1. เรอ หรือ ผายลม ออกมา เสียงดัง
ขณะที่ ลูกน้อย เจริญ เติบโต อยู่ใน ครรภ์ อวัยวะ ภายใน ของ คุณแม่ จะ เคลื่อนที่ รวมทั้งระบบ ย่อยอาหาร ก็ จะ แปรปรวน ด้วย คุณแม่ จึงมี อันต้อง เผลอ ผายลม หรือ เรอ กลิ่นเหม็น ออกมา โดย ไม่ ตั้งใจ ทำให้ คุณแม่ ท้อง ต้องอายอยู่บ่อยๆ แต่ไม่เป็นไรค่ะ เรามีวิธีช่วยให้คุณแม่เรอหรือผายลมลดลง ได้แก่ การรับประทานอาหารเป็นมื้อเล็กๆ หลายมื้อ การเคี้ยวอาหารให้ละเอียดขึ้น หลีกเลี่ยงน้ำอัดลมหรือหมากฝรั่ง และอย่าสวมใส่เสื้อผ้าที่รัดจนเกินไปค่ะ
2. เหงื่อออกมาก
คุณแม่ท้องจะหายใจเร็วขึ้น เหนื่อยง่าย และขี้ร้อนค่ะ ดังนั้นจึงมีเหงื่อออกมาก เพียงแค่การเดินขึ้นลงบันไดไม่กี่ขั้นก็ทำให้เหนื่อยหอบ ยิ่งถ้าต้องออกไปเดินซื้อของข้างนอกบ้าน กลับมาเป็นต้องเหงื่อชุ่มทุกที พอมีเหงื่อก็ทำให้มีกลิ่นตัวตามมา แถมเหงื่อยังทำให้คุณแม่บางคนมีสิวผื่นขึ้นตามใบหน้าและลำตัวด้วยค่ะ
3. ขนดกขึ้น
ฮอร์โมนที่แปรปรวนระหว่างตั้งครรภ์ส่งผลให้คุณแม่บางคนมีขนขึ้นดกตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เช่น แขน ขา และใบหน้า ทำเอาคุณแม่ท้องหมดความมั่นใจได้ง่ายๆ
4. จุดซ่อนเร้นมีกลิ่นแรงขึ้น
ระหว่างตั้งครรภ์คุณแม่บางคนอาจได้กลิ่นจากบริเวณจุดซ่อนเร้นของตัวเองแรงขึ้น แต่อย่าเพิ่งตกใจไปค่ะ ช่วงที่ตั้งครรภ์ประสาทสัมผัสรับกลิ่นของคุณแม่จะทำงานดีขึ้น ทำให้ได้กลิ่นต่างๆ รุนแรงมากกว่าปกติ ดังนั้นคุณแม่ไม่ต้องกังวลใจไปค่ะ แต่หากคุณแม่ได้กลิ่นฉุนหรือกลิ่นคาวขึ้นมาก็ควรปรึกษาแพทย์นะคะ เพราะอาจเกิดจากการติดเชื้อได้ค่ะ
5. กลั้นปัสสาวะไม่อยู่
คุณแม่ท้องคงผ่านประสบการณ์เรื่องนี้กันมาแล้ว เวลาที่จาม ไอ หรือหัวเราะออกมาดังๆ เมื่อไหร่ ก็มักจะมีปัสสาวะเล็ดออกมาทุกครั้ง ช่างเป็นเรื่องที่น่าอายจริงๆ เลยค่ะ ถ้าหากอาการนี้ทำให้คุณแม่ไม่สบายใจ สามารถใส่แผ่นอนามัยกันไว้ หรือปรึกษาสูตินรีแพทย์ต่อไปค่ะ
6. น้ำนมไหลเปรอะเปื้อนเสื้อผ้า
การให้นมลูกเป็นประสบการณ์อันแสนวิเศษค่ะ แต่คุณแม่ตั้งครรภ์บางคนยังไม่ทันจะคลอดด้วยซ้ำ แต่กลับมีน้ำนมไหลออกมาเปรอะเปื้อนเสื้อผ้า ยิ่งแม่ท้องบางคนยังทำงานอยู่ หากน้ำนมไหลออกมาเลอะเสื้อขณะที่ประชุมอยู่กับลูกค้าคงไม่ดีแน่ คุณแม่สามารถป้องกันได้โดยสำรองแผ่นซับน้ำนมไว้ในกระเป๋ายามฉุกเฉินนะคะ
7. คันบริเวณจุดซ่อนเร้น
แม่ท้องบางคนจะพบปัญหาอาการคันบริเวณจุดซ่อนเร้น คุณแม่อย่าเพิ่งตกใจค่ะ เพราะอาจเกิดจากเชื้อราในช่องคลอด ทั้งนี้เนื่องจากฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลงช่วงตั้งครรภ์ ทำให้ผิวหนังบริเวณจุดซ่อนเร้นบอบบางลง จึงมีโอกาสติดเชื้อราได้มากขึ้น แต่อาการนี้ไม่ได้เป็นอันตรายต่อทารกแต่อย่างใด รวมทั้งยังรักษาให้หายได้ เพียงคุณแม่รีบปรึกษาแพทย์ค่ะ
8. อารมณ์แปรปรวน
ช่วงตั้งครรภ์คุณแม่ต้องเผชิญกับความเครียดและฮอร์โมนที่แปรปรวนพร้อมๆ กัน ทำให้อารมณ์เสียและหงุดหงิดง่าย อาหารก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยปรับสมดุลให้กับร่างกายของคุณแม่ท้อง คุณแม่ควรกินอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เช่น ถั่วแดงต้ม หมูผัดพริกหวาน ตับผัดกะเพรา ออกกำลังกายเบาๆ นอนพักผ่อนมากๆ และหากิจกรรมที่ชอบทำ เช่น การฟังเพลง หรือการอยู่กับธรรมชาติค่ะ
9. คันบริเวณหน้าอกและหัวนม
เมื่อเต้านมขยายใหญ่ขึ้น คุณแม่ก็มักจะเกิดอาการคันบริเวณหน้าอกและหัวนมค่ะ และอาจทำให้เสียบุคลิกได้ ดังนั้นอย่าลืมทาครีมบำรุงบริเวณหน้าอกให้ทั่วนะคะ
อาการต่างๆ ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่น่าอาย แต่คุณแม่ก็ไม่ควรเก็บไว้กลุ้มใจเพียงคนเดียว เพราะอาการเหล่านี้คุณแม่คนอื่นก็เป็นกันค่ะ ถ้าหากอาการรุนแรงและรู้สึกว่าทำให้กวนใจ คุณแม่อย่าอายที่จะปรึกษาแพทย์และผู้เชี่ยวชาญนะคะ มีผู้เชี่ยวชาญพร้อมจะให้ความช่วยเหลือคุณแม่ตั้งครรภ์ เพื่อให้เป็นการตั้งครรภ์ที่มีคุณภาพ ลูกรักที่คลอดออกมาจะได้เป็นเด็กที่มีสุขภาพจิตที่ดีและร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ค่ะ
