เด็ก ๆ วัยหัดนั่ง เริ่มเรียนรู้ที่จะจับสิ่งของด้วยตัวเองแล้ว ซึ่งเด็กบางคน ก็อาจจะเริ่มวาดรูปและระบายสีด้วย คุณแม่อาจจะเคยได้ยินมาว่า สี เป็นสิ่งที่ช่วยพัฒนาสมองของเด็ก ๆ ได้ดี คุณแม่รู้หรือไม่ว่า สีรุ้ง เป็นสีที่มีผลต่อสมองของเด็กมาก ๆ ส่วนจะมีประโยชน์ยังไงด้านใดบ้างนั้น เดี๋ยวเราจะมาเล่าให้ฟังในบทความนี้ค่ะ
สีรุ้ง คืออะไร สีรุ้ง ระบายสีรุ้ง7สีมีสีอะไรบ้าง
ตั้งแต่เด็กจนโต เรามักจะเห็นรุ้งกินน้ำหลังฝนตกบ่อย ๆ แต่บางทีเราก็มองไม่ชัด ว่ารุ้งมีสีอะไรบ้าง สมัยที่เรียนหนังสือ ครูก็สอนว่ารุ้งกินน้ำมี 7 สี ซึ่งในทางทฤษฎีนั้น สีรุ้ง จะมีทั้งหมด 7 สี ได้แก่ แดง แสด เหลือง เขียว น้ำเงิน คราม ม่วง และนอกจากสีรุ้งจะเป็นสีที่หลากหลายแล้ว ก็ยังถูกนำไปใช้เป็นสีประจำตัวของชาว LGBT อีกด้วย เพราะสีรุ้งนับเป็นสีที่มาจากธรรมชาติ รวมทั้งเป็นสีที่สวยงาม และมีความหลากหลายเหมือนกับมนุษย์เรา ในขั้นต่อไป เราจะมาดูกันว่า สีรุ้ง มีผลต่อสมองเด็ก ๆ ยังไงบ้าง
สีมีผลต่อสมองของเด็กทารกยังไง
โดยปกติ เมื่อเด็กมีอายุประมาณ 18 เดือน เด็ก ๆ มักจะเริ่มแยกแยะสีต่าง ๆ ได้แล้ว และเริ่มรู้จักการเรียงสีตอนอายุ 2 ขวบ ในช่วงแรก เด็กอาจจะยังไม่รู้ ว่าสีไหน ที่เรียกว่าสีรุ้ง แต่เด็กก็สามารถซึมซับสีเหล่านั้นได้ทางการมองเห็น ซึ่งการให้ลูก ๆ ทำกิจกรรมเกี่ยวกับสีตั้งแต่ยังเด็ก หรือใช้เวลาอยู่กับสีเยอะ ๆ จะช่วยให้เด็กมีพฤติกรรมและการเรียนรู้ที่ดีขึ้น เด็กบางคนขี้โมโห และมีอารมณ์รุนแรง แต่หลังจากที่ได้มองสี หรือว่าได้อยู่กับสีใดสีหนึ่งนาน ๆ ก็จะใจเย็นลงและสงบได้ แถมสีหลาย ๆ สี ก็ยังช่วยให้เด็กเรียนรู้ได้ดี และมีความคิดสร้างสรรค์อีกด้วย
บทความที่เกี่ยวข้อง : แจกฟรี !!! รูปการ์ตูนระบายสี รูประบายสีการ์ตูนน่ารัก ๆ เพื่อพัฒนาทักษะของลูกน้อย
(ภาพโดย freepik)
ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ คน จึงชอบให้ลูกระบายสีเพื่อฝึกความคิดสร้างสรรค์และฝึกกล้ามเนื้อมือ อย่างไรก็ตาม หากลูกเรายังเด็กเกินไป ยังจับสิ่งของ ระบายสี หรือยังทำกิจกรรมต่าง ๆ เองไม่ได้ ก็สามารถหาของเล่นสีต่าง ๆ มาแขวนไว้ตามเปลหรือผนังบ้านแทนได้ค่ะ
สีรุ้ง ระบายสีรุ้งกินน้ำ มีประโยชน์ยังไงกับเด็ก
เรามาลองแยกประโยชน์ของสีรุ้งแต่ละสีกันดีกว่าค่ะ ว่าแต่ละสี ดียังไงกับเด็ก ถูกนำไปใช้ประโยชน์ด้านไหนบ้าง ซึ่งการใช้ประโยชน์จากสีเหล่านี้ ไม่จำเป็นต้องมาจากการวาดภาพ หรือระบายสีเท่านั้น แต่สามารถมาจากของเล่น สีผนัง หรือสิ่งของต่าง ๆ เพราะเด็กมักจะซึมซับสีเหล่านี้จากการมองเห็น
- สีแดง : มาเริ่มกันที่สีแรกเลย ว่ากันว่าสีแดงนั้น เป็นสีที่กระตุ้นสมอง และดึงดูดสายตาเด็กได้ดีกว่าสีอื่น ๆ มักถูกนำไปใช้เมื่อต้องการให้สมองของเด็กได้รับการกระตุ้นเพื่อการเรียนรู้ แต่จะไม่นำไปทาสีผนัง เนื่องจากอาจทำให้เด็กรู้สึกเครียดมากขึ้นได้
- สีแสด : บางคนก็เรียกว่าสีส้ม เป็นสีที่แสดงถึงความเป็นกันเอง ช่วยเพิ่มอยากอาหารได้ รวมทั้งยังช่วยเพิ่มความมั่นใจให้เด็กได้ จึงเหมาะสำหรับเด็กที่ชอบเก็บตัว หากลูก ๆ เราไม่ชอบเข้าสังคม ชอบอยู่แต่บ้าน แนะนำว่าให้ลองพาลูกไปอยู่ในห้องที่มีผนังสีแสด แล้วชวนเด็กคนอื่นมาเล่นกับลูก ๆ ได้นะคะ ลูกจะรู้สึกผ่อนคลาย และเล่นกับเพื่อนได้สนุกกว่าเดิมค่ะ
- สีเหลือง : สีเหลือง จะดูเป็นสีที่สบายตาขึ้นมาหน่อย เป็นสีที่ให้ความสนุกสนาน ความอบอุ่น ความสุข และทำให้กระตือรือร้น รวมทั้งยังสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย แต่บางครั้ง หากให้เด็กอยู่กับสีเหลืองมากเกินไป ก็อาจทำให้เด็กตึงเครียด แนะนำว่าให้ใช้สีน้ำเงินและสีเขียวคู่กับสีเหลือง เพื่อทำให้เด็กสงบและผ่อนคลายมากขึ้นได้ค่ะ
- สีเขียว : สีเขียว สื่อถึงสุขภาพจิต ทำให้สมองของเด็ก ๆ สงบมากขึ้น ถือเป็นสีที่ทำให้ดวงตาผ่อนคลายมากที่สุด ซึ่งสีนี้ก็เป็นสีที่มีอยู่เยอะในธรรมชาติ จึงไม่แปลกที่เราจะรู้สึกผ่อนคลายเวลาไปเที่ยวตามภูเขาหรือป่า
- สีน้ำเงิน : เป็นสีที่ให้ความรู้สึกตรงข้ามกับสีแดง เพราะเป็นสีโปร่งใส ไม่ทึบ ให้ความอบอุ่น เยือกเย็น สงบ รวมทั้งยังช่วยลดความเครียด ลดอุณหภูมิในร่างกายได้ คุณแม่อาจจะทาสีผนังเป็นสีน้ำเงิน หรือจะวางของที่มีสีน้ำเงินไว้ในห้องลูกเยอะ ๆ ก็ได้ เพื่อช่วยให้เขาหลับสบายมากยิ่งขึ้น
- สีคราม : สีคราม ช่วยในเรื่องความคิด มีส่วนช่วยให้สมองของเด็กทำงานได้ดียิ่งขึ้น มักจะถูกนำไปใช้ในงานศิลปะซะส่วนใหญ่
- สีม่วง : สีม่วง ถือเป็นสีที่เกิดจากสีแดงและสีน้ำเงิน ช่วยกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ แต่ก็ทำให้รู้สึกสงบไปพร้อม ๆ กัน เหมาะกับเด็กที่สมาธิสั้น
บทความที่เกี่ยวข้อง : เด็กวาดรูป เด็กระบายสี แล้วดีอย่างไร ช่วยพัฒนาทักษะไหนได้บ้าง
(ภาพโดย rawpixel จาก freepik )
อยากให้ลูกใช้เวลาอยู่กับสีรุ้งบ่อย ๆ ต้องทำยังไง
คุณแม่สามารถให้น้อง ๆ ระบายสีรุ้งได้ เพื่อช่วยกระตุ้นสมองและเสริมพัฒนาการของเด็ก ๆ หรือจะลองซื้อของเล่นที่มีสีรุ้ง มาให้เด็ก ๆ เล่นก็ได้ ซึ่งปัจจุบัน ของเล่นสีรุ้งมีขายมากมาย และหาซื้อได้ง่ายตามเว็บไซต์ออนไลน์ นอกจากนี้ คุณแม่จะลองทาผนังบ้าน หรือผนังห้องนอนเด็ก ๆ เป็นสีต่าง ๆ ตามที่ได้แนะนำไปข้างบนด้วยก็ได้ เพื่อให้เด็กได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีสีเยอะ ๆ แต่ก็ควรเลือกสีที่เหมาะสม ไม่ฉูดฉาด และเหมาะกับนิสัยของน้อง ๆ นะคะ เพราะหากเราเลือกสีที่แสบตา หรือเข้มจนเกินไป เด็กอาจกลายเป็นคนที่อารมณ์ฉุนเฉียวและร้องไห้ง่าย
บทความที่เกี่ยวข้อง :
รวมกิจกรรม ! เสริมทักษะด้าน ศิลปะเด็ก ง่าย ๆ ลงมือทำได้ที่บ้าน
7 เหตุผลดี ๆ ที่พ่อแม่ควรวาดรูปกับลูกทุกวัน การวาดรูป ดีอย่างไร ?
แจกฟรี!!! ภาพฝึกระบายสี แบบฝึกหัดภาพวาดระบายสีเอาใจหนู ๆ โหลดเลย
ที่มา : 1 , whattoexpect , colorpsychology , honey.nine
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!