3 คุณแม่ชวนลูกเสริมสร้างพัฒนาการผ่านเลโก้ที่ Bricks 4 Kidz
ในการเสริมสร้างพัฒนาการให้กับเด็กเล็ก แน่นอนว่าต้องมีเรื่องความสนุกสนานเป็นองค์ประกอบสำคัญ และหนึ่งในสิ่งที่หลายครอบครัวเลือกให้กับลูก ๆ คือเลโก้ ซึ่งสามารถสร้างความเพลิดเพลินและเพิ่มพัฒนาการให้กับเด็กๆ ได้ที่บ้าน แต่มีผู้ปกครองจำนวนหนึ่งที่เล็งเห็นว่าเลโก้เป็นได้มากกว่าของเล่น โดยเฉพาะการผสมผสานความรู้ผ่านหลักสูตรจากอเมริกาที่คิดค้นมาอย่างดี และถ่ายทอดโดยครูผู้เชี่ยวชาญที่ Bricks 4 Kidz โดยบทสัมภาษณ์ครั้งนี้มีตัวแทนคุณแม่ 3 ท่านที่พร้อมแบ่งปันประสบการณ์ที่ได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของลูก ซึ่งพวกเธอจะมาบอกเล่าว่ารู้จักสถาบันนี้ได้อย่างไร ประทับใจในอะไร และมีความสุขแค่ไหนที่ได้เห็นลูกเรียนรู้ทักษะต่างผ่านเลโก้อย่างมีความสุข
คุณแม่แจน-ศิรนุช โรจนเสถียร – น้องเจน่า ด.ญ.ศรินทร์รตา โรจนเสถียร นักเรียนชั้นอนุบาล 1 โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรังสิต
Bricks 4Kidz
“เคยอ่านเจอเรื่องราวของ Bricks 4 Kidz ในนิตยสารแล้วสนใจ บวกกับเคยได้เห็นตอนไปเที่ยวที่อเมริกา พอมีแฟรนไชส์มาเปิดที่เมืองไทยก็เลยอยากให้ลูกลองไปเรียน เพราะช่วงนั้นเขาเริ่มมีพัฒนาการ เริ่มพูดและเริ่มที่จะเล่นแล้ว ครั้งแรกที่ไปน้องอายุ 2 ขวบ 8 เดือน ตอนนี้ 3 ขวบแล้ว
ย้อนไปตอนขวบกว่า ๆ แจนจะพาน้องไปเรียนทุกอย่าง ด้วยหนึ่ง เราอยากให้เขามีพัฒนาการ และสอง เราเลี้ยงลูกเองด้วย หมดมุกจะเล่นกับลูกแล้ว เลยลองดูว่าเขาไปแล้วเอนจอยกับอะไรบ้าง ปรากฏว่าหนึ่งในคลาสที่เขาชอบมาก ๆ คือ Bricks 4 Kidz ที่ชอบคือสามารถนำมาต่อยอดที่บ้านได้ ตอนนี้น้องกลายเป็นคนชอบต่อเลโก้ไปเลย
คอร์สที่น้องเรียนคือ Junior Inventor จะใช้บริคอันใหญ่ ๆ ตอนที่ไปใหม่ๆ เขาเด็กมาก ก็จะเริ่มเรียนรู้ว่าสีไหนเป็นสีไหน ไม่ใช่แค่ฝึกทักษะกล้ามเนื้อมัดเล็กมัดใหญ่ แต่ได้ฝึกเรื่องภาษาด้วย ครูจะช่วยเอนเทอร์เทนและสอนเป็นภาษาอังกฤษ เลยได้ภาษาอังกฤษกลับบ้านมาด้วย ไม่ใช่แค่ไปเรียนต่อเลโก้อย่างเดียว มีกิจกรรมในคลาสที่สนุกสนาน และเมื่อกลับมาที่บ้านก็นำมาต่อยอดกับลูกได้ แม้กระทั่งกล่องกระดาษ เรานำมาทำเป็นอุปกรณ์ง่าย ๆ เล่นกับเขา ถ้าไม่ได้เข้าคลาสแบบนี้ ก็จะไม่รู้ว่าเราสามารถเอาของใกล้ตัวหรือของที่มีอยู่มาสอนลูกได้
สำหรับพัฒนาการที่เห็นตอนเขาไปโรงเรียน สังเกตดูจากเด็กวัยเดียวกัน น้องเพิ่งไปโรงเรียนได้ 2 เดือน ลูกสามารถรับความรู้และทักษะต่าง ๆ ได้เร็ว เหมือนเป็นการเตรียมตัวเพื่อเข้าโรงเรียนอย่างหนึ่ง อย่างแรกคือเขาไม่กลัวการไปโรงเรียน การไปเจอคน มีทักษะการเข้าสังคม ส่วนหลักสูตรต่าง ๆ ที่เรียนที่นี่กับที่โรงเรียนจะมีคล้ายคลึงกัน สามารถต่อยอดได้เลย ถ้าเราไม่ได้เรียนจากที่นี่มาก่อน เราอาจต้องเริ่มต้นจากศูนย์ พอเข้าโรงเรียนจะรู้เลยว่าลูกเราไม่ได้เริ่มจากศูนย์ อีกอย่างคือพัฒนาการด้านภาษาอังกฤษ เพราะเขาเรียนโปรแกรมสองภาษา เด็กไทยอาจจะกลัวที่จะคุยกับทีชเชอร์ แต่เขาสามารถโต้ตอบได้อย่างมั่นใจ ไม่กลัวเลย
ส่วนฟีดแบกจากตัวน้องเอง เขาชอบมาก ทุกครั้งที่ไปเรียนก็จะเตรียมตัวที่จะไปเจอคุณครู มีความติดคุณครู เพราะคุณครูน่ารัก เล่านิทาน ชวนเล่น เป็นกิจกรรมที่เด็กชอบ เขาเลยรู้สึกว่าอยากไป ถ้าเป็นโรงเรียนสอนภาษาอังกฤษปกติ อาจจะไม่ได้มีอุปกรณ์เยอะขนาดนี้”
คุณแม่ตุ๊กตา-พวิดา จันทร์ประกายสี – น้องเหวินเจี๋ย ด.ช.กัณต์พัศ สกุลชิต นักเรียนชั้น ป.1 โรงเรียนอัสสัมชัญธนบุรี
Bricks 4Kidz
“รู้จัก Bricks 4 Kidz ตั้งแต่ปี 2017 โดยมีเพื่อนแนะนำมา ด้วยความที่ลูกเป็นเด็กผู้ชาย ชอบหุ่นยนต์ พอเห็นว่าเป็นการต่อเลโก้เลยรู้สึกว่าน่าสนใจ เราก็ได้ไปหาข้อมูลต่อว่าอยู่ที่ไหน หลักสูตรเป็นอย่างไร แล้วก็เช็กว่าวัย 3 ขวบของลูกพร้อมจะเรียนหรือยัง ก็ได้เลือกสาขาใกล้บ้านแล้วเข้าไปทดลองเรียน โดยน้องเริ่มเรียนในหลักสูตร Junior Inventor
สิ่งที่ต้องชื่นชมคือช่วงแรกที่ส่งลูกไปเรียน ตัวเองไม่รู้ข้อมูลอะไรมากมายนัก เรียน Junior Inventor ก็ไม่แน่ใจว่าจะเป็นอย่างไร จะช่วยเรื่องภาษาอังกฤษได้จริงไหม ลุ้นว่าลูกจะฟังครูรู้เรื่องหรือเปล่า สุดท้ายทั้งหลักสูตรและคุณครูทำให้ลูกเราแฮปปี้ ณ วันแรกอาจจะยังไม่ส่งผล แต่หลังจากเรียนมา 3 ปีครึ่ง เขามีการคิดนอกกรอบ คิดเป็นลำดับขั้นตอน มีความเป็นผู้นำ อีกอย่างที่สำคัญคือภาษาอังกฤษ แม้จะไม่ได้เรียนในหลักสูตร English Program ก็สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี รู้สึกว่าคุ้มค่าที่ส่งลูกไปเรียน
Bricks 4Kidz
สำหรับฟีดแบกจากตัวน้อง เขาชอบมาก สามารถไปเรียนได้ทุกสัปดาห์ ไม่เคยงอแงที่จะไป คลาสอื่นอาจจะขึ้นอยู่กับอารมณ์ในวันนั้นบ้าง แต่ถ้าเป็นที่นี่ พอคิดถึงเลโก้กับทีชเชอร์ ก็ไปคว้าอุปกรณ์ไปเลย แสดงถึงความแฮปปี้ คิดว่าจะให้เขาเรียนต่อไปเรื่อย ๆ กะว่าจะให้เรียน Coding แต่ก็ต้องให้คุณครูช่วยประเมินให้ด้วยว่าพร้อมหรือยัง ถ้าได้เมื่อไรก็จะให้เรียนทันที”
คุณแม่อุ้ม-อรพรรณ ลิ้มตรีรัตนา – น้องคินคิน ด.ช.รพีพงศ์ สุขกาย นักเรียนชั้นอนุบาล 2 Singapore International School
Bricks 4Kidz
“รู้จัก Bricks 4 Kidz มาจากเพื่อนที่เขามีลูกที่โตกว่าแล้วได้พาลูกไปเรียน ด้วยความที่เขามีลูกชายและเราก็มีลูกชายเหมือนกัน และลูกก็ชอบต่อเลโก้ด้วย ก็เลยเริ่มหาข้อมูล จนได้ส่งลูกให้ไปลองเรียนดู
ตอนนี้น้องอายุ 4 ขวบครึ่ง ส่วนตอนที่ไปเริ่มเรียนคือประมาณ 3 ปีที่แล้ว ตอนแรกที่ไปเรียนจะเป็นคลาสสำหรับเด็กเล็ก เป็นเลโก้ตัวใหญ่ที่เรียกดูโปล เขาก็ชอบ ด้วยความที่ชอบต่อเลโก้อยู่แล้ว ทีชเชอร์มีจิตวิทยาดี ชวนเด็กให้เรียนอย่างสนุกสนานได้ เขาจะถามก่อนว่าลูกเราชอบอะไร เช่นช่วงนั้นน้องกำลังชอบรถ ก็จะสอนตัวอักษร B ด้วยคำว่า Bulldozer ที่แปลว่ารถตักดิน เรารู้สึกดีที่บทเรียนสามารถยืดหยุ่น ปรับเปลี่ยนได้ ดึงความชอบของเด็กออกมาได้ ถ้าเลือกเป็น B Butterfly น้องอาจจะไม่ชอบ แต่พอสิ่งที่ตรงกับความสนใจเลยสนุก
มีช่วงหนึ่งน้องหยุดเรียนไปเพราะเริ่มเข้าโรงเรียน แต่พอจัดการเวลาได้ลงตัวก็ได้กลับมาเรียนอีกครั้งหนึ่ง ดีที่ทีชเชอร์ประเมินเด็ก เราหายไปหลายเดือนเหมือนกัน พอกลับมา เขารู้สึกว่าลูกเราดูโตขึ้น มีทักษะมากขึ้น เลยชวนให้ไปลองเรียนคลาสถัดไปคือ Advanced Inventor ที่มีความยากขึ้น ซึ่งแม่ชอบมาก เพราะถ้าน้องยังต้องเรียนคลาสเดิมก็อาจจะรู้สึกเบื่อ แต่พอมาเรียนคลาสใหม่ก็แฮปปี้ เพราะมีการเพิ่มเติมกลไก และมีมอเตอร์ที่ทำให้เลโก้เคลื่อนไหว ส่วนตัวชอบมากที่การจัดหลักสูตรยืดหยุ่นได้ตามพัฒนาการของเด็ก
Bricks 4Kidz
พัฒนาการที่สังเกตเห็นได้อย่างแรกคือมีสมาธิมากขึ้น อย่างการต่อเลโก้ที่น้องขยับคลาสขึ้นมา จะได้กล่องที่คล้าย ๆ กล่องเก็บเครื่องมือของผู้ใหญ่ ทีชเชอร์จะบอกเขาว่าให้หยิบเลโก้ขึ้นมา เช่น แถวที่สอง ช่องที่สาม ซึ่งก็ทำให้เด็กเกิดการนับ ซึ่งตอนนี้เขาสามารถมองแล้วหยิบขึ้นมาได้เลย นอกจากจะต่อเลโก้ได้แล้ว ยังทำให้เขามีทักษะในการนับเลข การมอง และการมีสมาธิด้วย
ส่วนการนำมาต่อยอดที่บ้าน สมมุติว่าเขาเรียนอะไรมา เมื่อถึงบ้านก็จะพยายามนำเลโก้ที่มีอยู่ที่บ้านมาต่อ ซึ่งอาจจะไม่ได้ออกมาตามแบบเป๊ะ ครั้งหนึ่งน้องเรียนเรื่อง Power Saw หรือเลื่อยไฟฟ้า ทีชเชอร์ก็ให้ต่อเลโก้เป็นต้นไม้ และต่อเลื่อยเพื่อนำมาตัดต้นไม้ ก็ทำให้เขารู้จักเลื่อยไฟฟ้าเป็นครั้งแรก มีความตื่นเต้น เพราะเขาจะเคยเห็นแต่เลื่อยในนิทาน แต่ก็ได้มารู้จักเลื่อยไฟฟ้าจากการต่อเลโก้ ทำให้เรามีเรื่องราวมาคุยกันต่อได้ตลอด”
ข้อมูลเพิ่มเติมของ Bricks 4 Kidz
สาขา :
– เซ็นทรัลลาดพร้าว ชั้น10 โทร. 0-2937-1746, 090-991-4922
– เดอะวอล์ค เกษตรนวมินทร์ ชั้น G โทร. 097-131-1306
– เควิลเลจ พระราม 4 ชั้น 2 โทร. 0-2665-6447, 096-394-6353
– เดอะคริสตัล เอสบี ราชพฤกษ์ นนทบุรี ชั้น 3 โทร. 0-2102-3520, 095-519-8961
– พาราไดซ์ พาร์ค ชั้น 3 โทร. 0-2047-0138, 086-394-1462
– เจพาร์ค ศรีราชา ชลบุรี ชั้น 2 โทร. 096-830-3993
– เซ็นทรัลเฟสติวัล หาดใหญ่ ชั้น 3 โทร. 074-803710, 061-019-5956
หลักสูตรที่เปิดสอน :
– Parent and Child Programs (อายุ 1-3 ปี)
– Junior Inventor (อายุ 3-4 ปี)
– Advanced Inventor (อายุ 4 ปีขึ้นไป)
– Junior Robotics (อายุ 5 ปีขึ้นไป)
– Movie Making (อายุ 5 ปีขึ้นไป)
– Advanced Robotics (อายุ 9 ปีขึ้นไป)
– Comics Creator (อายุ 5 ปีขึ้นไป)
– Movie Making (อายุ 5 ปีขึ้นไป)
Coding (อายุ 5 ปีขึ้นไป)
ค่าใช้จ่าย : เริ่มต้น 7,200 บาท/คอร์ส *ทดลองเรียนครั้งแรกได้ฟรี
พิเศษ! สำหรับผู้ปกครองที่แจ้งกับสถาบันว่าอ่านบทความจาก The Asianparent Thailand รับส่วนลด 20% จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2563
เว็บไซต์ : www.bricks4kidz.co.th
facebook : B4KThailand
The Asianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
3 คุณแม่เลือกหลักสูตรเพื่อพัฒนาสมองของลูกผ่านการเรียนและเล่นที่ ชิจิดะ (School Hit)
เบื้องหลังความสำเร็จในรอบ 12 ปีของ ชิจิดะ ประเทศไทย และก้าวใหม่กับการสร้างแฟรนไชส์สู่ต่างจังหวัด (School Hit)
ลูก 1 ขวบกินอะไรดี? แนะนำ อาหารเด็ก 1 ขวบ เสริมสร้างสมองเน้นพัฒนาการ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!