คนเป็นแม่มักมีความกังวลต่อลูกน้อยในหลาย ๆ เรื่อง โดยเฉพาะแม่มือใหม่ที่เพิ่งคลอดลูก ยังไม่มีบทเรียนช่ำชองต่อการดูแลลูกทารกแรกเกิด ความรู้สึกผิดของแม่หลังคลอด จึงเกิดขึ้นได้ในใจ และส่งผลให้เครียด และเสียสุขภาพ
6 ความรู้สึกผิดของแม่หลังคลอด ที่มักเกิดขึ้นได้ในช่วง 3 เดือนแรก
1) รู้สึกผิดที่ว่ายังรู้สึกว่ารักลูกได้ไม่เต็มที่
ยังมีคุณแม่มือใหม่จำนวนไม่น้อย ที่ยังไม่เกิดความรู้สึก “รักแรกพบ” หรือการรักลูกมากอย่างไม่มีเงื่อนไข จนทำให้รู้สึกผิดว่าตัวเองอาจจะยังรักลูกได้ไม่เต็มที่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องผิดปกติและเกิดขึ้นได้สำหรับแม่มือใหม่ที่กำลังอยู่ในช่วงปรับตัว เพราะการตั้งครรภ์และการคลอดบุตรทำให้คุณแม่ต้องเปลี่ยนแปลงทุกอย่างในชีวิตตัวเองไม่มากก็น้อย มีความลำบากเกิดขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ รวมถึงความเจ็บปวดจากการคลอดลูก การให้นมลูก ต้องอดหลับอดนอนดูแลลูก เหนื่อยตั้งแต่ตั้งท้องจนแม้กระทั่งหลังคลอดลูกที่ไม่ได้รับการพักผ่อนอย่างเต็มที่
บางครอบครัวที่ไม่มีพี่เลี้ยงหรือญาติผู้ใหญ่มาช่วยเปลี่ยนมือดูแลลูก คุณพ่อก็ไปทำงาน ทำให้คุณแม่ต้องเผชิญกับภาวะการเลี้ยงลูกเพียงคนเดียว แถมยังต้องจัดการงานบ้านอีกสารพัด ความรู้สึกของความสุขและความรักในการเลี้ยงลูกจึงอาจยังไม่เกิดขึ้นในช่วงนี้
วิธีลดความรู้สึกผิดของแม่หลังคลอด คือ คุณพ่อควรให้ความช่วยเหลือคุณแม่ให้ผ่านความยากลำบากในช่วงปรับตัวกับลูก ซึ่งแม่หลังคลอดนั้นควรจะได้รับการเอาใจใส่ทั้งทางร่างกาย อารมณ์ และจิตใจเช่นกัน คุณพ่อสามารถเข้ามาเป็นตัวช่วยในการเลี้ยงลูกและให้กำลังใจคุณแม่ได้
2) รู้สึกผิดที่ไม่ได้ให้ลูกได้กิน “นมแม่”
เรื่องนี้เป็นเรื่องอันดับต้น ๆ ที่คุณแม่หลายคนรู้สึกผิดมาถึงทุกวันนี้ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่กลายมาเป็นความกดดันสำหรับคุณแม่มือใหม่ แต่ก็ใช่ว่าคุณแม่จะสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ไปซะทุกคน แม้ว่าสมาคมกุมารแพทย์แนะนำว่าทารกควรได้กินนมแม่นานอย่างน้อย 1 ปี และข้อมูลที่บอกถึงคุณประโยชน์ของนมแม่ที่ดีต่อลูกน้อยมหาศาล เพราะปัญหาและปัจจัยในหลาย ๆ ด้าน ที่ทำให้คุณแม่ต้องตัดสินใจใช้นมผง จึงทำให้คุณแม่มีความรู้สึกเสียใจและรู้สึกว่าตัวเองเป็นแม่ที่ไม่สามารถจะให้ลูกกินนมแม่ได้ แต่ความจริงการใช้นมผงเลี้ยงลูกนั้น ไม่ได้เป็นเรื่องผิดอะไรสำหรับคุณแม่ที่ไม่สามารถให้นมแม่กับลูกได้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดในการเป็นแม่ที่ดี คือ เป็นแม่ที่มีความสุขในการเลี้ยงลูกและสร้างลูกให้เติบโตขึ้นมาด้วยความสมบูรณ์ทั้งร่างกายและจิตใจต่างหาก
3) รู้สึกผิดที่ไม่มีเวลาอยู่กับลูกเพราะต้องกลับไปทำงาน
การต้องกลับไปทำงานหลังครบวันลา เป็นความรู้สึกผิดที่พบบ่อยในแม่มือใหม่ เพราะคุณแม่ต่างก็อยากอยู่กับลูกน้อย ได้เลี้ยงลูกด้วยตัวเองมากกว่าจะที่ไปฝากฝังให้คนอื่นเลี้ยง จนทำให้รู้สึกผิดว่าไม่มีเวลาอยู่กับลูก แต่ถึงแม้ช่วงเวลาทำงานที่คุณแม่จะไม่มีเวลาให้นั้น หลังกลับจากที่ทำงานคุณแม่สามารถใช้เวลาที่เหลือก่อนนอนเล่นกับลูกได้ และใช้เวลาในวันหยุดอยู่กับลูกให้เต็มที่ เพราะการใช้เวลาอยู่กับลูก ไม่จำเป็นต้องมีเวลามากๆ แต่ขอให้เป็นเวลาที่มีคุณภาพก็พอ
เด็กในยุคปัจจุบันนี้มีการปรับตัวตามสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดีมากกว่าที่พวกเราคิด เขาจะค่อยเติบโตและปรับตัวได้ดีขึ้นในสถานการณ์ที่คุ้นชิน เพราะหากคุณเลือกที่จะเลี้ยงลูกอยู่กับบ้านด้วยตัวเอง นั่นความหมายว่าสถานการณ์การเงินของครอบครัวมั่นคงและมีรายได้พอที่จะใช้จ่ายโดยไม่เดือดร้อน แต่หากคุณจำเป็นต้องกลับไปทำงานเพื่อมีรายได้เพียงพอ นั่นก็ไม่ได้ทำให้ระยะความสัมพันธ์ของคุณแม่กับเจ้าตัวน้อยห่างออกไปนะคะ
4) รู้สึกผิดที่จำเป็นต้องพาลูกไปฝากที่เนอสเซอรี่
เมื่อถึงเวลาที่คุณแม่ต้องกลับไปทำงาน จะฝากลูกไว้กับญาติพี่น้องก็ไม่มีใครสะดวกดูแลให้ สิ่งที่คุณแม่มองหาเป็นอันดับต้น ๆ คือการนำลูกน้อยไปฝากเนอสเซอรี่ตั้งแต่ก่อน 2 ขวบ ซึ่งทำให้คุณแม่เป็นกังวลต่าง ๆ นานา แต่เมื่อสถานการณ์จำเป็น สิ่งที่คุณแม่ควรทำคือการหาเนอสเซอรี่ใกล้บ้านที่ไว้ใจได้ เพื่อที่จะทำให้คุณแม่หายห่วงในการฝากลูกน้อยไว้กับคนอื่น และตั้งใจทำงานอย่างไม่มีความกังวล ซึ่งข้อดีของการให้ลูกเข้าเนอสเซอรี่จะทำให้ลูกได้เรียนรู้กับการอยู่กับผู้ใหญ่และคนอื่นสังคมใน การรู้จักยอมรับผู้อื่น มีการเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ ถือเป็นการช่วยกระตุ้นพัฒนาการของลูกได้เป็นอย่างดี และทำให้เขารู้จักเริ่มช่วยตัวเองได้เป็นเร็ว
5) รู้สึกผิดที่ไม่ได้ใส่ใจดูแลตัวเองมากพอ
ถึงแม้ในช่วงแรก ๆ คุณแม่จะทุ่มเทเวลาไปกับการเลี้ยงเจ้าตัวน้อย จนไม่ได้หันมามองว่าปล่อยให้ตัวเองทรุดโทรมไปขนาดไหนแล้ว แม้ว่าการหาเวลาเป็นของตัวเองจะเป็นเรื่องยาก แต่คุณแม่ก็ควรดูแลตัวเองและให้เวลากับตัวเองบ้าง ด้วยการออกกำลังกาย มีเวลาสังสรรค์กับเพื่อนฝูงบ้าง หรือมีเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสองกับสามี โดยการฝากลูกไว้กับญาติพี่น้อง เพราะการได้มีเวลาเป็นของตัวเอง ทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง จะทำให้คุณได้ชาร์ตแบตเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลทางอ้อมต่อคุณและลูกน้อย ลดความเครียด ไม่เกิดภาวะซึมเศร้า เมื่อคุณแม่มีความสุขก็ทำให้ลูกมีความสุขด้วย หาเวลาให้กับตัวเองบ้างโดยไม่ต้องรู้สึกผิดแต่อย่างใดนะคะ
6) รู้สึกผิดที่ยังเป็นแม่ที่ดีไม่พอ
บททดสอบความเป็นแม่ไม่ใช่เกิดขึ้นแค่เพียงระยะสั้น ๆ นะคะ แต่มีไปถึงระยะยาวหรือจนตลอดชีวิตก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการเลี้ยงลูกในคู่มือหรือในเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่แนะนำมา อาจไม่ตรงกับตัวเอง จนทำให้คุณแม่รู้สึกเฟล์ เป๋ เพราะกลัวว่าจะไม่เลี้ยงลูกไม่ถูกทางเหมือนกับที่อ่านมาหรือมีผู้เชี่ยวชาญแนะนำ ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณแม่จะเป็นแม่ที่ดีไม่พอ สอนลูกไม่ดี ไม่ตรงตำรา เพราะความจริงแล้ว บทเรียนการเลี้ยงลูกไม่มีอะไรตายตัวและเป๊ะแน่นอน คุณแม่สามารถอ่านเพื่อเป็นแนวทางแล้วนำมาปรับใช้กับลูกในแบบฉบับของตัวเอง โดยไม่จำเป็นต้องคาดหวัง และปล่อยวางความรู้สึกผิดเรื่องการเลี้ยงลูกไม่ดี ที่จะทำให้เป็นคุณแม่เครียดจนเลี้ยงลูกแบบไม่มีความสุข เพราะความจริงในชีวิตคือไม่มีแม่คนไหนสมบูรณ์แบบไปทุกคนหรอก แต่คุณจะเป็นแม่ที่ดีที่สุดในสายตาลูก
บทความอื่นที่น่าสนใจ :
8 เหตุผลดีๆ ที่ช่วยแม่ “ไม่รู้สึกผิด” เมื่อต้องกลับไปทำงานหลังคลอด
5 เรื่องจริงเมื่อเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวแล้วต้องรับมือให้ไหว
ซึมเศร้าหลังคลอด 100 สิ่งที่คุณแม่หลังคลอดต้องรู้ ตอนที่ 86
ที่มา : breastfeedingthai