TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

8 สัญญาณการสังเกต เมื่อลูกมีปัญหาทางการได้ยิน

17 Apr, 2016
8 สัญญาณการสังเกตเมื่อลูกมีปัญหาทางการได้ยิน

8 สัญญาณการสังเกตเมื่อลูกมีปัญหาทางการได้ยิน

เวลาที่คุณพูดกับลูกแต่เขาดูเหมือนไม่สนใจฟังคุณ อาจไม่ใช่เพราะเขาไม่สนใจ แต่เขาอาจมีปัญหาในการได้ยินก็ได้ค่ะ

การทดสอบว่าลูกมีปัญหาการได้ยินหรือเปล่าสำหรับเด็กโตนั้นยากที่จะระบุได้ชัดเจน เนื่องจากทักษะการพูดของเขาพัฒนาแล้ว และถึงแม้ว่าลูกจะผ่านการทดสอบการได้ยินในทารกมาแล้ว แต่ก็อาจเกิดการติดเชื้อ หรือปัจจัยอื่นๆ ในภายหลังได้ค่ะ

เรามีวิธีที่คุณพ่อคุณแม่สามารถนำไปใช้เพื่อสังเกตสัญญาณเมื่อลูกไม่ได้ยินเสียงคลิก Start Gallery เพื่อดูคำแนะนำ

1. ลูกมักบ่นว่าได้ยินไม่ค่อยชัด

1. ลูกมักบ่นว่าได้ยินไม่ค่อยชัด

สัญญาณแรก ลูกจะเป็นคนบอกคุณว่า ได้ยินไม่ค่อยชัด ฟังไม่ค่อยถนัด รู้สึกต้องใช้ความพยายายามอย่างมากในการทำความเข้าใจว่าใครพูดอะไร และการพูดของเขาก็จะต่างไปจากเด็กคนอื่นๆ ในวัยเดียวกัน เขาจะมีปัญหาในการสื่อสารคำบางคำ หรือเข้าใจคำถามและคำแนะนำต่างๆ ผิดเป็นประจำ

หากคุณสงสัยว่าลูกของคุณอาจมีความบกพร่องทางการได้ยิน ควรรีบนัดหมายกับผู้เชี่ยวชาญด้านหู เพื่อทำการทดสอบการได้ยินของลูกอีกครั้ง

2. มีปัญหาการเรียนในชั้นเรียน

2. มีปัญหาการเรียนในชั้นเรียน

การได้ยินมีความสำคัญต่อการพัฒนาทางภาษา การพูดการสื่อสาร การเรียนรู้ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของเด็ก การศึกษาในประเทศสิงคโปร์โดยกระทรวงสาธารณสุขแสดงให้เห็นว่า โดยทั่วไปแล้วเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินแต่กำเนิด หากได้รับการรักษาล่าช้า เด็กเหล่านี้จะมีผลการสอบจบระดับประถมศึกษาต่ำกว่าเพื่อนที่ได้ยินปกติ

หากลูกของคุณมีปัญหาการเรียน และคุณครูสังเกตเห็นว่า เขาฟังไม่ชัด เรียนไม่ทันเพื่อน อย่ารอช้า ควรพาลูกไปทดสอบการได้ยินกับผู้เชี่ยวชาญนะคะ

3. ถามซ้ำๆ หรือพูดเสียงดัง

3. ถามซ้ำๆ หรือพูดเสียงดัง

หากลูกมักจะถามซ้ำๆ ว่า “อะไรนะ?” “ห๊ะ?” ซึ่งเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่แสดงว่าเขามีปัญหาทางการได้ยิน สิ่งสำคัญคือ ยิ่งเด็กได้รับการรักษาเร็วเท่าไร การรักษายิ่งได้ผลดีเท่านั้นค่ะ

หากคุณมีความกังวลใด ๆ เกี่ยวกับการได้ยิน การพูด หรือพัฒนาภาษาของลูก ควรพาลูกไปพบคุณหมอโดยเร็วที่สุด

4. เจ็บหูและมีของเหลวขังในหู

4. เจ็บหูและมีของเหลวขังในหู

หูอักเสบติดเชื้ออาจเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ในวัยเด็ก และเด็กจำนวนไม่น้อยมีการติดเชื้ออย่างน้อยหนึ่งครั้งเมื่อเข้าสู่วัย 1 ขวบ

บางครั้งเด็กอาจมีของเหลวขังอยู่ในหูชั้นกลาง แต่ไม่จำเป็นต้องมีการติดเชื้อเสมอไป อย่างไรก็ตามหากของเหลวนั้นอยู่เป็นเวลานาน อาจนำไปสู่การสูญเสียการได้ยิน

แม้ว่าการติดเชื้อที่หูสามารถรักษาได้ด้วยยาปฏิชีวนะ หรือในที่สุดของเหลวในหูอาจจะถูกระบายออกไปได้เอง แต่คุณแม่ก็ควรพาลูกไปพบคุณหมอตามกำหนดนัดหมายเพื่อติดตามอาการให้แน่ใจก่อนนะคะ

5. พูดเสียงดังผิดปกติ

5. พูดเสียงดังผิดปกติ

เด็กส่วนมากเต็มไปด้วยพลังและความกระตือรือร้น พวกเขาไม่รู้ตัวหรอกว่าเขาพูดดังเกินไปหรือเปล่า แต่ถ้าลูกพูดเสียงดังผิดปกติบ่อยๆ และดูเหมือนว่าลูกไม่สามารถควบคุมความดังได้ อาการเช่นนี้ก็ควรพาลูกไปประเมินการได้ยินเช่นกันค่ะ

สาเหตุอื่นๆ ของการสูญเสียการได้ยินในเด็กอาจรวมถึงการมีวัตถุแปลกปลอมเข้าไปติดภายในรูหู เช่น ปลายคอตตอนบัด หรือลูกปัด เป็นต้น

6. มักจะบอกให้เพิ่มเสียงทีวี หรืออุปกรณ์ต่างๆ

6. มักจะบอกให้เพิ่มเสียงทีวี หรืออุปกรณ์ต่างๆ

ลูกของคุณฟังเพลงเสียงดังเป็นประจำ หรือมักยืนใกล้ทีวีมากที่เปิดเสียงดังมากเป็นพิเศษหรือเปล่า?

ทราบหรือไม่ว่า การฟังเพลงเสียงดังมากๆ เป็นเวลานาน อาจทำให้ประสาทหูเสื่อม และเซลล์ขนเล็กๆ หรือปลายประสาทหูชั้นในที่เป็นอวัยวะรูปก้นหอย หรืออวัยวะเกี่ยวกับการได้ยินเกิดความเสียหายได้

หากคุณลองเปิดเสียงทีวี หรือเสียงเพลงดังกว่าปกติมากๆ แล้วลูกยังคงฟังได้ตามปกติ อาจเป็นอีกสัญญาณหนึ่งที่บอกว่าลูกคนมีปัญหาทางการได้ยินเสียแล้ว

7. ไม่มีปฎิกิริยาตอบสนองต่อเสียงดัง

7. ไม่มีปฎิกิริยาตอบสนองต่อเสียงดัง

เมื่อมีเสียงปิดประตูดังปัง หรือจู่ๆ เสียงสัญญาณกันขโมยก็ดังขึ้น ลูกของคุณยังคงนิ่งเฉย หรือมีปฎิกิริยาตอบสนอง โดยหันไปหาเสียงนั้นทันที

ถ้าคำตอบคือ ลูกนิ่งเฉย แสดงว่า ลูกอาจมีความบกพร่องทางการได้ยิน ควรติดต่อคุณหมอเพื่อรับการรักษาโดยเร็ว

8. มีเสียงดังในหู

8. มีเสียงดังในหู

สาเหตุที่พบบ่อยของเสียงอื้อในหู เกิดจากเซลล์หูชั้นในได้รับความเสียหาย ขนอ่อนๆ เล็กๆ ในหูชั้นในจะเคลื่อนไหวสัมพันธ์กับความดันของคลื่นเสียง ซึ่งช่วยในการส่งสัญญาณไฟฟ้าไปยังสมอง

หากขนในหูชั้นในเหล่านี้เสียหาย สัญญาณไฟฟ้าที่จะถูกส่งไปยังสมองอาจรั่ว และ ทำให้เกิดหูอื้อ ซึ่งเป็นเสียงแปลกๆ เสียงหึ่ง หรือมีเสียงผิวปากภายในหู

อาการเหล่านี้อาจเกิดจากการสัมผัสกับเสียงดังมากเกินไป ขี้หูอุดตัน การเปลี่ยนแปลงของกระดูกหูและการบาดเจ็บที่ศีรษะหรือคอ

ถัดไป
img

บทความโดย

สิริลักษณ์ อุทยารัตน์

  • หน้าแรก
  • /
  • สุขภาพ
  • /
  • 8 สัญญาณการสังเกต เมื่อลูกมีปัญหาทางการได้ยิน
แชร์ :
  • ยืนหนึ่ง! Propoliz Kid Mouth Spray คว้า Parents' Choice Best Kids Mouth Spray จากเวที theAsianparent Awards 2025
    บทความจากพันธมิตร

    ยืนหนึ่ง! Propoliz Kid Mouth Spray คว้า Parents' Choice Best Kids Mouth Spray จากเวที theAsianparent Awards 2025

  • Infolife สุดยอดนวัตกรรมเพื่อเด็กท้องผูก คว้ารางวัล Most Innovative จาก theAsianparent Awards 2025
    บทความจากพันธมิตร

    Infolife สุดยอดนวัตกรรมเพื่อเด็กท้องผูก คว้ารางวัล Most Innovative จาก theAsianparent Awards 2025

  • หมอเฉลย กินสับปะรดแล้วลิ้นเลือดออก เกิดจากอะไร? แพ้สับปะรดใช่ไหม?

    หมอเฉลย กินสับปะรดแล้วลิ้นเลือดออก เกิดจากอะไร? แพ้สับปะรดใช่ไหม?

  • ยืนหนึ่ง! Propoliz Kid Mouth Spray คว้า Parents' Choice Best Kids Mouth Spray จากเวที theAsianparent Awards 2025
    บทความจากพันธมิตร

    ยืนหนึ่ง! Propoliz Kid Mouth Spray คว้า Parents' Choice Best Kids Mouth Spray จากเวที theAsianparent Awards 2025

  • Infolife สุดยอดนวัตกรรมเพื่อเด็กท้องผูก คว้ารางวัล Most Innovative จาก theAsianparent Awards 2025
    บทความจากพันธมิตร

    Infolife สุดยอดนวัตกรรมเพื่อเด็กท้องผูก คว้ารางวัล Most Innovative จาก theAsianparent Awards 2025

  • หมอเฉลย กินสับปะรดแล้วลิ้นเลือดออก เกิดจากอะไร? แพ้สับปะรดใช่ไหม?

    หมอเฉลย กินสับปะรดแล้วลิ้นเลือดออก เกิดจากอะไร? แพ้สับปะรดใช่ไหม?

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว