ทำให้ลูกน้อยไว้ใจคนง่ายเกินไปจนถูกหลอกได้ง่าย แล้วอาการ ลูกกลัวคนแปลกหน้า แบบไหนที่ไม่พอดี ไม่ปกติ และควรได้รับการปรับพฤติกรรม มาดูกันค่ะ

  • กลัวคนแปลกหน้ามากเกินไป

หากลูกแสดงอาการกลัวคนแปลกหน้าตลอดเวลา หรือมีความวิตกกังวลมากเกินไปจนทำให้ไม่สามารถเข้ากับคนอื่นได้เลย อาจจะเป็นสัญญาณที่สะท้อนถึงปัญหาทางอารมณ์หรือพัฒนาการ คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด หากลูกแสดงอาการหวาดกลัวอย่างรุนแรง เช่น ร้องไห้เสียงดัง ตัวสั่น หรือหายใจไม่ออกทุกครั้งที่เจอคนแปลกหน้า อาจเป็นสัญญาณของการมีภาวะวิตกกังวลค่ะ

  • กลัวทุกคนที่ไม่ใช่พ่อแม่หรือผู้ดูแลใกล้ชิด

ในบางกรณี ลูกอาจจะแสดงอาการกลัวคนที่ไม่ใช่พ่อแม่ หรือคนใกล้ชิดคุ้นเคย แม้คนเหล่านั้นจะไม่มีเจตนาร้าย แต่อาการนี้อาจจะเป็นเพียงสัญญาณของความวิตกกังวลในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ หรือความไม่มั่นใจในสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคยเท่านั้นก็ได้ค่ะ

  • กลัวจนไม่สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้

ถ้าลูกน้อยกลัวคนแปลกหน้าจนไม่สามารถทำกิจกรรมที่เคยทำได้ตามปกติ ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน เช่น การเล่นกับเพื่อนใหม่ หรือทำกิจกรรมในที่สาธารณะ อาจเป็นสัญญาณว่าทักษะทางสังคมของลูกอาจมีปัญหา ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญค่ะ

  • อาการไม่ดีขึ้นตามวัย

โดยปกติแล้วอาการกลัวคนแปลกหน้าจะค่อยๆ ลดลงเมื่อลูกโตขึ้น แต่หากอาการไม่ดีขึ้น หรือแย่ลงเมื่อลูกอายุเกิน 3 ขวบ รวมถึงมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย เช่น ซึมเศร้า แยกตัว หรือมีปัญหาด้านพฤติกรรม ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

 

การที่ลูกกลัวคนแปลกหน้าเป็นสัญชาตญาณและพัฒนาการนะคะ ยังไม่จำเป็นต้องกังวลจนเกินไป ยกเว้นในกรณีที่เห็นว่ามีผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของลูก คุณพ่อคุณแม่ค่อยช่วยกันปรับพฤติกรรมโดยการให้เวลาและพื้นที่ในการปรับตัว สร้างความมั่นใจ และทำให้ลูกเข้าใจว่าโลกนี้ไม่ได้น่ากลัวเสมอไป จะช่วยให้ลูกจะสามารถเรียนรู้การรับมือกับความกลัวและพัฒนาความมั่นใจในตัวเองได้ในที่สุดค่ะ

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

 

ที่มา : static.cdntap.com , สุธีรา เอื้อไพโรจน์กิจ , www.trueplookpanya.com

 

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ลูกนอนผวา ร้องไห้ เรื่องที่คุณแม่ต้องเข้าใจ และรับมืออย่างเหมาะสม

พ่อแม่ที่เป็นแรงบันดาลใจ วิธีเป็นพ่อแม่ต้นแบบ ให้ลูกเติบโตได้อย่างดี

ลูกขาลาย เพราะน้ำเหลืองไม่ดี จริงไหม? สาเหตุจริงๆ คืออะไร แก้ไขยังไงดี?

 

บทความโดย

จันทนา ชัยมี