เชื่อว่าหลาย ๆ คน น่าจะมีคำว่าคาใจที่สงสัยอยู่เหมือนกัน นั่นก็คือ ครีมลดริ้วรอยเห็นผลจริงหรือไม่ ใช้แล้วริ้วรอยจะหายจริงไหม หรือเป็นเพียงแค่การโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อให้ใช้ผลิตภัณฑ์ สำหรับใครที่มีความสงสัยเหมือนกัน วันนี้ TAP ได้ไปหาคำตอบมาให้เรียบร้อยแล้วค่ะ มาดูกันว่า ครีมลดริ้วรอยใช้แล้วเห็นผลจริงไหม !?
ริ้วรอยเกิดจากอะไร ?
ก่อนที่จะไปหาคำตอบว่า ครีมลดริ้วรอยเห็นผลจริงหรือไม่ !? ต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนว่าจริง ๆ แล้ว ปัญหาริ้วรอยที่เป็นปัญหากวนใจของใครหลาย ๆ คนนั้นเกิดจากอะไรทำไมผิวหน้าจึงมีริ้วรอย ร่องลึก ร่องแก้ม รอยเหี่ยวย่น หน้าผากยับ ซึ่งต้องบอกว่าปัญหาริ้วรอยสามารถเกิดได้จากหลากหลายปัจจัยมาก ๆ มีหลายสาเหตุที่สามารถทำให้ผิวหน้าเกิดริ้วรอยได้ อาทิ เช่น
- ความเครียด
- การแสดงอารมณ์ผ่านทางสีหน้า
- มีนิสัยชอบขมวดคิ้ว หรือ ย่นหน้าผาก
- การเช็ด ถู หน้าด้วยความรุนแรง เช่น การเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง
- สครับผิวบ่อยจนเกินไป และผลิตภัณฑ์สครับผิวมีเม็ดสครับที่ใหญ่ทำให้ผิวถูกเสียดสีเกิดเป็นริ้วรอยเล็ก ๆ
- มลภาวะภายนอก อาทิ เช่น แสงแดด ฝุ่นละออง ฝุ่นควัน สารเคมี
- ขาดการดูแลบำรุงผิวที่เพียงพอ
ซึ่งสาเหตุเหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นที่เป็นปัจจัยทำให้ผิวหน้าเกิดปัญหาริ้วรอย ร่องลึก ร่องแก้ม ตีนกา รอยเหี่ยวย่นยับ โดยส่วนใหญ่จะเริ่มจากเป็นริ้วรอยเล็ก ๆ และขาดการดูแลบำรุงในทันทีจนเกิดการสะสมจนกลายเป็นริ้วรอยร่องลึกถาวรที่เห็นได้ชัด และบำรุงรักษาได้ยากแล้วนั่นเองค่ะ
ครีมลดริ้วรอยเห็นผลจริงหรือไม่ !?
หลังจากที่ได้ทราบถึงสาเหตุ และ จุดเริ่มต้นของปัญหาริ้วรอยกันไปเรียบร้อยแล้ว ต่อมาก็มาถึงคำถามคาใจที่หลาย ๆ คน สงสัยนั่นก็คือ ครีมลดริ้วรอยเห็นผลจริงหรือไม่ ใช้แล้วจะเห็นผลจริงเหรอ เพราะเชื่อว่าเมื่อมีปัญหาริ้วรอยเกิดขึ้น หรือ คนที่เริ่มมีอายุมากขึ้นก็มักจะมองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่เน้นในเรื่องของริ้วรอยมาใช้แต่ก็ไม่รู้ว่าที่ใช้ไปจะเห็นผลจริงหรือเปล่า TAP ได้หาคำตอบมาให้แล้วค่ะ !
คำถาม : ครีมลดริ้วรอยเห็นผลจริงหรือไม่ !?
คำตอบ : ครีมลดริ้วรอยสามารถช่วยลดริ้วรอยได้จริง !
แต่.. ตามหลักของวิทยาศาสตร์ผิวหนังของคนเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ในทันทีภายในชั่วคราวคืน ข้ามวัน หรือ ภายในไม่กี่สัปดาห์ เพราะฉะนั้นที่หลาย ๆ คน มีปัญหาใช้ครีมลดริ้วรอยแล้วไม่เห็นผล เพราะระยะเวลาที่ใช้ยังน้อยเกินไป ซึ่งประสิทธิภาพของการใช้ครีมลดริ้วรอยจะค่อย ๆ ช่วยฟื้นฟูบำรุงผิวหน้าที่มีริ้วรอยให้ค่อย ๆ มีความกระชับ ช่วยให้ผิวมีความเต่งตึงขึ้น และช่วยเติมความชุ่มชื้น กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน และ เซลล์ผิว ทำให้ริ้วรอยบนใบหน้าค่อย ๆ ดูจางลง ริ้วรอยดูตื้นขึ้น โดยเฉพาะริ้วรอยเล็ก ๆ จะเห็นผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงได้เร็วกว่าริ้วรอยที่มีความลึกนั่นเองค่ะ
และยังรวมถึงปัจจัยอื่น ๆ อย่างเช่น สารสกัด หรือ ส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ครีมลดริ้วรอยแต่ละไอเทมที่ก็จะมีส่วนผสมที่แตกต่างกันออกไปจึงทำให้ระยะเวลาของผลลัพธ์ไม่เท่ากัน
ข้อควรรู้ by TAP : การใช้ครีมลดริ้วรอยอาจจะไม่ได้เห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็วเท่ากับการทำหัตถกรรมเข้าคลินิกเสริมความงาม อาทิ เช่น การฉีดโบท็อกซ์ หรือ ฟิลเลอร์ แต่อย่างไรก็ตามการใช้ครีมลดริ้วรอยจะสามารถช่วยชะลอ ฟื้นฟู บำรุง และป้องกันการเกิดริ้วรอยได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะคนที่มีริ้วรอยยังไม่เยอะการใช้ครีมลดริ้วรอยจะช่วยให้ผิวไม่มีริ้วรอยก่อนวัย
TIPS by TAP : แนะนำให้ใช้ครีมลดริ้วรอยติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง 2 – 3 เดือน หรือ ผลิตภัณฑ์บางยี่ห้อจะสามารถเห็นผลของการเปลี่ยนแปลงได้ภายใน 1 เดือน สิ่งที่การันตีในการใช้ครีมลดริ้วรอยที่ผิวหน้าจะได้รับอย่างแน่นอน คือความชุ่มชื้น ผิวมีความแน่น ฟู เด้ง ผิวมีความกระชับเต่งตึง ซึ่งจะช่วยให้ปัญหาริ้วรอยดูดีขึ้น และยังช่วยชะลอการเกิดริ้วรอยใหม่ ๆ ได้อีกด้วย
แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น ต้องปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต เลิกขมวดคิ้ว หลีกเลี่ยงแสงแดด พักผ่อนเยอะ ๆ และ ลดความเครียด รวมถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่สามารถทำให้ผิวเกิดริ้วรอย รับรองว่าถ้าปรับพฤติกรรมได้บวกกับการใช้ครีมลดริ้วรอยจะช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยได้อย่างแน่นอน !
บทความที่เกี่ยวข้อง : บ๊ายบายริ้วรอย ! 10 ออยล์บำรุงผิวหน้า เพื่อผิวเต่งตึง กระชับ สำหรับคนวัย 30+
แนะนำวิธีใช้ครีมลดริ้วรอยให้เห็นผล
การใช้ครีมลดริ้วรอยควรใช้เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการบำรุงผิวหน้า ! โดยขั้นตอนการทาสกินแคร์บำรุงที่ถูกต้องควรเริ่มจาก..
1. ทำความสะอาดผิวให้สะอาดหมดจด
สำหรับคนที่แต่งหน้าก็ควรล้างเครื่องสำอางด้วย Cleansing Oil, Cleansing Foam, Cleansing Balm หรือ Cleansing Water เพื่อล้างทำความสะอาดเครื่องสำอาง
TIPS by TAP : ถ้าหากสาว ๆ คนไหนเลือกใช้ Cleansing Water ควรหลีกเลี่ยงการถู หรือ เช็ด ผิวหน้าด้วยความรุนแรง เพราะสำลีจะเกิดการเสียดสีกับผิวหน้าทำให้เกิดริ้วรอยเล็ก ๆ และสามารถสะสมจนกลายเป็นริ้วรอยถาวรได้ และยังสามารถทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคืองได้อีกด้วย
2. เตรียมผิวด้วยโทนเนอร์
หลังจากที่ล้างทำความสะอาดผิวหน้าเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อมาที่อยากแนะนำให้ทุกคนทำ คือการใช้โทนเนอร์เช็ดหน้า เพราะหลาย ๆ คน จะมองข้ามการใช้โทนเนอร์คิดว่าไม่จำเป็นแต่.. รู้หรือไม่ !? การใช้โทนเนอร์เป็นขั้นตอนการเตรียมผิวเพื่อให้พร้อมต่อการบำรุงในขั้นตอนต่อไป อีกทั้งยังช่วยรีเช็กความสะอาดของผิว เพราะบางครั้งการล้างทำความสะอาดผิวหน้าก็อาจจะล้างสิ่งสกปรกตกค้างออกได้ไม่หมดนั่นเองค่ะ
3. บำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์เนื้อบางเบาก่อน
เมื่อเตรียมผิวด้วยโทนเนอร์เสร็จแล้ว ขั้นตอนต่อไปให้เริ่มทาสกินแคร์โดยเริ่มจากผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อบางเบาที่สุด ๆ เช่น น้ำตบ หรือ เซรั่ม เพื่อให้ผลิตภัณฑ์ซึมเข้าสู่ผิวได้ดีมากขึ้น เพราะถ้าใช้สกินแคร์ที่มีเนื้อหนักทาลงไปก่อนจะทำให้ผลิตภัณฑ์ที่มีเนื้อบางเบาไม่สามารถซึมเข้าสู่ผิว และทำให้เกิดการอุดตันได้
4. ทาครีมลดริ้วรอยปิดท้าย
เมื่อทาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวตัวอื่น ๆ จนเสร็จแล้ว ผลิตภัณฑ์ชิ้นสุดท้ายที่ควรทา คือครีมลดริ้วรอย เพราะครีมลดริ้วรอยจะมีลักษณะเป็นเนื้อครีมที่จะช่วยเคลือบผิวหน้า และ ช่วยกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยให้ผลิตภัณฑ์ตัวอื่น ๆ ที่ทาไปก่อนหน้าคงอยู่ในผิวได้นานยิ่งขึ้น
TIPS by TAP : การทาครีมลดริ้วรอยไม่จำเป็นต้องทาเยอะ หรือ ใช้ปริมาณที่เยอะจนเกินไป เพราะจะทำให้รู้สึกหนักผิว เหนียวเหนอะหนะที่ใบหน้า และยังสามารถทำให้ผิวอุดตันได้อีกด้วย ซึ่งความเชื่อที่ว่าทาครีมเยอะจะยิ่งเห็นผลเร็วเป็นความเชื่อที่ผิด ! การทาครีมในปริมาณเยอะ ๆ ไม่ได้ช่วยเร่งประสิทธิภาพของครีมนั้น ๆ แถมยังทำให้สิ้นเปลือง และ อาจส่งผลเสียต่อผิวได้ด้วยค่ะ
เป็นอย่างไรบ้างคะ ทีนี้ทุกคนก็ได้คลายข้อสงสัยแล้วว่า ครีมลดริ้วรอยเห็นผลจริงหรือไม่ !? น่าจะช่วยทำให้หลาย ๆ คนรู้สึกสบายใจในการใช้ครีมลดริ้วรอยไปได้เยอะ แต่ทั้งนี้การใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวไม่ว่าจะเป็นสูตรใดต้องใช้เวลาในการฟื้นบำรุงผิว ซึ่งจะไม่ได้เห็นผลในทันทีจึงอาจจะไม่ทันใจใครหลายคน แต่ขอให้เชื่อว่าการบำรุงผิวจะช่วยให้ผิวมีสุขภาพที่ดีในระยะยาวแน่นอนค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
แนะนำ 10 เซรั่ม AHA สกินแคร์หน้าใส ลดรอยสิว ผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
10 Astaxanthin ยี่ห้อไหนดี วิตามินชะลอวัย ต้านริ้วรอยเหี่ยวย่น
บอกต่อ ! 10 เซรั่มเรตินอล รักษาสิว กระตุ้นการสร้างผิวใหม่ ห่างไกลริ้วรอยเหี่ยวย่น
ที่มา : pobpad
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!