การมี เลือดออกช่องคลอดตั้งครรภ์ หรือเลือดออกตอนท้องระหว่างที่ตั้งครรภ์นั้น เป็นอาการที่คุณแม่หลายคนจะต้องใส่ใจ และรู้เท่าทันกับอาการดังกล่าว เพราะอาจจะเชื่อมโยงสู่ภาวะอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับครรภ์ได้ บทความนี้จะพาไปดูสาเหตุของอาการเลือดออกตอนท้อง และเช็กอาการที่คุณแม่ควรจะรีบไปพบแพทย์โดยทันที
เลือดออกช่องคลอดตั้งครรภ์ เลือดออกตอนท้อง พบได้เมื่อใด
การมีเลือดออกในตอนตั้งครรภ์ หรือมีเลือดออกทางช่องคลอดในขณะท้อง โดยมากจะพบด้วยกัน 2 ช่วง คือช่วงครึ่งแรกของการตั้งครรภ์ โดยอายุครรภ์ไม่เกิน 20 สัปดาห์ และความเสี่ยงที่จะเกิดอีกครั้งคือช่วงครึ่งหลัง ระยะใกล้คลอด แม้ว่าจะไม่ได้เป็นอาการที่เกิดขึ้นเป็นปกติ แต่ไม่ใช่ทุกเคสที่จะมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแท้งขึ้นได้ หากแต่อาการเลือดออกทางช่องคลอดในขณะตั้งครรภ์นั้น จะได้ขึ้นจากสาเหตุใดได้บ้าง และมีความเสี่ยงในเรื่องใด
สาเหตุจากการเลือดออกขณะตั้งครรภ์ ในช่วงไม่เกิน 20 สัปดาห์
โดย Alyssa Stephenson-Famy แพทย์หญิงจาก มหาวิทยาลัย Washington, Seattle บอกว่าอาการเลือดไหลบาง ทีก็เป็นเรื่องปกติ และการมีเลือดออก ก็อาจบอกได้ว่าเรากำลังมีปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น แท้ง การตั้งครรภ์นอกมดลูก หรือ รกเกาะต่ำ เป็นต้น
การมีเลือดออกทางช่องคลอด สามารถพบได้ในช่วงขณะที่ครรภ์มีอายุน้อยกว่า 20 สัปดาห์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณเลือดที่ไหลออกมาด้วยเช่นกัน หากมีเลือดออกมาเป็นจำนวนมาก ภาวะแท้งก็มีสูงตามมาด้วย หากพบว่ามีลักษณะดังกล่าว ควรจะรีบไปพบแพทย์โดยทันที
แต่ถ้าหากว่ามีเลือดออกมาทางช่องคลอด ในลักษณะกะปริดกะปรอย หรือไหลออกมาเล็กน้อย ในช่วงเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ ภาวะเลือดออกอาจจะมาจากตำแหน่งฝังตัวของตัวอ่อนที่เยื่อบุโพรงมดลูก หรือที่เราเรียกว่า เลือดล้างหน้าเด็ก (Placental sign or Hartman’sign)
เลือดล้างหน้าเด็ก อาการนี้มักจะเกิดขึ้นหลังจากการปฏิสนธิแล้วประมาณ 3 สัปดาห์นับจากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย คุณแม่บางคนอาจเข้าใจผิดว่าเป็นอาการแท้ง แต่อาการลักษณะนี้ อาจส่งผลให้เกิดความพิการของทารกแต่กำเนิด หรือความผิดปกติของโครโมโซมของทารกในครรภ์ได้เช่นกัน ดังนั้น คุณแม่ควรจะบอกอาการดังกล่าวกับคุณหมอที่ฝากครรภ์ ถึงอาการดังกล่าวโดยละเอียด
คือการตั้งครรภ์ที่ไม่มีตัวอ่อน หรือที่เรียกกันว่าภาวะไข่ฝ่อ หรือภาวะท้องลม (Blighted Ovum) เป็นการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติ ทำให้การตั้งครรภ์ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้จนถึงครบกำหนดคลอด จนเป็นเหตุให้เกิดภาวะแท้งเองตามธรรมชาติ ซึ่งจะสามารถตรวจสอบได้ด้วยการอัลตราซาวนด์ ซึ่งตัวคุณแม่อาจจะเสี่ยงกับภาวะแทรกซ้อนจากอาการตกเลือดจากการท้องลมนี้ได้ด้วยเช่นกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : ท้องลม คืออะไร ตรวจเจอได้ไหม จะเป็นอันตรายหรือเปล่า?
หากคุณแม่เกิดการท้องนอกมดลูก ก็จะมีอาการปวดบริเวณท้องน้อยอย่างมาก อาจถึงขั้นปวดร้าวขึ้นไปถึงบริเวณไหล่ และหลัง เพราะเลือดที่ไหลออกมา จะไปกดที่ใต้กะบังลม ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะความดันต่ำ หัวใจเต้นเร็ว จนถึงขั้นช็อกได้ หากมีอาการดังกล่าว ควรจะรีบพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
ในช่วงไตรมาสที่สอง และ สาม ปากมดลูกจะเกิดการขยายตัว เพราะในบริเวณนั้นจะมีเลือด ไปหล่อเลี้ยงมาก หากมีเพศสัมพันธ์รุนแรงเกิน ไปอาจทำให้เลือดออกมาได้เช่นกัน
ผู้หญิงบางคน อาจมีเลือดออก จากการติดเชื้อ หรือเป็นโรคทางเพศสัมพันธ์ ในขณะที่ตั้งครรภ์ เช่น โรคหนองใน ในกรณีนี้ให้ไปพบแพทย์โดยด่วน
การตรวจภายใน ก็อาจจะทำให้มีเลือดออกได้เช่นกัน ผลมาจากอุปกรณ์ที่ใช้ในการตรวจ
เป็นอาการเลือดออกในบริเวณรก ควรพบแพทย์โดยด่วน คนที่มีอาการตกเลือดจะทำให้เกิดความเสี่ยงหลายอย่างเช่น การคลอดก่อนกำหนด
บทความที่เกี่ยวข้อง : อาการตกเลือด แม่ท้องถ้ามีอาการแบบนี้ รีบไปหาหมอก่อนจะสาย อย่าชะล่าใจ
สาเหตุเลือดออกทางช่องคลอด ช่วงอายุครรภ์เกิน 20 สัปดาห์
ในสตรีตั้งครรภ์ปกติรกจะเกาะอยู่บริเวณส่วนบนของมดลูก หากรกมาเกาะบริเวณส่วนล่างของมดลูก และหรือคลุมมาถึงด้านในของปากมดลูกเรียกว่า ภาวะรกเกาะต่ำ
ภาวะที่มีการลอกตัวของรกจากตำแหน่งที่เกาะอยู่กับผนังมดลูก ทำให้มีเลือดออก และมีก้อนเลือดใต้รก ซึ่งขัดขวางการนำสารอาหารและออกซิเจนจากแม่มาให้ลูก ส่งผลทำให้เกิดการปวดท้อง เจ็บท้องคลอดก่อนกำหนด หรือรุนแรงจนทารกเสียชีวิตในครรภ์จากการขาดออกซิเจนได้
-
การฉีกขาดของหลอดเลือดที่เยื่อหุ้มรกพบน้อย
จากข้อมูลข้างต้น จะทำให้ทราบว่าการที่คุณแม่เลือดออกไม่ใช่เรื่องปกติ ซึ่งสามารถเป็นปมปัญหาสุขภาพได้หลากหลาย และในบางครั้งมีอันตรายส่งผลถึงความปลอดภัยของทารกในครรภ์ ดังนั้น เมื่อใดก็ตามที่มีเลือดออกจากช่องคลอด หรือมีความผิดปกติเกิดขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย คุณแม่ควรรีบพบแพทย์ทันที ซึ่งเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
บทความที่เกี่ยวข้อง : วิธีปฐมพยาบาลคนท้องตกเลือด แม่ท้องตกเลือด พ่อควรทำยังไง ก่อนส่ง รพ.
จะรู้ได้อย่างไรว่าอันตราย เลือดออกแบบไหนอันตราย
จิ๊มิเลือดออกนั้น ไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ก็ไม่ปกติเช่นกัน วิธีดูว่าอันตรายมากน้อยแค่ไหน ขั้นแรกให้ดูว่ามีเลือดออกนานแค่ไหน เป็นสีอะไร และ ตั้งครรภ์กี่สัปดาห์แล้ว หากมีเลือดออกอย่างรุนแรง ปวดท้องมาก มีไข้ และเลือดเป็นสีแดงสด ให้คุณไปพบแพทย์โดยด่วน
อาการเลือดออกระหว่างตั้งครรภ์นั้นมีสาเหตุซ่อนอยู่มากมายหลายอย่าง การดูแลรักษาแต่ละอย่างก็แตกต่างกันออกไป หากคุณแม่มีเลือดออกระหว่างการตั้งครรภ์ไม่ว่าช่วงไหน ขอให้รีบไปโรงพยาบาลทันที เพื่อได้รับการตรวจวินิจฉัยและหาสาเหตุที่แท้จริง พร้อมได้รับการรักษาอย่างถูกวิธี เพื่อความปลอดภัยทั้งคุณแม่และคุณลูก
อ่านประสบการณ์จริงของคุณแม่ที่เคยมีเลือดสีน้ำตาลเปื้อนกางเกงใน
เลือดสีน้ำตาลเปื้อนกางเกงใน แบบนี้ปกติไหมคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
คนท้องเลือดกำเดาไหล อันตรายไหม อาการนี้บ่งบอกถึงอะไรได้บ้าง
100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 41 การทานยาบำรุงเลือด สำหรับแม่ท้อง
คนท้องมีเซ็กส์ได้ถึงกี่เดือน คนท้องเสร็จได้ไหม มีเพศสัมพันธ์ตอนท้อง เลือดออก
ที่มา : parents
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!