เด็กยุคใหม่ต้องก้าวล้ำทั้งความคิดและอารมณ์
1) 1,365 วันแรกห้ามพลาด เพื่อพัฒนาการสมอง
ทารกตัวน้อยคลอดออกมาสัมผัสโลกกว้างพร้อมกับพกพาจำนวนเซลล์สมองนับแสนล้านเซลล์ติดตัวมาด้วย เซลล์สมองเหล่านั้นถูกเชื่อมโยงกันเป็นเครือข่ายอันซับซ้อน แถมยังเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โดยสมองของลูกจะพัฒนาถึง 80% ใน 1,365 วันแรก เซลล์สมองจะเชื่อมต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมาจาก 2 ส่วนสำคัญคือ เรื่องโภชนาการ เช่น นม อาหาร และการเลี้ยงดู ซึ่งการเชื่อมต่อของเซลล์สมองที่ดีจะส่งผลให้ลูกมีความสามารถในการเรียนรู้ จดจำ ใช้ภาษา คิดวิเคราะห์ ฉะนั้น คุณพ่อคุณแม่อย่าปล่อยให้ช่วงโอกาสทองนี้หลุดลอยไปนะคะ
2) สร้างสมอง…ผ่านเสียงหัวเราะ
การหัวเราะช่วยพัฒนาทักษะทางสติปัญญา และอารมณ์ เพราะขณะที่เจ้าตัวเล็กกำลังเพลิดเพลิน ส่งเสียงหัวเราะคิกคักกับสิ่งเร้าตรงหน้า สมองก็กำลังเชื่อมต่อเซลล์ประสาทเข้าด้วยกัน และกระตุ้นเซลล์ประสาทส่วนพรีฟรอนทอลคอร์เทกซ์ (prefrontal cortex) ให้หลั่งฮอร์โมนเอ็นโดรฟิน (endorphin) ซึ่งมีฤทธิ์ทำให้เกิดความสุข เกิดการประมวลผลความคิดในเชิงบวก สร้างสรรค์ และยังส่งผลดีในด้านพัฒนาการทางอารมณ์ การกระตุ้นให้ลูกหัวเราะนั้นไม่ยากเลย และสามารถทำได้กับเด็กตั้งแต่แรกเกิด โดยอาจจะทำหน้าตาท่าทาง ส่งเสียงตลกๆ
3) ใส่ใจ..เมื่อหนูน้อยชอบเลียนแบบ
ธรรมชาติได้สร้างเซลล์สมอง Mirror Neuron ที่สามารถตอบสนองพฤติกรรมต่างๆ จากการสังเกตและลอกเลียนแบบผู้อื่น เรียกกันง่ายๆ ว่า “เซลล์สมองกระจกเงา” เด็กน้อยวัยทารกนั้นยังไม่รู้จักวิธีการสื่อสารหรือแสดงออกทางอารมณ์ เขาจะเรียนรู้และเลียนแบบพฤติกรรมของบุคคลรอบข้างที่พบเห็นในชีวิตประจำวัน คุณแม่จะเห็นว่าลูกน้อยวัย 6 เดือน จะเริ่มรู้จักการเลียนแบบ ซึ่งนี่เป็น 1 ในวิธีการเรียนรู้ของลูก ถ้าคุณแม่เข้าใจ และส่งเสริมอย่างถูกวิธี จะส่งผลต่อพัฒนาการสมอง และการเรียนรู้ของลูกน้อยในอนาคต ซึ่งล้วนมีผลต่อการแสดงออกทางสังคม และความฉลาดทางอารมณ์ของเด็ก โดยเฉพาะในช่วง 3 ขวบปีแรก เป็นช่วงระยะเวลาสำคัญเพราะสมองจะบันทึกภาพเหล่านั้น และวิเคราะห์ประมวลผลออกมา ถ้าไม่อยากเห็นลูกเป็นเด็กก้าวร้าวก็อย่าใช้อารมณ์แก้ปัญหา อยากให้เขาเป็นเด็กช่างคิด และสนุกกับการเรียนรู้ พ่อแม่ก็ต้องสนุกตื่นเต้นไปกับสิ่งต่างๆ รอบตัว
4) เล่น…เพื่อเรียนรู้
เซลล์สมองจะสามารถเชื่อมต่อกันได้ดี ถ้าหากถูกกระตุ้นจากการใช้ประสาทสัมผัสต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการหยิบจับ สัมผัส ลิ้มรส มองเห็น และการได้ยิน จะช่วยพัฒนาศักยภาพสมอง และนั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เด็กรู้จักต่อยอด คิดพลิกแพลง ของเล่นสำหรับเด็กเล็กวัย 1-3 ขวบ มีเยอะแยะมากมาย แต่ของเล่นที่ดีที่สุดก็คือพ่อแม่ โดยเน้นกิจกรรมที่ส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์กันระหว่างพ่อแม่ลูก และส่งเสริมการคิด ใช้เหตุผล และรู้จักแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์
5) MFGM อีกหนึ่งการค้นพบสารอาหารสมอง
หากลูกได้รับโภชนาการที่ดี มีสารอาหารบำรุงสมองครบถ้วน บวกกับการเลี้ยงดูที่เหมาะสมจะส่งผลให้เซลล์สมองเชื่อมต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพ ลูกจะยิ่งเรียนรู้ดีขึ้น ล่าสุดมีงานวิจัยชิ้นสำคัญพิสูจน์แล้วว่า MFGM (Milk Fat Globule Membrane) หรือ เยื่อหุ้มอนุภาคไขมันในนม คือสารอาหารตัวใหม่ที่มีส่วนสำคัญช่วยส่งเสริมพัฒนาการของลูกทั้งด้านสติปัญญาและอารมณ์*
MFGM ซึ่งอุดมไปด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิด** เมื่อทำงานร่วมกับ DHA จะช่วยเสริมการเชื่อมต่อเซลล์สมอง*** เด็กจะมีระดับคะแนนสติปัญญาสูงกว่าเด็กที่ได้รับ DHA เพียงอย่างเดียวถึง 4 จุด****
พัฒนาการทางสมองของลูกนั้นเป็นเรื่องอัศจรรย์มาก ถ้าหากพ่อแม่ให้ความสำคัญกับสารอาหาร และกระตุ้นสมองผ่านการเลี้ยงดูที่เหมาะสมจะช่วยให้เด็กประสบความสำเร็จในชีวิต และก้าวไปได้ไกลกว่าในอนาคต
ข้อมูลอ้างอิง
*Based on cognitive scores in infants (Timby N et al. 2014) and behavior regulation in children (Veereman-Wauters G et al. 2012).
** Liao, Y. et al. J. Proteome Res., 2011, 10 (8), pp 3530–3541
*** จากการศึกษาในห้องปฏิบัติการ (in vitro) ที่ 21 วัน โดยใช้องค์ประกอบที่มีใน MFGM (NeuroProof report for Mead Johnson Nutrition).
****Timby N, Domellof E, Hernell O, Lonnerdal B, Magnus Domellof M. Neurodevelopment, nutrition, and growth until 12 mo of age in infants fed a low-energy, low-protein formula supplemented with bovine milk fat globule membranes: a randomized controlled trial. Am J Clin Nutr. 2014;99:860-868.
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!