ตารางเวลานอนลูก แรกเกิดจนถึง 1 ปีแรก นอนยังไงให้มีพัฒนาการดี

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ตารางเวลานอนลูก แรกเกิดจนถึง 1 ปีแรก นอนยังไงให้มีพัฒนาการดี การนอนหลับเป็นปัจจัยสำคัญอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กทารก ในขณะที่ลูกน้อยหลับ สมองและร่างกายจะได้พักผ่อนและซ่อมแซมตัวเอง ทำให้ระบบต่างๆ ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ลูกน้อยแข็งแรง ฉลาด และมีพัฒนาการที่ดีในทุกด้าน

ความสำคัญของการนอนหลับต่อพัฒนาการของทารก

คุณแม่หลายท่านคงสงสัยว่าทำไมลูกน้อยถึงนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ ตลอดทั้งวัน และทำไมถึงดูเหมือนจะนอนไม่ยาวสักที นั่นเป็นเพราะว่าในช่วงแรกเกิด ระบบการนอนหลับของลูกน้อยยังไม่พัฒนาเต็มที่

ผลกระทบของการนอนหลับต่อพัฒนาการของทารก

  • พัฒนาการทางสมอง: การนอนหลับอย่างเพียงพอช่วยให้เซลล์ประสาทเชื่อมต่อกันได้ดีขึ้น ส่งผลให้ทารกมีพัฒนาการทางด้านความคิด ความจำ และการเรียนรู้ที่ดีขึ้น
  • พัฒนาการทางร่างกาย: ฮอร์โมนการเจริญเติบโตจะหลั่งออกมาในขณะที่นอนหลับ ทำให้ทารกมีการเจริญเติบโตทางร่างกายที่สมบูรณ์
  • พัฒนาการทางอารมณ์: การนอนหลับพักผ่อนเพียงพอจะช่วยให้ทารกมีอารมณ์ที่แจ่มใส ร่าเริง และสามารถควบคุมอารมณ์ของตัวเองได้ดีขึ้น
  • ระบบภูมิคุ้มกัน: การนอนหลับช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ทารกแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วย

ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นหากทารกนอนไม่เพียงพอ

  • สมาธิสั้น: ทารกที่นอนไม่พออาจมีปัญหาเรื่องสมาธิ ไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งใดได้นาน
  • อารมณ์แปรปรวน: ทารกอาจหงุดหงิดง่าย ร้องไห้บ่อย และมีปัญหาในการเข้าสังคม
  • การเจริญเติบโตช้า: การขาดฮอร์โมนการเจริญเติบโตอาจส่งผลให้ทารกเจริญเติบโตช้ากว่าปกติ
  • ภูมิคุ้มกันต่ำ: ทารกที่นอนไม่พอจะมีภูมิคุ้มกันต่ำ ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย

ทำไมลูกน้อยถึงนอนหลับ ๆ ตื่น ๆ

  • การนอนแบบ REM: ทารกแรกเกิดใช้เวลานอนหลับแบบ REM (Rapid Eye Movement) หรือการนอนหลับที่ลูกตาเคลื่อนไหวเร็ว มากกว่าเด็กโตค่ะ การนอนแบบ REM นี้มีความสำคัญต่อการพัฒนาสมอง แต่ก็ทำให้ลูกน้อยตื่นง่ายขึ้น
  • วงจรการนอนสั้น: วงจรการนอนของทารกแรกเกิดสั้นมาก เมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ ทำให้ลูกน้อยตื่นขึ้นมาบ่อยครั้ง
  • ความต้องการทางกายภาพ: ลูกน้อยต้องการกินนมบ่อยครั้ง และอาจตื่นขึ้นมาเพราะอึหรือปัสสาวะ
  • การปรับตัวเข้ากับโลกภายนอก: ลูกน้อยกำลังเรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้ากับโลกภายนอก การนอนหลับจึงยังไม่เป็นไปตามตารางเวลาที่แน่นอน

การเปลี่ยนแปลงของการนอนหลับเมื่ออายุมากขึ้น

  • 4 สัปดาห์: ลูกน้อยจะเริ่มนอนหลับได้ยาวนานขึ้นในแต่ละครั้ง และตื่นน้อยลง
  • 6 เดือน: ลูกน้อยจะเริ่มมีพฤติกรรมการนอนที่ชัดเจนขึ้น นอนหลับยาวนานขึ้นในตอนกลางคืน และงีบหลับช่วงสั้น ๆ ในเวลากลางวัน

เปรียบเทียบง่าย ๆ เหมือนกับการนอนหลับของลูกน้อยเป็นการเดินทางโดยรถไฟ

  • แรกเกิด: การนอนของลูกช่วงนี้จะเหมือนกับการนอนรถไฟที่หยุดบ่อย ๆ สถานีเล็ก ๆ น้อย ๆ กระจุกตัวอยู่ใกล้กัน
  • 4 สัปดาห์: การนอนของลูกช่วงนี้จะเหมือนกับรถไฟที่เริ่มวิ่งระหว่างสถานีใหญ่ ๆ ได้นานขึ้น
  • 6 เดือน: การนอนของลูกช่วงนี้จะเหมือนกับรถไฟที่วิ่งระหว่างสถานีใหญ่ ๆ ได้ทั้งคืน และมีการจอดพักระหว่างทางในช่วงกลางวัน

ตารางเวลานอนลูก ตารางการนอนหลับของทารกแต่ละช่วงวัย

ตารางการนอนหลับของทารกแต่ละช่วงวัยจะแตกต่างกันไป โดยทั่วไปแล้ว ทารกแรกเกิดจะนอนหลับประมาณ 16-18 ชั่วโมงต่อวัน แต่จะตื่นขึ้นมากินนมบ่อยครั้ง เมื่ออายุมากขึ้น ลูกน้อยจะเริ่มนอนหลับเป็นช่วงๆ ที่ยาวนานขึ้น และตื่นน้อยลง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
  • แรกเกิด – 3 เดือน: ลูกน้อยจะนอนหลับเป็นช่วง ๆ สั้น ๆ ตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน การให้นมเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้ลูกน้อยตื่นขึ้นมา
  • 4-6 เดือน: ลูกน้อยเริ่มนอนหลับเป็นช่วง ๆ ที่ยาวนานขึ้น โดยเฉพาะในช่วงกลางคืน และอาจเริ่มงีบกลางวันน้อยลง
  • 7-12 เดือน: ลูกน้อยจะนอนหลับยาวขึ้นในช่วงกลางคืน และอาจงีบกลางวันเพียงครั้งเดียวหรือสองครั้ง

ปัจจัยที่ส่งผลต่อการนอนหลับของทารก

  • ความหิว: หากลูกน้อยหิวเกินไปหรืออิ่มเกินไป ก็อาจทำให้นอนหลับยาก
  • ความเจ็บป่วย: เมื่อลูกน้อยไม่สบาย อาการปวดเมื่อยหรือไข้สูงจะทำให้นอนหลับไม่สนิท
  • สภาพแวดล้อม: เสียงดัง แสงสว่าง หรืออุณหภูมิที่ไม่เหมาะสม อาจรบกวนการนอนหลับของลูกน้อย
  • ความเครียด: ความวิตกกังวล หรือการเปลี่ยนแปลงในชีวิตประจำวัน อาจทำให้ลูกน้อยนอนไม่หลับ
  • พฤติกรรมการเลี้ยงดู: การอุ้มกล่อม การให้นมก่อนนอน หรือการสร้างกิจวัตรก่อนนอนที่สม่ำเสมอ จะช่วยให้ลูกน้อยนอนหลับได้ง่ายขึ้น

เทคนิคการฝึกให้นอนหลับเป็นเวลา

  • สร้างกิจวัตรก่อนนอนที่สม่ำเสมอ: เช่น อาบน้ำ อ่านนิทาน ปิดไฟ
  • สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการนอนหลับ: ห้องนอนที่มืด สงบ และอุณหภูมิพอเหมาะ
  • ให้นมก่อนนอน: การให้นมจะช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกอิ่มและหลับได้ง่ายขึ้น
  • อุ้มกล่อม: การอุ้มกล่อมลูกเบา ๆ จะช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกปลอดภัยและหลับได้ง่ายขึ้น
  • หลีกเลี่ยงการกระตุ้นก่อนนอน: เช่น การเล่นเกมที่ตื่นเต้น หรือการดูโทรทัศน์

ปัญหาที่พบบ่อยเกี่ยวกับการนอนหลับของทารกและวิธีแก้ไข

  • ลูกนอนหลับยาก: แก้ไขโดยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายก่อนนอน และหลีกเลี่ยงการกระตุ้นก่อนนอน
  • ลูกตื่นกลางดึกบ่อยครั้ง: แม่ต้องหมั่นตรวจสอบผ้าอ้อม และปลอบประโลมเบา ๆ และควรหลีกเลี่ยงการป้อนนมลูกหากไม่จำเป็น
  • ลูกนอนหลับไม่สนิท: แม่ต้องช่วยในการสร้างสภาพแวดล้อมในการนอนที่เงียบสงบ พร้อมทั้งปรับอุณหภูมิในห้องให้เหมาะสม
  • ลูกนอนหลับสั้นเกินไป: ต้องไม่ลืมตรวจสอบว่าลูกน้อยได้รับนมเพียงพอหรือไม่ และหากมีอาการผิดปกติอื่น ๆ ต้องรีบพาไปพบแพทย์

เมื่อไรควรปรึกษาแพทย์

หากลูกน้อยมีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับที่รุนแรง หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ เช่น หายใจขณะนอนหลับลำบาก หวาดกลัวในเวลากลางคืน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้อง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ขอขอบคุณที่มา : mahidol.ac.th, bangkokhealth.com

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :

ลูกนอนหลับยากทำยังไง? วิธีทําให้ลูกหลับง่ายตอนกลางคืน แม่จะได้นอนสักที!

14 วิธีทำให้ลูกหลับเร็ว เหมือนเสกได้ เคล็ดลับที่พ่อแม่มือใหม่ไม่รู้ไม่ได้

ความสำคัญในการนอนของเด็ก มีอะไรบ้าง ทำยังไงให้ลูกหลับสบายหายห่วง

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

บทความโดย

watcharin