ลูกของฉันสามารถป่วยเป็น โควิด-19 ได้หรือไม่? กับสิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับมัน
ในขณะที่จำนวนผู้ป่วย โควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทั่วโลก คุณพ่อคุณแม่ที่พยายามหาวิธีปกป้องลูกแทบจะทุกวิธี และปลอบใจตัวเองว่ายังมีอีกหลายโรคในเด็กที่มีความรุนแรงกว่าโรคนี้ อย่างไรก็ตามยังมีอีกหลายสิ่งที่เกี่ยวกับ โควิด -19 ที่กำลังทำการวิจัยอยู่
เด็ก ๆ สามารถติดเชื้อ โควิด-19 ได้หรือไม่?
ได้ค่ะ พวกเขาสามารถติดเชื้อและดูเหมือนจะสามารถแพร่เชื้อดังกล่าว (Covid-19) ได้อีกด้วย แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีอาการนั้นเลยก็ตาม นั่นเป็นสาเหตุที่เด็ก ๆ ควรฝึกฝนการทำ social distancing และล้างมือให้ถูกวิธี แม้ว่าเด็กจะไม่ป่วยก็ตาม
โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อเด็กอย่างไร?
โดยทั่วไปเชื่อว่าเด็ก ๆ มักมีอาการที่รุนแรงน้อยกว่าผู้ใหญ่ เห็นได้ชัดว่าผลกระทบนี้จะส่งผลไปตามช่วงอายุ เมื่อมีการระบาดเกิดขึ้น สิ่งที่เรารู้ในขณะนี้ส่วนใหญ่มาจากรายงานจากประเทศจีน ซึ่งการระบาดเริ่มต้นขึ้น มีเพียง 2.4% ของการติดเชื้อระบุว่าเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 19 ปี ของกรณีที่ระบุทั้งหมด ซึ่งอยู่ในจำนวนที่น้อย โดยเด็กกลุ่มนี้จะมีอาการรุนแรงเพียง 2.5% หรือองค์การอนามัยโลก (WHO) อธิบายว่าเป็น อัตราที่น้อยมาก
โควิด-19 ส่งผลกระทบแตกต่างในเด็กอย่างไร?
ยังไม่มีข้อมูลที่แน่ชัด ดร.Jay C Butler รองผู้อำนวยการโรคติดเชื้อที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกา ได้พูดกล่าวว่า “ปรากฏการณ์นี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง” ในรายการสด ที่จัดทำโดยวารสารสมาคมการแพทย์อเมริกัน
WHO กล่าวว่าอาจจะเป็นไปได้ว่าที่โควิด-19 ส่งผลกระทบกับผู้สูงอายุรุนแรงกว่าอาจจะเป็นเพราะ ผู้สูงอายุมีอายุ 60 ปีขึ้นไปหรืออาจจะเกี่ยวกับข้องภาวะสุขภาพที่มีอยู่ ซึ่งรวมถึงผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น ความดันโลหิตสูง, เบาหวาน, มะเร็ง, โรคหัวใจ และหลอดเลือด และสภาพระบบทางเดินหายใจเรื้อรังเป็นต้น
ลูกของฉันมีโรคประจำตัว ฉันควรทำอย่างไร?
เด็ก ๆ ที่มีภาวะระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหอบหืดมักส่งผลผลกระทบเกี่ยวกับโรคที่มีไวรัส เช่น ไข้หวัดใหญ่ แต่ Covid-19 นั้นยังใหม่มาก และยังไม่ทราบว่าจะมีผลกระทบรุนแรงกับเด็กที่เป็นโรคหอบหืดหรือไม่
ในทำนองเดียวกันยังไม่มีหลักฐานว่า Covid-19 มีผลเสียต่อเด็กที่เป็นโรคเบาหวานหรือไม่เช่นกัน แต่นี่เป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับผู้ใหญ่มากเลยทีเดียว ผู้เชี่ยวชาญที่ Johns Hopkins University จึงอยากจะเตือนผู้ปกครองให้ระมัดระวังไว้ก่อน
ฉันควรป้องกันไม่ให้ลูก ๆ อยู่บ้านหรือไม่?
ในหลายประเทศมีการตัดสินใจจากพ่อแม่ว่าไม่ควรไปโรงเรียน โดยโรงเรียนและสถานศึกษาได้ถูกปิดโดยรัฐบาลเพื่อพยายามหยุดยั้งการแพร่กระจายของไวรัส
แม้ว่าลูกของคุณอยู่ที่บ้านแต่พวกเขาก็ควรที่จะต้องออกกำลังกายเป็นประจำ และจะต้องฝึกการทำ social distancing เพื่อรับมือเมื่อต้องออกไปนอกบ้าน
ถ้าลูกของฉันมีอาการไอหรือน้ำมูกไหลฉันควรทำอย่างไรดี?
โชคดีหน่อย ที่คนส่วนใหญ่ที่มีอาการของ COVID-19 ไม่ได้มีอาการแบบที่คุณกล่าวมา พวกเขามักจะมีอาการไอ มีไข้หรือมีอาการหวัด และเรารู้ว่าแม้เด็ก ๆ จะได้รับเชื้อ COVID-19 แต่พวกเขาจะไม่มีอาการรุนแรง และไม่ตาย และพวกเขาจะไม่ป่วยเหมือนคนผู้สูงอายุที่เราเห็น ดังนั้นอย่าพึ่งวิตกกังวลเกินไป
แต่ถ้าเด็ก ๆ มีความเสี่ยงจาก COVID-19 และในครอบครัวของคุณมีผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีภาวะสุขภาพเรื้อรังนั้น เป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องรู้ว่าลูกของคุณมีอาการ COVID-19 หรือไม่ นอกจากนี้หากคุณนั้นเดินทางออกไปข้างนอก คุณอาจจะต้องระวังตัวมากขึ้น เพราะเด็ก ๆ อาจจะแพร่เชื้อแก่ผู้สูงอายุดังกล่าวได้ เพราะบางครั้งพวกเขาก็ไม่ได้มีการแสดงอาการของโรคดังกล่าวนั่นเอง
คุณจะสามารถตรวจสอบอาการได้อย่างไร?
วิธีเดียวที่จะทดสอบหาไวรัสได้คือการไปโรงพยาบาล หากลูกคุณ ครอบครัวของคุณหรือตัวคุณเองมีอาการเข้าข่ายกับโรคดังกล่าว หนทางเดียวที่จะสามารถให้คำตอบคุณได้อย่างแน่ชัดคือการไปโรงพยาบาล
ควรจะพาลูกไปโรงพยาบาลเมื่อใด?
เป็นการยากที่จะกำหนดอาการได้จริง ๆ คุณอาจจะสังเกตอาการลูก ๆ ว่าพวกเขาหายใจในอัตราที่กำหนดหรือไม่ หรือถ้ามีไข้มันเป็นอุณหภูมิที่แน่นอนหรือเปล่า อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะทราบว่าเด็ก ๆ หายใจเร็วแค่ไหน ความสูงของอุณหภูมิร่างกายไม่ได้บ่งบอกถึงความรุนแรงของการเจ็บป่วย เพราะบางครั้งมีการติดเชื้อไวรัสง่าย ๆ มากมายที่ไม่เป็นอันตรายหากมีไข้สูง
หากคุณกังวลเกี่ยวกับสุขภาพของลูกคุณควรไปพบแพทย์ทั่วไป และหากบุคคลนั้นไม่พร้อมให้คุณไปที่ห้องฉุกเฉิน การมีไข้เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน ดังนั้นแม้ว่าลูกของคุณจะอาการที่โอเคอยู่ แต่ถ้าพวกเขายังมีไข้อยู่ติดต่อกันสองถึงสามวัน ฉันคิดว่าเด็ก ๆ ควรได้รับการตรวจ ผู้ปกครองไม่สามารถประเมินอาการของเด็กได้เองแล้ว และผู้ปกครองไม่สามารถบอกได้ว่าลูกของคุณนั้นติดเชื้อหรือไม่ ทางที่ดีเด็ก ๆ ควรได้รับการตรวจอย่างละเอียด และถูกวินิจฉัยอย่างเหมาะสม แต่ถ้าหากลูกคุณมีอาการน้ำมูกไหลและไอเล็กน้อยคุณอาจจะไม่ต้องมาก็ได้
หากเด็กมีอาการไอและเป็นไข้ แต่สามารถจัดการได้ที่บ้านเราจะต้องให้พวกเขาอยู่ห่างจากคนอื่นนานแค่ไหน?
เรายังไม่มีแนวทางที่ชัดเจนในขณะนี้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วคิดว่าทุกคนที่ป่วยตอนนี้ควรจะกักตัวเองเป็นเวลา 14 วันหลังจากที่เริ่มป่วยหรือหลังจากกลับจากการเดินทางออกนอกประเทศ นั่นไม่ใช่คำแนะนำอย่างเป็นทางการ แต่นั่นจะเหมาะสม โดยทั่วไปหากเด็กป่วยหรือมีไข้ฉันขอแนะนำอย่างยิ่งที่จะต้องกักตัวเอง
มีเด็ก ๆ ที่มีอาการ โควิด-19 มากเท่าใด?
เราไม่ทราบสถิติที่แท้จริงเพราะคนส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการตรวจ เรากำลังสมมติว่ากรณีของผู้คนส่วนใหญ่ที่เราเห็นในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นไข้หวัดใหญ่และเราไม่จำเป็นต้องตรวจผู้คนเหล่านั้น เป็นไปได้ค่อนข้างมากที่จะมีผู้ติดเชื้อในประเทศมากกว่าที่พวกเราทราบในตอนนี้ เพราะหลาย ๆ คนยังไม่มีโอกาสได้ตรวจสอบอย่างแน่ชัด
ถ้าเด็ก ๆ มีอาการควรรักษาอย่างไร
ไม่มีการรักษาใด ๆ เป็นพิเศษ เพียงแค่รักษาและดูแลตามอาการ ดังนั้นทำให้แน่ใจว่าพวกเขาดื่มน้ำเพียงพอ บางคนจะป่วยมากและต้องการสิ่งต่าง ๆ เช่น ออกซิเจนและยาแก้อักเสบสำหรับโรคปอดบวม
ควรโทรติดต่อหมอล่วงหน้าหรือไม่ถ้าคุณคิดว่าลูกอาจจะติดเชื้อ?
การโทรไปที่โรงพยาบาลล่วงหน้าอาจจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก เพราะพวกเขาจะทำการตรวจคุณก็ต่อเมื่อคุณไปถึงโรงพยาบาล ซึ่งพวกเขาอาจจะตรวจสอบพวกคุณเบื้องต้นในการสอบถามว่าคุณไปในพื้นที่เสี่ยงหรือไม่ หรือได้เดินทางออกไปนอกประเทศหรือไม่ และมีผู้ที่มีความเสี่ยงอยู่ในครอบครัวคุณหรือไม่ เป็นต้น
ใครควรแยกตัวเองตอนนี้
คนที่จะต้องแยกกักตัวเองในตอนนี้คือ คนที่เดินทางออกนอกประเทศ ผู้ที่เดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยง. ผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่มีอาการ และผู้ที่มีอาการเข้าข่าย เพราะบางครั้งอาจจะมีบางคนที่ใกล้ชิดกับผู้ที่อาการป่วย แต่พวกเขาไม่แสดงอาการ และเป็นไปได้ว่าคุณอาจจะติดเชื้อมาแล้วแต่ไม่แสดงอาการ แต่คุณนั้นสามารถแพร่เชื้อได้ ฉะนั้นแล้วเป็นเรื่องที่ดีหากคุณกักตัวเองเมื่อมีอาการหรือไปอยู่สถานการณ์เสี่ยง
บทความต้นฉบับ todaysparent theguardian
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
มีเซ็กส์ยังไงไม่ติดโควิด มีเซ็กส์ช่วงโควิดระบาดได้หรือไม่ ทำยังไงให้ปลอดภัยที่สุด
เด็กเกิดมาก็ติด Covid-19 เลย เกิดอะไรขึ้นโรคไวรัสติดมาที่เด็กได้หรอ?
สหรัฐฯเริ่มทดสอบ วัคซีนต้านโควิด-19 (Covid-19) กับมนุษย์เป็นครั้งแรก