5 อาหารบํารุงสมองลูกรักตั้งแต่อยู่ในครรภ์

ขอแนะนำอาหารบํารุงสมองลูกในครรภ์ เพราะการเจริญเติบโตของเด็กเริ่มตั้งแต่ในท้อง การบำรุงจึงต้องเริ่มตั้งแต่ตั้งครรภ์

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ว้าว! 5 สุดยอดสารอาหารบํารุงสมองลูกรัก ตั้งแต่อยู่ในครรภ์

ว้าว! 5 สุดยอดสารอาหารบํารุงสมองลูกรัก ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ขอแนะนำอาหารบํารุงสมองลูกในครรภ์ เพราะการเจริญเติบโตของเด็กเริ่มตั้งแต่ในท้อง

อาหารบำรุงสมองสำหรับลูกในท้อง

มาดูกันค่ะว่า อาหารบำรุงสมองสำหรับลูกในท้อง ที่แม่ท้องควรหามาทานมีอะไรบ้าง

1. วิตามินสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

วิตามินD หาได้จากไหน

Prenatal Vitamin หรือ วิตามินสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ จะทำให้ลูกน้อยในครรภ์ของคุณได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างครบถ้วน โดยกรดโฟลิคและวิตามินบี 12 จะช่วยเสริมสร้างเซลส์เม็ดเลือดแดง วิตามินดีช่วยเรื่องการสร้างกระดูก และที่ขาดไม่ได้คือซิงค์ หรือ สังกะสีสำหรับการเสริมสร้างพัฒนาการสมอง ทั้งนี้ อย่าลืมปรึกษาแพทย์ก่อนจะทานด้วยนะคะ

วิตามินสำหรับคนท้องที่สำคัญในช่วงตั้งครรภ์สามเดือนแรกอย่าง วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 และ วิตามินบี 12 ความสำคัญต่อการพัฒนาสมองของทารกในครรภ์และร่างกายของคุณแม่เองด้วย คุณแม่จึงไม่ควรละเลยที่จะดูแลอาหารในแต่ละมื้อ ให้ได้รับสารอาหารที่จำเป็นเหล่านี้อย่างครบถ้วน เพื่อสมองเจ้าตัวน้อยได้พัฒนาอย่างเต็มที่

ช่วงตั้งครรภ์ 1-2 เดือนแรกนี้ รูปร่างคุณแม่ยังไม่เปลี่ยนแปลง น้ำหนักตัวยังไม่ขึ้น บางรายอาการแพ้ท้องอาจทำให้น้ำหนักตัวลดลงไปบ้างได้ เพราะพอแพ้ท้อง ก็จะทานอาหารได้น้อยลง แถมยังรู้สึกเหนื่อยง่าย ช่วงนี้จะทานอะไรไม่ค่อยอร่อย เพราะจะรู้สึกขมคอไปหมด ทำให้คุณแม่บางท่านอาจกังวลว่าได้รับสารอาหารไม่ครบถ้วนและจะส่งผลต่อพัฒนาการของลูกน้อยได้ซึ่งคุณแม่อาจดื่มนมบำรุงครรภ์เพื่อช่วยเพิ่มสารอาหารที่ควรได้รับอย่างเช่น วิตามินบี 2 วิตามินบี 6 และ วิตามินบี 12 ให้ครบถ้วนยิ่งขึ้น เป็นต้น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
2. กรดไขมันโอเมก้า จากปลา

วิต ามินDหาได้จากไหน

ปลานั้นอุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3 (omega-3 fatty acids) ซึ่งช่วยในเรื่องการกระตุ้นพลังสมอง ผลการศึกษาจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดพบว่า ยิ่งคุณแม่ทานปลามากในช่วงตั้งครรภ์สองไตรมาสแรก ทารกก็จะยิ่งมีพัฒนาการด้านสติปัญญามากขึ้นด้วย (จากการวัดระดับคะแนนด้านสติปัญญาของทารกเมื่ออายุ 6 เดือน) แต่แม้ว่าปลาจะช่วยเรื่องพัฒนาการสมองของลูกรัก แต่ว่าที่คุณแม่ทุกท่านก็ควรระวังไว้ด้วย เพราะอาจมีสารปรอทเจือปนอยู่ในปลาบางชนิดหรือบางตัวเป็นจำนวนมากได้ โดยผู้หญิงที่ตั้งครรภ์อยู่ควรหลีกเลี่ยงการทานปลาฉลาม ปลาฉนาก ปลาอินทรี เนื่องจากปลาเหล่านี้มีสารปรอทเจือปนอยู่มาก และควรเลือกทานปลาหรืออาหารทะเลชนิดอื่น ๆ ที่มีสารปรอทเจือปนน้อย เช่น กุ้ง (ไม่ทานหัว) แซลมอน ปลาดุก แทนจะดีกว่า

3. ผัก ผลไม้ช่วยปกป้องสมองลูก

แร่ธาตุ วิตามินสำหรับเด็ก

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

ผัก ผลไม้ประกอบไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ โดย Elizabeth Somer นักโภชนาการผู้เขียนหนังสือชื่อ Nutrition for a Healthy Pregnancy ได้ให้ข้อมูลว่าสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยป้องกันเนื้อเยื่อสมองของลูก ไม่ให้เสียหายหรือถูกทำลาย ขอแนะนำให้เลือกผักที่มีสีสดใสหรือสีเข้ม เพราะจะยิ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระ ในปริมาณสูง เช่น ผักใบเขียวสีเขียวเข้ม บลูเบอร์รี่ มะละกอ และมะเขือเทศ

4. โยเกิร์ต เนยถั่ว

วิตามินDห าได้จากไหน

โปรตีนจะช่วยเสริมสร้างเซลล์สีและสร้างฮอร์โมนที่ช่วยด้านการเจริญเติบโตของทารก มื้ออาหารที่มีโปรตีนสูงและเหมาะสำหรับคนท้องที่อยากแนะนำ เช่น โยเกิร์ตสำหรับมื้อเช้า (อาจทำเป็นโยเกิร์ตปั่นเพื่อไม่ให้จำเจ) ซุปถั่วสำหรับมื้อเที่ยง ขนมปังทาเนยถั่วเป็นของว่าง และเนื้อวัวไม่ติดมันสำหรับมื้อเย็น

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา
5. ทานอาหารที่มีธาตุเหล็กเยอะ ๆ
ว่าที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรได้รับธาตุเหล็กเพิ่มขึ้น 2 เท่า เพราะธาตุเหล็กจะช่วยเสริมสร้างการทำงานของฮีโมโกลบินในเม็ดเลือดแดง ซึ่งจะช่วยนำออกซิเจนไปให้ทารกในท้องคุณแม่อีกทอดหนึ่ง Elizabeth Somer นักโภชนาการผู้เขียนหนังสือชื่อ Nutrition for a Healthy Pregnancy ได้ให้ข้อมูลว่า ถ้าคุณแม่ขาดธาตุเหล็ก นั่นหมายความว่าทารกก็จะขาดออกซิเจนตามไปด้วย การขาดออกซิเจนของทารกในครรภ์อาจทำให้เด็กมีความเสี่ยงที่จะมีพัฒนาการช้าและมีระดับไอคิวไม่สูงเท่าที่ควรด้วย ว่าที่คุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรปรึกษาแพทย์ในเรื่องนี้ และควรทานอาหารที่ประกอบไปด้วยธาตุเหล็กสูง เช่น เนื้อวัวไม่ติดมัน เนื้อไก่ และซีเรียลเสริมวิตามิน เป็นต้น

เมนูอาหารบำรุงครรภ์สำหรับคุณแม่ที่มีอาการแพ้ท้อง

แร่ธาตุ วิตามินสำหรับเด็ก

ตัวอย่างเมนูอาหารสำหรับคนท้องใน 1 วัน ที่มีอาการแพ้ท้องและกินอาหารได้น้อย เพื่อร่างกายของคุณแม่และทารกในครรภ์

มื้อเช้า :  ข้าวต้ม หมูหยอง  ผลไม้ เช่น กล้วย มะละกอสุก นมสด

มื้อสาย :  ซาลาเปา น้ำผลไม้คั้นสด

มื้อเที่ยง :  สปาเก็ตตี้ทะเล สลัดผัก ผลไม้ เช่น ส้ม ฝรั่ง

มื้อบ่าย :  แซนด์วิช น้ำผลไม้คั้นสดหรือนม  (หากดื่มนมได้)

มื้อเย็น :  ข้าวกล้อง ผัดผัก แกงจืดผักรวม มะละกอ

มื้อค่ำ :  นมสด ขนมปังปิ้งทาแยม

ก่อนเข้านอน :  ควรกินขนมปังจืดหรือขนมปังกรอบธัญพืชสัก 1-2 ชิ้น เพื่อไม่ให้ท้องว่างนานเกินไป หรือเครื่องดื่มอุ่นๆ ก่อนนอนจะทำให้หลับสบาย และควรเตรียมแครกเกอร์และน้ำไว้ ใกล้ๆ เตียงด้วย เพื่อตอนเช้าตื่นขึ้นมา จะได้ดื่มและกินแครกเกอร์ก่อนลุกจากเตียงไปทำกิจวัตรประจำวัน เพราะหากลุกตอนท้องว่างจะทำให้คุณแม่วิงเวียนได้

The Asianparent Thailand

Loading...
You got lucky! We have no ad to show to you!
ติดต่อโฆษณา

เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น The Asianparent ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว 

การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก The Asianparent เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง

เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”

ที่มา : 1
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team