7 เรื่องน่าอัศจรรย์ของทารกแรกเกิด อ่านครบทั้ง 7 ข้อนี้แล้วเราจะเข้าใจว่าสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ แรกเกิดมีเรื่องน่าอัศจรรย์และมีความหมายต่อพ่อแม่ขนาดไหน
สัญชาตญาณของทารกแรกเกิด
ทารกน้อยแรกเกิดนั้น ถึงแม้ว่าพัฒนาการมองเห็นจะยังไม่ชัดเจน แต่ลูกน้อยของคุณก็สามารถหันทิศหาเต้านมของแม่เพื่ออ้าปากกินนมได้เอง ขอเพียงแค่แม่ได้อุ้มลูกรักอยู่ในอ้อมกอดใกล้ ๆ อกอุ่นเท่านั้นแหละ
ทารกแรกเกิดรู้ว่าใครคือ “แม่”
ทันทีที่ลูกน้อยได้ออกมาลืมตาดูโลก ทารกแรกเกิดก็สามารถที่จะจดจำเสียงและกลิ่นของผู้เป็นแม่ได้ทันที และต้องการเวลาในการเจริญเติบโต เพื่อที่จะได้เรียนรู้ต่อสิ่งใหม่ ๆ ที่ได้เห็น และเสียงต่าง ๆ ที่ได้ยิน ต่อการจดจำตามช่วงพัฒนาการของทารก
ทารกแรกเกิดยังไม่มีน้ำตา
แม้ว่าคุณแม่จะเจอลูกร้องไห้บ่อยมากแต่ถ้าสังเกตจะพบว่าในขณะที่ทารกแรกเกิดร้องไห้นั้นจะยังไม่มีน้ำตา เพราะในช่วงเดือนแรกท่อน้ำตาของลูกจะทำงานเพียงเพื่อผลิตน้ำสำหรับหล่อเลี้ยงดวงตาของทารกน้อยเท่านั้น
ทารกแรกเกิดผิวขาวส่วนใหญ่จะมีดวงตาสีฟ้า
ส่วนใหญ่ของเด็กทารกผิวขาวจะเกิดมามีดวงตาสีฟ้าโดยไม่คำนึงถึงเรื่องพันธุกรรม โดยที่สีของดวงตาจะเปลี่ยนแปลงในช่วงหกเดือนแรกของชีวิต แต่สำหรับคน Hispanic เอเชียนและแอฟฟริกัน-อเมริกัน ทารกส่วนใหญ่จะมีดวงตาสีดำเข้ม แม้เมื่อทารกเติบโตขึ้น ดวงตาก็จะไม่มีการเปลี่ยนสี
ทารกแรกเกิดมีสายตาสั้น
มันเป็นข้อเท็จจริงอันแสนน่ารัก เพราะโดยเฉลี่ยแล้วทารกเกิดใหม่นั้นสามารถมองเห็นได้ในระยะห่าง ประมาณ 10 นิ้ว ซึ่งเป็นระยะห่างระหว่างทารกน้อยกับใบหน้าของคุณแม่ ในระหว่างที่ลูกกินนมจากอกของแม่เท่านั้น
ทารกแรกเกิดไม่มีกระดูกสะบ้าหัวเข่า
ทารกน้อยจะเกิดขึ้นมาพร้อมกับกระดูกอ่อนที่จะทำหน้าที่คล้าย ๆ กับกระดูกสะบ้าหัวเข่า แต่กระดูกสะบ้าหัวเข่าจริง ๆ จะไม่พัฒนาขึ้นจนกระทั่งอายุ 6 – 7 เดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ทารกน้อยกำลังเริ่มที่จะหัดคลาน
ทารกแรกเกิดมีกระดูกมากกว่าผู้ใหญ่
เด็กทารกเกิดมาพร้อมกับกระดูกจำนวนกว่า 300 ชิ้น ในขณะผู้ใหญ่ซึ่งโตเต็มที่แล้วมีเพียง 206 ชิ้นเท่านั้น เมื่อทารกน้อยเติบโตขึ้น กระดูกเหล่านี้ก็จะหลอมรวมเข้าด้วยกัน
ที่มา : www.pregnancymagazine.com
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
สิวในทารกแรกเกิดใช่โรคผิวหนังหรือเปล่า?
ไขข้อข้องใจ รู้ได้อย่างไรว่าทารกแรกเกิดทำไมตาเหล่
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!