ในปัจจุบัน มลภาวะทางอากาศก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพมากมาย โดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจที่ส่งผลต่อสุขภาพและปอดของเราโดยตรง ยิ่งช่วงนี้ มีฝุ่น PM 2.5 ทำให้หลีกเลี่ยงได้ยากขึ้น หากคุณแม่ ลูกน้อย และคนในครอบครัวสูดดมควันและฝุ่นละอองทุกวัน จะทำให้ร่างกายอ่อนแอลงและมีผลเสียในระยะยาวได้ เครื่องฟอกอากาศ จึงเป็นตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้ตัวคุณเองและคนที่คุณรักห่างไกลจากโรคร้ายมากยิ่งขึ้น
สำหรับใครที่ยังไม่รู้ว่าควรเลือกซื้อ เครื่องฟอกอากาศ รุ่นไหนดีบ้าง? วันนี้เราจะมาแนะนำ 5 เครื่องฟอกอากาศน่าซื้อ แต่จะมียี่ห้อไหนโดนใจบ้าง? ตามมาดูเลย
คุณสมบัติของ 5 เครื่องฟอกอากาศ ที่คุณต้องมีที่บ้าน
คุณสมบัติของเครื่องฟอกอากาศน่าซื้อ |
ยี่ห้อที่เราแนะนำ |
เครื่องฟอกอาศที่กรองฝุ่นได้ดีสุด | Germ Guardian True HEPA Filter Air Purifier |
เครื่องฟอกอากาศสำหรับคนแพ้ขนสัตว์ | LEVOIT Air Purifier for Home Allergies and Pets Hair |
เครื่องฟอกอากาศพร้อมกลิ่นหอมจากน้ำหอม | PARTU BS-03 Air Purifier |
เครื่องฟอกอากาศราคาประหยัด | Xiaomi Mi Air Purifier 3H |
เครื่องอเนกประสงค์สำหรับบ้าน | Philips AC2887 /30 Air Cleaner |
เราควรใช้เครื่องฟอกอากาศในส่วนไหนของบ้าน
นอนหลับสบายใจ ด้วยเครื่องฟอกอากาศในห้องนอน
เพราะการพักผ่อนที่ดีที่สุด คือการนอนหลับอย่างเต็มที่ เตียงนอนนุ่ม ๆ และอากาศบริสุทธิ์ จึงเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก สำหรับคนที่ต้องการพักผ่อนอย่างเต็มที่ เราจึงควรมี เครื่องฟอกอากาศ ในห้องนอน เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้คุณแม่และคนในครอบครัวสูดดมอากาศที่ไม่สะอาด หรือสูดฝุ่นละอองเข้าไป ช่วยให้คุณนอนหลับสบายตลอดทั้งคืน
เครื่องฟอกอากาศในห้องนั่งเล่น มีไว้อุ่นใจทั้งครอบครัว
นอกจากห้องนอนแล้ว คุณควรมี เครื่องฟอกอากาศ ติดตั้งในห้องนั่งเล่นด้วย เพราะเป็นสถานที่ที่เราใช้เวลามากที่สุด รองจากห้องนอน อีกทั้งหลายคนในครอบครัวใช้พื้นที่เดียวกัน นั่งเล่นพักผ่อนทั้งวัน หากเราดูดฝุ่นไม่หมด อาจทำให้ฝุ่นลอยฟุ้ง กระจายในอากาศ ทำให้คนที่เรารักเสี่ยงต่อการเป็นภูมิแพ้ได้ เครื่องฟอกอากาศ จึงสำคัญสำหรับห้องนั่งเล่นไม่แพ้กัน
เทคนิคการเลือกเครื่องฟอกอากาศสำหรับใช้ในบ้าน
เครื่องฟอกอากาศมีหลายประเภทให้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบกลม ราคาแพง หรือรุ่นประหยัด แต่ถ้าเราต้องการเลือกเครื่องฟอกอากาศสำหรับใช้ในบ้าน โดยเฉพาะติดตั้งในห้องสำหรับเด็ก จะต้องพิถีพิถันและใส่ใจการเลือกเป็นพิเศษ เพื่อให้อากาศในห้องนั้นบริสุทธิ์ ไร้ฝุ่น และปลอดภัยในทุก ๆ วัน
- เลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีตัวกรอง – หากจะต้องซื้อเครื่องฟอกอากาศ ให้เลือกรุ่นที่มีเทคโนโลยีหรือตัวกรองฝุ่น เพื่อขจัดสิ่งสกปรกและดูดไรฝุ่นภายในห้อง
- มองหาเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับขนาดห้อง – เลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพในการทำงานครอบคลุมพื้นที่ โดยวัดจากขนาดพื้นที่ภายในห้องของคุณที่ต้องการติดตั้งใช้งาน
- มีเสียงเบา – เสียงก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สามารถรบกวนการนอนหลับพักผ่อนของคุณได้ เลือกเครื่องฟอกอากาศที่สามารถปรับโหมดเสียงเบา จะช่วยให้คุณนอนหลับได้อย่างเต็มที่
- เลือกเครื่องฟอกอาศที่มีขนาดเหมาะพอดี – เครื่องฟอกอากาศมีหลากหลายขนาดให้เราได้เลือกซื้อ ดังนั้น เราจึงควรเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดพอดีกับบ้านของเรามากที่สุด
แนะนำ 5 เครื่องฟอกอากาศน่าใช้ ที่คุณต้องมีที่บ้าน
1. เครื่องฟอกอากาศที่กรองฝุ่นได้ดีสุด: Germ Guardian True HEPA Filter
หากคุณกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศที่่ช่วยกำจัดฝุ่นละององและขจัดเชื้อโรคได้อย่างสะอาดหมดจด เราขอแนะนำเครื่องฟอกอากาศ Germ Guardian True HEPA Filter Air Purifier เป็นเครื่องฟอกอากาศที่มีเทคโนโลยพิเศษ มาพร้อมกับ UV Light Sanitizer ช่วยขจัดเชื้อโรคในอากาศให้ตายสนิท ทำให้หมดปัญหาเรื่องเชื้อโรคและแบคทีเรีย นอกจากนี้ ยังมีระบบกรองฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ ควัน และขนสัตว์ ลดการเกิดโรคภูมิแพ้ได้อยู่หมัด เรียกว่าบ้านไหนที่เลี้ยงน้องหมา น้องแมว ต้องมีเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ติดบ้านแล้ว
คุณสมบัติเด่นของรุ่นนี้:
- ฆ่าเชื้อโรคด้วยแสงยูวีซี (UV Light Sanitizer) พร้อมฆ่าเชื้อไวรัสในอากาศ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคไข้หวัดใหญ่ ไรโนไวรัส
- มีแผ่นกรองถ่านชาโคล ช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น ควันจากการทำอาหาร กลิ่นเหม็นอับชื้น และอื่น ๆ
- ตั้งโหมดความเร็วได้ถึง 3 ระดับ และมีฟังก์ชั่นเสริมจาก UV Light
- เครื่องฟอกอากาศ 4 in 1 เหมาะสำหรับใช้ในบ้าน ช่วยฆ่าเชื้อโรค ลดการสะสมของแบคทีเรียและเชื้อรา รวมถึงกำจัดสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้อื่นๆ ได้มากถึง 99.97%
2. เครื่องฟอกอากาศสำหรับคนแพ้ขนสัตว์: LEVOIT Air Purifier for Home Allergies and Pets Hair
เอาใจคนรักสัตว์กันบ้าง ใครเลี้ยงน้องหมา น้องแมวที่บ้าน ต้องถูกใจกับเครื่องฟอกอากาศรุ่น LEVOIT Air Purifier for Home Allergies and Pets Hair ออกแบบมาเพื่อกำจัดฝุ่นละอองและดักจับขนสัตว์ที่ลอยอยู่ในอากาศ ทำให้โอกาสการเกิดโรคภูมิแพ้น้อยลง มาพร้อมกับแผ่นกรอง H13 True HEPA ทำงานควบคู่กับตัวกรองคาร์บอน ทำให้สามารถดักจับฝุ่นที่มีอนุภาคเล็กขนาด 0.3 ไมครอนได้ ลดการเกิดฝุ่นได้มากถึง 99.97% อีกทั้งเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ ยังมีเสียงที่เบามาก ลดระดับเสียงได้มากสุดถึง 94 เดซิเบล ทำให้คุณนอนหลับได้อย่างสบายใจ ไม่ต้องกลัวเสียงจะรบกวนการนอนหลับเลย
คุณสมบัติเด่นของรุ่นนี้:
- มีแผ่นกรอง H13 True HEPA พร้อมตัวกรองคาร์บอน ช่วยดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กขนาด 0.3 ไมครอน อีกทั้งลดการเกิดโรคภูมิแพ้ที่เกิดจากฝุ่นได้มากถึง 99.7%
- มีโหมดกลางคืน ทำให้คุณสามารถปรับระดับเสียง และลดได้มากถึง 24 เดซิเบล
- เปลี่ยนอากาศบริสุทธิ์ภายใน 12 นาที ด้วยเครื่องฟอกอากาศ core 300 hepa
- มีเทคโนโลยี vortexair และรับอากาศเข้า 360° core 300 รีเฟรชอากาศ 5x
3. เครื่องฟอกอากาศพร้อมกลิ่นหอมจากน้ำหอม: PARTU BS-03 Air Purifier
เครื่องฟอกอากาศดีไซน์ทันสมัยนี้ มีชื่อว่า PARTU BS-03 Air Purifier ด้วยดีไซน์ที่ออกแบบอย่างโดดเด่น มีสีดำ ทำให้กลมกลืนไปกับผนังของบ้านหรือเฟอร์นิเจอร์ที่มีสีพื้นเป็นสีขาว ดำ และสีอื่น ๆ ได้ นอกจากจะช่วยดักจับฝุ่นและกรองอากาศให้สะอาดสดชื่นแล้ว ยังโดดเด่นด้วยกลิ่นหอมจากฟองน้ำหอมภายใน ทำให้บ้านของคุณ อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมจากน้ำหอมทั้งวัน ทั้งหอมและสะอาดไปทั้งบ้านเลย
คุณสมบัติเด่นของรุ่นนี้:
- ดีไซน์ทันสมัย มีรูปทรงสีดำเพียวบาง เหมาะกับการตกแต่งบ้านได้หลากหลายแนว
- ปรับได้ 3 ระดับ ใช้งานง่าย กรองอากาศได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
- สามารถล็อคการใช้งาน ช่วยให้ประหยัดพลังงานและประหยัดไฟมากขึ้น
4. เครื่องฟอกอากาศราคาประหยัด: Xiaomi Mi Air Purifier 3H
ใครกำลังมองหาเครื่องฟอกอากาศประสิทธิภาพสูงในราคาย่อมเยา ห้ามพลาดกับเครื่องฟอกอากาศรุ่น Xiaomi Mi Air Purifier 3H ให้คุณได้สัมผัสอากาศบริสุทธิ์ ช่วยกำจัดฝุ่นละออง PM 2.5 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และฟอกอากาศได้มากถึง 380 ลูกบาศ์เมตร/ชั่วโมง (CADR) ทำให้สามารถกรองฝุ่นที่มีอนุภาคขนาดเล็กมากถึง 99.97% นอกจากนี้ ยังมีตัวกรองฝุ่น 3 ชิ้น ทำให้ปกป้องได้มากกว่า จุดเด่นอีกอย่างของรุ่นนี้ คือการใช้เทคโนโลยี AI เข้ามาช่วย ทำให้คุณสามารถปรับระดับเสียง และควบคุมการทำงานทุกที่ ทุกเวลา ผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือ Mi Home สะดวกสบาย เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่มาก ๆ ที่สำคัญราคายังน่าคบหาด้วยราคาเริ่มต้นเพียงสองพันบาท
คุณสมบัติเด่นของรุ่นนี้:
- ใช้ AI รองรับการใช้งานผ่าน Mi Home App ควยคุมการทำงานและปรับระดับเสียงบนมือถือได้ตลอดเวลา
- ด้วยหน้าจอแสดงผล OLED Touch Display ทำให้ควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัสได้ พร้อมแสดงค่าอุณหภูมิ, ความชื้น, ฝุ่น PM 2.5 และสถานะการใช้งานง่าย
- มีแผ่นกรอง True HEPA พร้อมตัวกรอง 3 ชั้น ทำให้สามารถกรองฝุ่นละอองที่มีอนุภาคขนาดเล็ก 0.3 ไมครอน ได้มากถึง 99.3%
- ลดระดับเสียงได้มากถึง 32 เดซิเบล ทำให้ไมรบกวนการนอนหลับ
5. เครื่องอเนกประสงค์สำหรับบ้าน: Philips AC2887 /30 Air Cleaner
มาถึงเครื่องฟอกอากาศอันดับสุดท้าย ซึ่งถือว่าเป็นเครื่องฟอกอากาศอเนกประสงค์ที่ดีที่สุด เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้านโดยเฉพาะ ช่วยให้ทุกพื้นที่ภายในบ้านมีอากาศบริสุทธิ์ ปลอดฝุ่นและเชื้อโรค มาพร้อมกับระบบฟอกอากาศอัตโนมัติ 3 แบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นโหมดทั่วไป โหมดลดสารก่อภูมิแพ้ และโหมดกำจัดแบคทีเรียไวัรัส ให้คุณเลือกใช้ได้ตรงตามความต้องการมากที่สุด สามารถกำจัดเชื้อโรคและไวรัสที่ลอยอยู่ในอากาศมากถึง 99.9% นอกจากนี้ ยังมีโหมด Night Sleep และระบบควบคุมแสงอัจฉริยะ ออกแบบมาพิเศษสำหรับกลางคืน ช่วยให้คุณนอนหลับสบาย ไม่มีเสียงหรือแสงจากหน้าจอมากวนใจคุณ ด้วยฟังก์ชั่นหลากหลาย ทำให้เหมาะกับการใช้งานทุกพื้นที่ภายในบ้าน
คุณสมบัติเด่นของรุ่นนี้:
- มีตัวกรอง AeraSense พร้อมตัวกรองคาร์บอน ช่วยดักจับไวรัสได้มากถึง 99.9%
- มีโหมด Night Sleep และะระบบควบคุมแสงอัจฉริยะ สามารถปรับแสงและเสียงสำหรับกลางคืนได้
- มีโหมดฟอกอากาศ ปรับได้ถึง 3 แบบ โหมดทั่วไป โหมดลดสารก่อภูมิแพ้ และโหมดกำจัดแบคทีเรียไวรัส
- ใช้งานง่าย เหมาะกับทุกพื้นที่ภายในบ้าน (ขนาด 24-41 ตรม.)
จบไปแล้วกับการรีวิว 5 เครื่องฟอกอากาศที่เราแนะนำกันในวันนี้ หวังว่าผู้อ่านจะได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์ สามารถเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะกับการใช้งานมากที่สุด เพื่อให้ทุกพื้นที่ภายในบ้านของคุณปลอดภัย ไร้ฝุ่น ปลอดเชื้อโรค ช่วยให้ทุกพื้นที่ภายในบ้านสะอาดมากขึ้น นอนหลับได้อย่างสบายใจในทุกวัน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
แอร์ฟอกอากาศ สำคัญอย่างไร ทำไมต้องมีไว้ติดบ้าน