โดยปกติแล้วคราบสกปรกบนเสื้อผ้าเป็นปัญหาทั่วไปที่คนส่วนใหญ่จะต้องพบเจอ ไม่มีอะไรจะเลวร้ายไปกว่าการเอาผ้าไปซัก จนตากแล้ว กำลังเก็บแล้วพบกับคราบสีเหลือง คราบเหลืองบนเสื้อขาว สามารถขจัดออกได้ยากเป็นพิเศษ และอาจสร้างความกังวลหากจะหยิบมาใส่ออกไปข้างนอก ในบทความนี้ เราจะพูดถึงสาเหตุ และวิธีขจัดคราบสีเหลืองบนเสื้อขาวกัน
คราบเหลืองบนเสื้อขาว เกิดขึ้นได้อย่างไร ?
หลายคนคงสงสัยว่าเสื้อผ้าถ้าจะเปื้อนอะไรเราก็คงรู้ตัว ว่าคราบนั้น ๆ มาจากไหน ยังพอนึกย้อนไปได้ แต่สำหรับคราบเหลืองคืออะไร ? มาจากไหนกันแน่ หากไม่ได้เปื้อนอะไรมาก่อน นึกแล้วก็นึกไม่ออก ปัญหาของคราบนี้ก็คงมาจากคราบเหงื่อของเราเองนั่นแหละ เมื่อเหงื่อของเราออกมามาก ๆ แล้วเรานำเสื้อผ้าใส่ตะกร้าทิ้งไว้รอซัก ซึ่งระยะเวลานั้นเองคราบบนเสื้อผ้าจะเกิดความแห้ง ประกอบกับเกิดการรวมตัวของสารระงับเหงื่อในผลิตภัณฑ์ลดเหงื่อ หรือผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายต่าง ๆ ได้ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีส่วนผสมของเกลืออะลูมิเนียม คลอโรไฮเดรต (Aluminium Chlorohydrate) ซึ่งทำการรวมตัวกับคราบเหงื่อ ก่อให้เกิดคราบเหลืองขึ้นในที่สุด
ดังนั้นคราบเหลืองจึงไม่ใช่แค่คราบทั่วไป ยิ่งถ้าเสื้อผ้าที่เป็นสีขาวด้วยแล้ว จะยิ่งทำให้เห็นชัดเจนมากขึ้น การกำจัดคราบเหล่านี้นั้นยาก เพราะมีการผสมจากสารในผลิตภัณฑ์รวมอยู่ด้วย แต่ไม่ใช่ว่าไม่สามารถกำจัดได้ หากรู้วิธีก็ทำได้เช่นกัน เราจึงมีขั้นตอนในการทำมาแนะนำกัน
บทความที่เกี่ยวข้อง : 6 วิธีซักเสื้อขนเป็ด เสื้อแพงแบบนี้ต้องซักให้ถูกวิธี
วิดีโอจาก : Thai PBS
4 ขั้นตอนช่วยแก้ปัญหาคราบเหลืองบนเสื้อขาว
ขั้นตอนในการซักคราบเหลืองออกจากเนื้อผ้านั้นทำได้หากสามารถเลือกผง หรือน้ำยาสำหรับซักผ้าให้มีความเหมาะสม ตามสาเหตุของคราบเหลือง เรามีขั้นตอนจะมาแนะนำทั้ง 4 ขั้นตอน มาเริ่มกันเลยดีกว่า
1. หาสาเหตุของคราบเหลืองบนเสื้อ
ขั้นตอนแรกในการกำจัดคราบเหลืองบนเสื้อเชิ้ตสีขาว คือ การพยายามระบุสาเหตุของการเกิดคราบให้ได้ คราบเหลืองอาจเกิดจากเหงื่อ น้ำมันจากร่างกาย หรือแม้แต่คลอรีนจากสระว่ายน้ำ และอย่างที่เราบอก คือ สาเหตุหลักมาจากการผสมของเหงื่อกับผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย แต่ในบางกรณีอาจเกิดจากผงฟอกขาวซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่มักใช้เพื่อทำให้เสื้อผ้าขาวขึ้นได้เช่นกัน
เมื่อคุณสามารถระบุสาเหตุของคราบเหลืองได้แล้ว คุณสามารถทำตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อขจัดคราบเหลืองเหล่านั้นได้ สำหรับเหงื่อ และน้ำมันจากร่างกาย คุณอาจต้องทำความสะอาดบริเวณนั้นก่อนด้วยน้ำยาขจัดคราบ ในขณะที่คลอรีนจากสระว่ายน้ำอาจต้องใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดคลอรีนแบบพิเศษ หากคราบเกิดจากผงฟอกขาว คุณอาจต้องใช้ผลิตภัณฑ์ฟอกสีฟันเพื่อเปลี่ยนการเปลี่ยนสี และหากเกิดจากผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายก็ควรเปลี่ยนไปลองใช้ยี่ห้ออื่นดู
2. การเลือกน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสม
เมื่อคุณสามารถระบุสาเหตุของคราบเหลืองบนเสื้อเชิ้ตสีขาวได้แล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การเลือกน้ำยาทำความสะอาดผ้าที่เหมาะสมเพื่อขจัดคราบเหล่านั้น สิ่งสำคัญคือต้องใช้น้ำยาทำความสะอาด ที่ออกแบบมาสำหรับประเภทของคราบที่คุณกำลังเผชิญอยู่ ตัวอย่างเช่น หากคราบมาจากน้ำมันบนร่างกาย คุณจะต้องใช้น้ำยาขจัดคราบมัน หากเกิดจากอาหารหรือเครื่องดื่มหก คุณต้องใช้น้ำยาขจัดคราบ ผงฟอกขาวเป็นตัวเลือกที่ดีเยี่ยมในการกำจัดคราบฝังแน่น
เพราะผงฟอกขาวมีประโยชน์อย่างยิ่งในการขจัดคราบเหลืองส่วนใหญ่ มีความเข้มข้นมากพอที่จะทำลายโมเลกุลของคราบโดยไม่ทำลายเนื้อผ้า อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องใช้ผงฟอกขาวที่มีความเข้มข้นถูกต้อง แต่ผงฟอกขาวอาจรุนแรงเกินไปสำหรับวัสดุ หรือเนื้อผ้าบางชนิด และยังทำให้เกิดการเปลี่ยนสีได้ ทางที่ดีควรทดสอบน้ำยาทำความสะอาดกับบริเวณเล็ก ๆ ที่ไม่เด่นของเสื้อก่อนนำมาใช้จริงกับเสื้อทั้งตัว
3. ซักเสื้อในน้ำร้อน
การซักเสื้อผ้าด้วยน้ำร้อนเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการกำจัดคราบเหลืองบนเสื้อขาว น้ำร้อนจะช่วยคลายคราบ ทำให้ขจัดออกได้ง่ายขึ้น สำหรับคราบเหลืองที่ฝังแน่นเป็นพิเศษ คุณสามารถเพิ่มผงฟอกขาวเล็กน้อยในการซัก วิธีนี้จะช่วยสลายคราบออกจากผ้าได้ อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำบนบรรจุภัณฑ์ผงฟอกขาว และทดสอบบริเวณเล็ก ๆ บนเสื้อก่อน เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่ทำลายเนื้อผ้าให้เกิดความเสียหาย หรือเกิดการเปลี่ยนสี
บทความที่เกี่ยวข้อง : ชี้เป้า ! 7 น้ำยาซักผ้า สูตรเข้มข้น กลิ่นหอมไร้กลิ่นอับ ขจัดคราบฝังแน่นออกหมดจด !
4. จบด้วยการล้างด้วยน้ำเย็น
สุดท้าย เพื่อขจัดคราบเหลืองบนเสื้อขาวให้ได้ผล ให้ล้างเสื้อด้วยน้ำเย็น นี่เป็นขั้นตอนที่สำคัญในกระบวนการซักเสื้อที่มีคราบเหลือง เนื่องจากช่วยให้แน่ใจว่าผงฟอกขาวทั้งหมดถูกขจัดออกจากผ้าแล้ว น้ำเย็นยังช่วยหยุดกระบวนการฟอกขาวและป้องกันไม่ให้ผ้าเสียหาย หรือเปลี่ยนสี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด พยายามล้างเสื้อให้เร็วที่สุดหลังจากผงฟอกสีถูกเอาออกแล้ว
การเลือกใช้สารอื่น ๆ เพื่อกำจัดคราบเหลือง
นอกจากวิธีที่เราแนะนำแล้ว หากสืบค้นจากสื่อออนไลน์ต่าง ๆ ก็จะมีการกล่าวถึงการใช้สูตรน้ำยาทำเองจากส่วนผสมต่าง ๆ เช่น น้ำยาล้างจาน, แชมพู, เบกกิ้งโซดา, น้ำมะนาว หรือน้ำส้มสายชู เป็นต้น ซึ่งสูตรแต่ละสูตรก็แนะนำปริมาณ และวิธีใช้งานที่แตกต่างกันออกไป อาจเป็นทางเลือกให้กับผู้ที่กำลังประสบปัญหา แต่ต้องอย่าลืมว่าไม่ว่าจะเลือกใช้วิธีไหน นอกจากความต้องการที่จะกำจัดคราบเหลืองแล้ว ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยจากการผสมสารต่าง ๆ และผลกระทบต่อเนื้อหาด้วย หากมั่นใจว่าผ้าจะปลอดภัย มือของเราจะไม่ถูกกัดจึงค่อยทำ แต่หากลองหลายวิธีแล้วไม่หาย สุดท้ายอาจต้องทำใจ และซื้อเสื้อใหม่ ควบคู่ไปกับการหาสาเหตุของคราบ และเริ่มลงมือป้องกันคราบให้มีโอกาสเกิดขึ้นน้อยที่สุด
ป้องกันคราบเหลืองจากผ้าขาว
การป้องกันคราบเหลืองไม่ให้เกิดซ้ำ ที่จริงแล้วถือว่าทำได้ยาก หากไม่รู้สาเหตุที่เกิดคราบ เพราะต้องป้องกันจากสาเหตุเป็นหลัก ยกตัวอย่างเช่น
- หากเกิดจากการว่ายน้ำ ก็อาจต้องเลือกชุดสีอื่นไปแทน หรือเปลี่ยนสระว่ายน้ำหากเป็นไปได้ เพราะปริมาณสารคลอรีน หรือสารอื่น ๆ อาจกระตุ้นทำให้เกิดคราบเหลืองได้
- หากสงสัยว่าเกิดจากผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ก็ควรลองเปลี่ยนยี่ห้อดูว่าคราบจะเกิดขึ้นซ้ำหรือไม่ หรืออาจเปลี่ยนไปใช้วิธีระงับกลิ่นกายแบบอื่นไปก่อน หากเหงื่อออกอีกแต่ไม่มีคราบแสดงว่าไม่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ก็สามารถกลับมาใช้ตามเดิมได้
- ในระหว่างที่หาที่มาของคราบ ควรเลี่ยงใส่เสื้อสีขาวโดยไม่จำเป็นไปก่อน เพราะอาจเกิดคราบเหลืองขึ้นได้อีก
- เมื่อใส่เสื้อผ้าแล้ว โดยเฉพาะหากเสื้อเปื้อนเหงื่อ ไม่ควรเก็บผ้าไว้นานเพื่อรอซัก แต่ควรรีบซัก เพื่อไม่ให้เกิดการแห้งของเหงื่อ หรือไขมันที่ออกมาจากร่างกาย จนอาจกลายเป็นคราบเหลืองได้ เป็นต้น
การดูแลเสื้อเชิ้ตสีขาวให้ดูดีเป็นสิ่งสำคัญ หากคุณเกิดคราบเหลือง ควรรีบกำจัดมันโดยเร็วที่สุดด้วยน้ำยาฟอกขาว วิธีนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้คราบฝังแน่นถาวร และทำให้เสื้อเชิ้ตสีขาวของคุณอยู่ในสภาพที่ดี ด้วยการดูแล และบำรุงรักษาที่เหมาะสม เสื้อเชิ้ตสีขาวของคุณจะคงอยู่ได้นานหลายปีแน่นอน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
11 วิธีซักผ้าให้หอม กลิ่นติดทนนาน ตลอดทั้งวัน เคล็ด(ไม่)ลับของคุณแม่ยุคใหม่
7 เครื่องซักผ้าฝาหน้า ใช้งานดี ช่วยถนอมผ้า ที่ควรมีไว้ใช้ที่บ้าน!!
6 เจลบอลซักผ้า ลดกลิ่นอับ ยับยั้งแบคทีเรีย หอมสดชื่นติดทนทาน ราคาถูก
ที่มา : wearnumi, thompsontee
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!