20 เรื่องเกี่ยวกับ “ช่องคลอด” ที่คนเป็นแม่และผู้หญิงหลายคนอาจไม่รู้

20 เรื่องเกี่ยวกับ “ช่องคลอด” ที่อยากให้เพศแม่ทุกคนได้รู้

#1 ร่างกายจะสร้างช่องคลอดขึ้นสี่เดือนก่อนหน้าที่จะออกมาลืมตาดูโลก ทารกในครรภ์ทุกคนจะมีเนื้อเยื่ออวัยวะเพศ ซึ่งต่อมาจะพัฒนาขึ้นจนกลายเป็นอวัยวะเพศหญิงหรือเพศชาย เมื่อมีอายุครรภ์ได้ 10 สัปดาห์ ถ้าหากว่าดีเอ็นเอระบุว่าเป็นทารกเพศชาย ร่างกายก็จะเริ่มสร้างองคชาตและลูกอัณฑะขึ้นมา แต่ถ้าเป็นทารกเพศหญิง ช่องคลอดก็จะเริ่มต้นเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเช่นกัน

#2 ผู้หญิงจำนวนมากเข้าใจว่า ช่องคลอด หมายถึงอวัยวะสืบพันธุ์ แต่จริง ๆ แล้ว ช่องคลอด คือส่วนหนึ่งของอวัยวะสืบพันธุ์เท่านั้น เช่นเดียวกัน ปุ่มคลิตอริส แคมนอกและท่อปัสสาวะ ที่แม้จะอยู่ห่างกันเพียงแค่ประมาณหนึ่งนิ้ว แต่ทั้งหมดก็คืออวัยวะคนละส่วนกัน

20 เรื่องเกี่ยวกับ ช่องคลอด ที่อยากให้เพศแม่ทุกคนได้รู้

เรื่อง “ช่องคลอด” ที่อยากให้เพศแม่ทุกคนได้รู้

#3 ช่องคลอดคืออวัยวะที่มีลักษณะเป็นท่อ เป็นกล้ามเนื้อ และมีความชุ่มชื้น จุดเริ่มต้นคือจากบริเวณแคมในยื่นลงมาในอุ้งเชิงกรานเป็นระยะประมาณสามนิ้ว และส่วนปลายที่อยู่ปากมดลูก หน้าที่ของช่องคลอดคือ เป็นช่องที่ให้ความสุขทางเพศ เป็นช่องทางที่เลือดประจำเดือนไหลออก และเป็นช่องทางให้กำเนิดทารก

#4 อย่าเข้าใจว่าเยื่อพรหมจารีมีได้ในเพศหญิงทุกคน ถ้าหากตอนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกไม่มีเลือดออก ก็เป็นไปได้ว่าเยื่อพรหมจารีอาจขาดตอนเล่นกีฬาหรือตอนใช้ผ้าอนามัยแบบสอด หรือไม่อย่างนั้นก็อาจแปลว่าเกิดมาโดยไม่มีเยื่อพรหมจารีก็เป็นได้ และที่เป็นไปได้อีกเรื่องหนึ่งคือ ผู้หญิงบางคนอาจมีเยื่อพรหมจารีหนามากจนต้องผ่าตัดออกถึงจะสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้

#5 การมีเพศสัมพันธ์ส่งผลดีต่อช่องคลอด ไม่ว่าจะเป็นการช่วยตัวเองหรือมีเซ็กส์กับคู่รัก การมีเพศสัมพันธ์จะช่วยทำให้ได้เกร็งกล้ามเนื้อบริเวณช่องคลอดจะช่วยให้กล้ามเนื้อแข็งแรงและช่องคลอดมีสุขภาพดี นอกจากนี้การที่ได้ถูกกระตุ้นแล้วเกิดอารมณ์ ช่องคลอดจะได้รับการหล่อลื่น ทำให้เกิดความชุ่มชื้นและไม่รู้สึกระคายเคืองได้ง่าย

เรื่อง “ช่องคลอด” ที่อยากให้เพศแม่ทุกคนได้รู้

#6 เวลาที่ถูกกระตุ้นมีอารมณ์ทางเพศ ผนังช่องคลอดจะรู้สึกร้อนและมีน้ำหล่อลื่นไหลออกมา ผู้หญิงบางคนอาจมีน้ำหล่อลื่นมากจนถึงกับเปียกแฉะ แต่บางคนก็อาจมีน้อยหรือเพียงรู้สึกชื้น ๆ เท่านั้น

#7 บริเวณช่องคลอดจะมีแบคทีเรียอยู่เป็นจำนวนมาก มีด้วยกันประมาณ 15 ชนิดที่อาศัยอยู่ในช่องคลอด ซึ่งแบคทีเรียนี้ถือว่ามีประโยชน์เพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายติดเชื้อ ช่วยทำให้ช่องคลอดมีสภาวะเป็นกรด ที่จะทำให้แบคทีเรียที่เป็นอันตรายไม่สามารถเจริญเติบโตได้

#8 จุด “จีสปอต” คือปุ่มกระสันที่อยู่ลึกเข้าไปข้างในช่องคลอดประมาณหนึ่งนิ้ว หากอยากรู้ว่าจุดนี้อยู่ตรงไหนให้ลองใช้นิ้วมือล้วงเข้าไปจนเจอก้อนเนื้อเล็ก ๆ ขนาดเท่ากับเหรียญสลึง ลักษณะตะปุ่มตะป่ำ เมื่อจุดนี้ถูกแตะจนรู้สึกว่าถูกกระตุ้นเต็มที่ จะทำให้เกิดความรู้สึกกระสันที่อาจทำให้ร่างกายสะท้านไปทั้งตัว หรือคือการถึงออกัสซั่มได้นั้นเอง

#9 สองด้านของอวัยวะเพศหญิงอาจไม่เท่ากัน เหมือนกับเต้านมที่ข้างหนึ่งอาจใหญ่กว่าอีกข้าง ขนาดไม่เท่ากันนี้เป็นเรื่องปกติที่ไม่มีผลต่อสุขภาพและความสุขทางเพศที่เกิดขึ้นได้

เรื่องเกี่ยวกับ ช่องคลอด ที่อยากให้เพศแม่ทุกคนได้รู้

เรื่อง ที่ อยาก ให้ เพศ แม่ ทุก คน ได้ รู้

#10 แม่ที่คลอดลูกหลายคนอาจใช้ศัลยกรรมปรับแต่งขนาดของช่องคลอดให้แคบและกระชับขึ้นได้ เหมาะสำหรับคุณแม่ที่ช่องคลอดหลวมมาก และมีค่าใช้จ่ายที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน

#11 ช่องคลอดก็ต้องการได้รับอากาศที่บริสุทธิ์เหมือนอวัยวะส่วนอื่น ๆ การใส่กางเกงยีนส์ที่คับเกินไปหรือใช้ชุดชั้นในที่ทำจากใยสังเคราะห์ทำให้อากาศภายในถ่ายเทไม่ได้ เกิดเหงื่อไคลตลอดจนมูกต่าง ๆ จะอบอยู่ ทำให้ติดเชื้อหรือเกิดเชื้อราได้ง่าย

#12 การมีเสียงคล้ายเสียงผายลมระหว่างมีเพศสัมพันธ์ เกิดขึ้นได้จากสอดใส่อวัยวะเพศชายเข้าไปจนสุดแล้วชักออก อาจทำให้มีอากาศตกค้างอยู่ในช่องคลอด เมื่ออากาศเคลื่อนตัวออกมาจากช่องคลอด จึงทำให้มีเสียงเกิดขึ้น อย่าได้เขินอายไปนะคะ

#13 อาการคันภายในช่องคลอด เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น สวมใส่กางเกงที่คับเกินไป มีเหงื่อออก อับชื้น หากมีอาการคันขั้นรุนแรงและคันอยู่นานเกินกว่าหนึ่งวัน อาจเกิดจากติดเชื้อรา หรือเชื้อโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ควรไปพบแพทย์โดยทันที

การสังเกตมูกจากช่องคลอด

#14 ในช่วงที่ไข่ตก ระดับฮอร์โมนในร่างกายจะเพิ่มสูงขึ้น เป็นสาเหตุให้ร่างกายสร้างมูกจากช่องคลอด ที่อาจมีปริมาณมากถึงวันละ 1-2 ช้อนชา มูกจากช่องคลอดนี้จะเริ่มต้นจากบริเวณคอมดลูก เคลื่อนลงมาตามช่องคลอด และจะกวาดเซลล์ที่ตายแล้วออกมาด้วย ซึ่งเป็นกระบวนการช่องคลอดทำความสะอาดตัวเอง และช่วงเวลาอื่นที่ไม่ได้อยู่ในช่วงไข่ มูกจากช่องคลอดจะมีปริมาณลดลงเหลือเพียงวันละประมาณครึ่งช้อนชาเท่านั้น

Read : สังเกต มูกจากช่องคลอด บอกวันไข่ตกได้

#15 ช่องคลอดจะมีเส้นผ่าศูนย์กลางน้อยกว่าหนึ่งนิ้ว แต่เมื่อถึงเวลาคลอดลูก ช่องคลอดจะสามารถยืดขยายใหญ่ขึ้นกว่าเดิมจนเส้นผ่าศูนย์กลางอาจมีขนาดตั้งแต่ 4-5 นิ้ว เพื่อให้มีขนาดใหญ่พอที่ทารกจะคลอดออกมาได้ และหลังคลอดประมาณ 6 สัปดาห์ ช่องคลอดก็จะหดตัวกลับ

#16 เมื่อได้รับการกระตุ้นเร้ามากจากการมีเพศสัมพันธ์ ช่องคลอดก็จะมีขนาดใหญ่ขึ้นตามไปด้วย และสามารถรองรับอวัยวะเพศชายขนาดไหนก็ได้ อาจกล่าวได้ว่า ผนังช่องคลอดมีลักษณะเหมือนกระโปรงพลีท ที่สามารถยืดตัวออกไปได้สองหรือสามนิ้ว และความยาวของช่องคลอดก็อาจยืดออกได้ถึงประมาณ 6 นิ้ว ถ้าคนรักหรือสามีไม่ได้มีอวัยวะใหญ่จนเกินขนาด ช่องคลอดของคุณก็น่าจะเอาอยู่

#17 การทำความสะอาดบริเวณปากช่องคลอดนั้นไม่ควรใช้สบู่ หลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ที่มีกลิ่นหอม เพราะถ้าหากผิวเนื้อบริเวณช่องคลอดสัมผัสเข้ากับสารเคมีบางอย่าง อาจทำให้เกิดการระคายเคืองและอาการคันได้ ดังนั้นควรใช้น้ำเปล่าทำความสะอาด และควรเลือกใช้กระดาษชำระที่มีสีขาวดีที่สุด

#18 เป็นไปได้ว่าเด็กผู้หญิงที่เกิดมาทุก 4,000-5,000 คน จะมีหนึ่งคนที่อาจเกิดมาโดยไม่มีช่องคลอด ซึ่งก็อาจจะไม่มีมดลูกด้วย แต่เมื่อได้รับการผ่าตัดสร้างช่องคลอดก็สามารถที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้เหมือนกับผู้หญิงปกติ

Read : ชีวิตทรหดของหญิงแกร่ง ไร้มดลูกและช่องคลอด

#19 การฝึกขมิบกล้ามเนื้อบริเวณช่องคลอดบ่อย ๆ นานประมาณแค่สองหรือสามเดือน นอกจากจะเป็นวิธีที่ช่วยให้ช่องคลอดกลับมากระชับได้หลังคลอดแล้ว ยังช่วยรักษาช่องคลอดให้มีสุขภาพดีได้ และจะทำให้มีความสุขเพิ่มขึ้นในเวลามีเพศสัมพันธ์ (อีกครั้ง) ด้วย

Read : 7 วิธีฝึกขมิบช่องคลอดให้กระชับหลังคลอด

#20 ช่องคลอดมีกลิ่นเล็กน้อยเป็นเรื่องปกติของช่องคลอดที่มีสุขภาพดี ทั้งนี้จะได้กลิ่นแบบไหนขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น อาหารที่รับประทาน สารเคมีในร่างกาย หรือในช่วงของรอบประจำเดือน และของบางอย่างก็อาจทำให้กลิ่นของช่องคลอดแรงขึ้นได้ เช่น การกินกระเทียม หน่อไม้ฝรั่ง การมีเหงื่ออกเยอะ หรือกลิ่นน้ำอสุจิของผู้ชายเมื่อมาผสมกับสารคัดหลั่งจากร่างกาย เป็นต้น

Credit content : เพจหน้าใสไร้สิวผิวดี by Morn

บทความอื่นที่น่าสนใจ :

10 เรื่อง ที่ช่องคลอดของคุณเเม่อยากจะบอก เกี่ยวกับการคลอดลูก

ข้อห้าม 7 อย่างที่คุณไม่ควรทำกับช่องคลอด

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!