เด็กที่โตมาไม่มีศาสนา วิจัยเผยมีจิตใจที่เมตตาและเข้าอกเข้าใจผู้อื่นมากกว่า
ศาสนา เป็นส่วนหนึ่งของชีวิต สังคมคนไทย มาช้านาน แต่ในขณะเดียวกัน ในยุคสมัยปัจจุบันคนจำนวนมาก โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ก็เริ่มที่จะตีตัวออกห่างจากศาสนามากขึ้น ๆ อาจเป็นเพราะความไม่ศรัธทา หรือ ความเชื่อบางอย่างที่ขัดต่อสภาพสังคมในปัจจุบัน ทำให้เกิดเทรนด์ที่พูดว่าการที่ ไม่มีศาสนาก็ใช่ว่าคน คนนั้นจะเป็นคนไม่ดี ทำให้มีแนวโน้มว่าในอนาคตจะ มีเด็กที่เติบโตมาโดยไม่มีศาสนาเพิ่มมากขึ้นอีกหลายเท่าตัว งานวิจัยของ University of Chicago เผยว่า เด็กที่โตมาไม่มีศาสนา ก็เป็นเด็กที่ดีได้เช่น ๆ กัน
เด็ก ที่โตมาไม่มีศาสนา
งานวิจัยเผยข้อมูลที่น่าสนใจ
อย่างที่กล่าวไปข้างต้น งานวิจัยของ University of Chicago บอกผลลัพธ์ว่าเด็กที่โตมาใน ครอบครัวที่ไม่มีศาสนานั้น ๆ มีจิตใจที่โอบอ้อมอารี จิตใจดี เห็นอกเห็นใจแก่ผู้อื่นมากกว่า เด็กที่โตมาในครอบครัวที่มีศาสนา
งานวิจัยถูกตีพิมพ์ใน วารสารที่เกี่ยวข้องกับชีววิทยา ที่นำกลุ่มตัวอย่างเด็ก 1,170 คน ที่มีช่วงอายุระหว่าง 5-12 ปี ในหกประเทศ ได้แก่ แคนาดา จีน จอร์แดน ตุรกี สหรัฐอเมริกา และ แอฟริกาใต้ ภายใต้หัวข้อ ที่เกี่ยวข้องกับศาสนา และ ความสัมพันธ์ระหว่าง ผู้ปกครอง และเด็กในครอบครัว
เด็กที่ โตมาไม่มีศาสนา
เด็กที่ไม่มีศาสนามักจะไม่ค่อยตัดสินคนอื่น
ผลจากงานวิจัย นั้นต่างจากสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิด เพราะเด็กที่ ไม่มีศาสนานั้นมี ความโอบอ้อมอารี เเละ พร้อมจะเข้าอกเข้าใจ และ มีจิตใจที่ดีมากกว่าเด็กที่โตมาใน ครอบครัวที่เคร่งศาสนา พวกเขามักจะไม่ตัดสิน หรือ กีดกันผู้อื่น ผลการสำรวจหลายอย่าง บ่งบอกว่าในแทบจะทุกประเทศที่มี การสุ่มกลุ่มเด็กตัวอย่าง ศาสนานั้นส่งผลเสียต่อความ โอบอ้อมอารี และ จิตใจ ของเด็กมากว่าที่ใครคิด เด็กที่โตมาโดยไม่มีศาสนา จะมีพฤติกรรมยอมแบ่งของ เล่นให้ผู้อื่น มากกว่าเด็กที่เติบโต ในครอบครัวที่เป็นคริสต์ หรือ มุสลิม และ จะส่งผลกระทบไปมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเด็กโตขึ้น และ ได้รับรู้เรื่องเกี่ยว กับศาสนามากขึ้น
เด็กที่โต มาไม่มีศาสนา
ครอบครัวที่เคร่งศาสนาจะทำโทษรุนแรงกว่าด้วย
ผลจากการวิจัย ยังกล่าวอีกว่าการทำโทษในครอบครัว ที่เคร่งศาสนานั้นรุนแรงและโหดร้ายมากกว่า พวกเขาจะถูกทำโทษ และ ตัดสินเมื่อทำพฤติกรรมอะไรแตกต่างไปจากมายาคติของสังคมที่คิดว่าเป็นเรื่องที่ดี การลงโทษยังโยงไปถึงพฤติกรรม ตอนโตของคนที่เคร่งศาสนาว่ามักจะ ตัดสินผู้อื่นผ่านสายตาการ มองจากมุมมองทางศาสนาของตน
เด็กที่โตมาไม่มี ศาสนา
แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ว่าครอบครัวที่มีศาสนาจะไม่ดีเสมอไป มีเด็กหลายคนที่มาในครอบครัวที่มีศาสนา และ มีจิตใจที่ดี เข้าใจมุมมองของผู้อื่น แต่ผลของการวิจัยนี้บ่งบอกว่าการเลี้ยงลูกโดยใช้ศาสนากำกับนั้น ไม่ใช่ตัวอย่างของการเลี้ยงลูกที่ดีที่สุด สิ่งที่พ่อ แม่ ผู้ปกครอง ในยุคปัจจุบันควรที่จะสอน และ บอกเล่าให้แก่ลูก ไม่ว่าจะเป็นลูกชายหรือลูกสาวรับรู้ก็คือ เด็กทุกคนควรมีน้ำใจแก่กันและกัน พวกเขาควรเข้าใจถึงความแตกต่าง ในโลกยุคอนาคตที่มุมต่างๆของโลกเข้าใกล้กันได้มากขึ้น พวกเขาควรรู้และเข้าใจความแตกต่างระหว่าง ภาษา รูปร่างหน้าตา สีผิว เพศ และอะไรอีกมากมายที่แต่ละคนมีไม่เหมือนกัน ปัญหาการแกล้งกันในโรงเรียนว่าไม่ควรทำ เป็นต้น
เด็กที่โตมาไม่มีศาส นา
Source : patheos
theAsianparent Thailand เชื่อว่าการศึกษาที่ดีจะช่วยเสริมสร้างรากฐานที่ดีให้กับเด็ก เป็นการเริ่มต้นสร้างสภาะแวดล้อมในการเรียนรู้ได้อย่างสมวัย และเป็นไปตามที่ คุณพ่อ คุณแม่ ต้องการการเลือกโรงเรียนให้กับลูก คือหัวใจหนึ่งของการศึกษา เพราะการเลือกโรงเรียนตั้งแต่เนอสเซอรี่ การเลือกโรงเรียนอนุบาล เป็นด่านแรกที่จะช่วยเสริมสร้าง พัฒนาการให้กับลูกได้ เช่น มีหลักสูตรที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง หลักสูตรวิชาการที่ พอดีกับการเรียนรู้ การใช้ Play Base Learning เพื่อเสริทสร้างพหุปัญญษทั้ง 8 ด้าน หรือ EF ที่ทำให้ลูกได้เรียนรู้ทั้ง Hard Skill และ Soft Skill อย่างสมดุลย์ เพราะการเรียนรู้ที่ดี สามารถเรียนรู้ได้ ต่อเนื่องไม่จำกัด และ ทำให้เด็กค้นพบตัวตน และมีความสุขกับการเรียนรู้ได้ด้วยตัวเอง
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ :
บทสวดแก้ลูกดื้อ ลูกซน ลูกไม่ยอมฟัง พ่อแม่ไม่รู้จะทำอย่างไร ลองใช้วิธีนี้!
อาชีพในฝัน 2019 ความฝันเด็กไทย เด็กไทยอยากทำอาชีพอะไรตอนโต มาดูผลโพลกัน!
วิธีเลี้ยงลูกสาวกับลูกชายต่างกันไหม ความแตกต่างของลูกสาวและลูกชายที่ควรรู้!
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!