TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

15 เรื่องแปลกที่คุณไม่เคยรู้ จนกว่าจะมีลูก

21 Sep, 2015

เวลาที่เราพูดเรื่องลูก หรือเล่าเรื่องตอนที่เราท้อง ให้กับเพื่อนๆ ฟัง เคยไหมคะที่เพื่อนของคุณมักไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่คุณพูด หรือไม่รู้สึกมีอารมณ์ร่วมด้วยซักเท่าไหร่ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรค่ะ เพราะเรื่องบางเรื่องลูก เรื่องท้องต้องพูดให้คนที่เป็นพ่อแม่เหมือนกันเท่านั้นถึงจะเข้าใจ ไม่เชื่อลองดู 15 เรื่องแปลกที่คุณไม่เคยรู้ จนกว่าคุณจะมีลูก ที่นำมาฝากกันค่ะ

ต้องมีลูกก่อนถึงจะรู้

ต้องมีลูกก่อนถึงจะรู้

เวลาที่เราพูดเรื่องลูก หรือเล่าเรื่องตอนที่เราท้องให้กับเพื่อนๆ ฟัง เคยไหมคะที่เพื่อนของคุณมักไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่คุณพูด หรือไม่รู้สึกมีอารมณ์ร่วมด้วยซักเท่าไหร่ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไรค่ะ เพราะเรื่องบางเรื่อง อย่างเรื่องลูก หรือเรื่องท้องต้องพูดให้คนที่เป็นพ่อแม่เหมือนกันเท่านั้นถึงจะเข้าใจ ไม่เชื่อลองดู 15 เรื่องแปลกที่คุณไม่เคยรู้ จนกว่าจะมีลูก ที่นำมาฝากกันค่ะ
1.กระตุ้นให้เกิดการคลอดเมื่อใกล้ครบกำหนดคลอด

1.กระตุ้นให้เกิดการคลอดเมื่อใกล้ครบกำหนดคลอด

ผู้หญิงบางคนตั้งครรภ์ใกล้ครบ 40 สัปดาห์แล้ว แต่ยังไม่มีวี่แววว่าจะคลอดเลย ก็มักจะมีวิธีกระตุ้นให้มดลูกบีบตัวเพื่อให้เกิดการคลอด ไม่ว่าจะเป็นการเต้นตามจังหวะเพลง, การมีเพศสัมพันธ์กับสามี, การทานอาหารรสเผ็ด หรือการฝังเข็ม ฯลฯ และก็มีผู้หญิงท้องบางรายได้รับคำแนะนำจากคุณหมอว่าให้เดินเยอะๆ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเจ็บท้องคลอด
2.	อาการสั่นตอนคลอด

2. อาการสั่นตอนคลอด

มีผู้หญิงหลายคนที่มีประสบการณ์เกี่ยวกับช่วงเวลาของการคลอดที่ไม่สามารถควบคุมอาการสั่นได้ ซึ่งอาการนี้ถือเป็นเรื่องปกติที่เป็นผลมาจากฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนลดลงระหว่างการคลอด ซึ่งฮอร์โมนตัวนี้จะทำหน้าสะสมน้ำในไว้ร่างกาย เมื่อฮอร์โมนลดลงจึงเป็นได้ที่คุณแม่หลังคลอดจะมีอาการหนาวสั่น แต่หลังจาก 1-2 วันก็จะหายเป็นปกติ
3.	อึบนเตียงขณะรอคลอด

3. อึบนเตียงขณะรอคลอด

ช่วงเวลาที่กำลังรอให้ปากมดลูกเปิดเต็มที่ ก็มีบ่อยครั้งที่คุณแม่บางรายมักจะอึลงบนเตียงขณะรอคลอด เพราะอาการปวดท้องคลอดลูก บางทีก็ให้ความรู้สึกว่าเหมือนปวดท้องอึอยากจะถ่าย พอนั่งยองๆ ลงบนเตียงอึก็ออกมาจริงๆ เสียด้วยซิ นั่นถือเหตุผลว่าทำไมจึงต้องสวนอุจจาระให้คุณแม่ก่อนคลอดทุกครั้ง ใครที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการปวดท้องคลอดลูก อาจจะมองไม่ออกว่าจะเป็นไปได้ยังไง อึลงบนเตียง เนี่ยนะ ! เรื่องนี้ถึงจะแปลกแต่ก็จริงนะคะ
4.	แม่บางคนกินรกของตัวเองหลังคลอดลูก

4. แม่บางคนกินรกของตัวเองหลังคลอดลูก

อีกหนึ่งเรื่องแปลกที่คุณแม่คลอดลูกบางรายมักจะกินรกของตัวเอง เพราะมีความเชื่อว่าจะช่วยลดโอกาสในการเกิดภาวะซึมเศร้าหลังคลอด ซึ่งโดยปกติแล้วเราคงไม่กินรกของตัวเองกันใช่ไหมคะ !!
5.	การรีแพร์ช่องคลอด

5. การรีแพร์ช่องคลอด

การคลอดลูกด้วยวิธีธรรมชาติ มักจะทำให้ช่องคลอดฉีกขาด ขยายใหญ่ได้ ผู้หญิงบางคนจึงให้คุณหมอช่วยเย็บช่องคลอดให้กระชับมากขึ้น หรือที่เรียกว่าการทำรีแพร์กระชับช่องคลอด ซึ่งการรีแพร์ช่องคลอด ผู้หญิงส่วนใหญ่เชื่อว่าจะช่วยให้การร่วมรักกับสามีเพิ่มความสุขมากขึ้น
6.	ภาวะน้ำนมมีเลือดปน

6. ภาวะน้ำนมมีเลือดปน

ในคุณแม่บางคนที่หลังจากคลอดลูกแล้วให้ลูกกินนมแม่ทันที อาจพบว่าน้ำนมมีเลือดปนออกมา ซึ่งเรียกว่า Rusty pipe syndrome เป็นภาวะน้ำนมมีเลือดปนอาจเป็นสีสนิม หรือเลือดสดออกหลังจากทารกแรกคลอด ซึ่งภาวะนี้เกิดจากการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มมากขึ้นตรงบริเวณเต้านม สำหรับน้ำนมปนเลือดนี้ไม่มีอะไรให้ต้องกังวล และลูกก็สามารถกินได้ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างไร ภาวะน้ำนมปนเลือดจะจางและหายไปในหนึ่งสัปดาห์แรกหลังคลอด
7.	ความมหัศจรรย์ของน้ำนมแม่

7. ความมหัศจรรย์ของน้ำนมแม่

น้ำนมแม่ไม่ใช่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของลูกน้อยเท่านั้น แต่น้ำนมแม่ยังมีความมหัศจรรย์ในการรักษากลุ่มอาการบางอย่างได้ น้ำนมแม่จะมีกรดลอริคที่มีฤทธิ์ต้านไวรัส แบคทีเรีย ช่วยสมานแผล และมีคุณสมบัติเป็นยาชาอ่อนๆ น้ำนมแม่สามารถใช้รักษาอาการหัวนมแตก รักษาผื่นผ้าอ้อมที่ก้นลูกทาน้ำนมให้ทั่วก้นลูก รอให้น้ำนมแห้งสนิทแล้วค่อยใส่ผ้าอ้อม หรือรักษาหูชั้นนอกอักเสบ ด้วยการหยดน้ำนมแม่ลงไป 2-3 หยด เป็นต้น
8.	ดูดน้ำมูกที่จมูกลูกด้วยปาก

8. ดูดน้ำมูกที่จมูกลูกด้วยปาก

บางครั้งทารกก็มีอาการแน่นจมูกจากน้ำมูกที่คั่งอยู่ภายในโพร่งจมูก แต่จะทำอย่างไรละเพื่อให้ลูกหายใจได้สะดวก พ่อแม่จึงมักที่จะใช้ปากของตัวเองดูดน้ำมูกที่จมูกลูก ด้วยสัญชาตญาณความเป็นพ่อแม่ อะไรที่ทำให้ลูกได้ และลูกจะไม่เจ็บปวดพ่อแม่ยอมทำได้ทุกอย่าง รวมทั้งการดูดน้ำมูกให้ลูกด้วย ใครที่ยังไม่เป็นพ่อแม่อาจเกิดอาการแขยงเล็กๆ แต่เมื่อถึงเวลาที่คุณมีลูกเอง ก็จะทำแบบนี้แหละค่ะหากจำเป็น
9.	จุดอ่อนนิ่มบนศีรษะทารก

9. จุดอ่อนนิ่มบนศีรษะทารก

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไมเด็กแรกเกิดถึงมีรอยบุ๋มบนศีรษะ ที่เป็นเช่นนี้เพราะศีรษะของเด็กยังบางและนิ่มอยู่ คนสมัยก่อนจะเรียกว่า “ขม่อมเด็ก” ดังนั้นในช่วงแรกเกิดจึงไม่ควรให้ศีรษะของลูกได้รับการกระทบกระเทือนเด็ดขาด ที่สำคัญห้ามเขย่าลูก เพราะสามารถทำให้สมองที่อยู่ภายในได้รับอันตรายได้
10.	เด็กใช้ผ้าอ้อมมากถึง 3,360 ชิ้นในขวบปีแรก

10. เด็กใช้ผ้าอ้อมมากถึง 3,360 ชิ้นในขวบปีแรก

ไม่ต้องบรรยายเลยค่ะ ขนาดผ้าอ้อมเด็กยังเยอะขนาดนี้ใน 1 ปีแรก แล้วปริมาณของอุจจาระกับปัสสาวะต่อเด็กหนึ่งคนจะมากขนาดไหน
11.	ลูกทำให้พ่อแม่ตื่นบ่อยในเวลากลางคืน

11. ลูกทำให้พ่อแม่ตื่นบ่อยในเวลากลางคืน

ลูกในวัยแรกเกิดจะใช้เวลาไปกับการนอนถึงวันละ 16-17 ชั่วโมง แต่ระหว่างที่นอนทุก 2-3 ชั่วโมงลูกก็จะร้องตื่นขึ้นมากินนม พอกินอิ่มก็หลับต่อ ไม่เว้นแม้แต่ช่วงนอนกลางคืน ที่ทำเอาพ่อแม่มือใหม่ต้องปรับตัวกันเป็นการยกใหญ่เลยค่ะ
12.	ที่นั่งสำหรับเด็กในห้องน้ำ

12. ที่นั่งสำหรับเด็กในห้องน้ำ

รู้หรือไม่ว่าในบางประเทศเขาจะมีห้องน้ำสาธารณะที่ถูกสร้างขึ้นมาพร้อมที่นั่งสำหรับลูกเล็กๆ ที่ไม่ว่าคุณแม่จะเข้าห้องน้ำนานแค่ไหน ลูกก็ไม่คาดสายตานะคะ ถ้าใครทราบว่าที่เมืองไทยมีที่ไหนบ้าง ส่งข้อมูลมาแชร์กันนะคะ
13.	ใช้สายจูงลูกในที่สาธารณะ

13. ใช้สายจูงลูกในที่สาธารณะ

เดี๋ยวนี้ไม่เฉพาะเมืองนอกเท่านั้นที่พ่อแม่มักจะใช้สายจูงลูกของตัวเองในที่สาธารณะ เพราะพ่อแม่คนไทยก็เริ่มใช้สายจูงลูกกันมากขึ้น ที่พ่อแม่ทำแบบนี้ไม่ใช่พวกเขาคิดว่าลูกเป็นสุนัขแต่อย่างใด ที่พ่อแม่ทำแบบนี้ก็เพื่อความปลอดภัยต่อตัวลูกของพวกเขานั่นเองค่ะ ยิ่งเด็กๆ ที่กำลังอยู่ในวัยเรียนรู้ชอบที่จะวิ่งไปข้างหน้า หรือเวลาที่เห็นอะไรแปลกๆ ถ้าพ่อแม่วิ่งตามไม่ทัน อาจคาดสายตาจากลูก เกิดกรณีเด็กพลัดหลงทางหากันไม่เจอได้ ฉะนั้นเวลาที่คุณเห็นพ่อแม่ใช้สายจูงลูก ก็อย่าไปมองเขาแบบใช้สายตาไม่ดีนะคะ เพราะถ้าคุณมีลูกขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็จะรู้ว่าความปลอดภัยของเด็กนั้นเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก ยิ่งเวลาอยู่ในที่สาธารณะ ลูกคุณอาจหายไป และถูกลักพาตัวได้ค่ะ
14.	คาร์ซีทหมดอายุ

14. คาร์ซีทหมดอายุ

เชื่อว่าถ้าคุณไม่เคยอ่านคู่มือการใช้คาร์ซีทสำหรับลูก อาจไม่รู้ว่าจริงๆ แล้วคาร์ซีทสำหรับเด็กก็มีวันหมดอายุนะคะ โดยปกติจะใช้งานได้อยู่ที่ 5-9 ปี การส่งต่อคาร์ซีทให้พี่น้องใช้กันต่อๆ กัน อาจไม่เป็นผลดีกับเด็กนักค่ะ เพราะคุณภาพการใช้งานก็จะลดลงเรื่อยๆ จนหมดสภาพการใช้งาน
15.	เด็กไม่ยอมฉี่ในห้องน้ำ

15. เด็กไม่ยอมฉี่ในห้องน้ำ

เด็กแต่ละคนก็มีเรื่องแปลกแตกต่างกันไป ยิ่งโดยเฉพาะการเข้าห้องน้ำ ที่บางทีเจ้าหนูก็ไม่ยอมใช้ห้องน้ำ หรือลองหัดนั่งกระโถนเพื่อปัสสาวะ หรืออุจจาระ เพราะติดกับการขับถ่ายใส่ผ้าอ้อมมาตลอด แต่พอถึงช่วงหนึ่งของพัฒนาการคุณพ่อคุณแม่ก็จะมีสารพัดวิธีในการทำให้ลูกยอมเข้าห้องน้ำ ไม่ว่าจะ “ถ้าลูกไม่ฉี่ลงชักโครก ปลาที่กำลังรอน้ำอยู่อาจตายได้นะคะ” ! หรือ พ่อแม่บางคู่ก็ช่วยกันทำห้องน้ำให้เป็นโลกใต้ทะเล เวลาลูกเข้าห้องก็เหมือนได้เจอพี่ปลานีโม เพื่อนรักตัวการ์ตูนสัตว์น้ำต่างๆ วิธีนี้ไม่ใช่แค่สร้างความสุขใจให้ลูก แต่ยังช่วยให้ลูกรักการเข้าห้องน้ำเวลาที่ต้องปัสสาวะ หรืออุจจาระด้วยนะคะ

ที่มา : buzzfeed
ถัดไป
img

บทความโดย

theAsianparent Editorial Team

  • หน้าแรก
  • /
  • ชีวิตครอบครัว
  • /
  • 15 เรื่องแปลกที่คุณไม่เคยรู้ จนกว่าจะมีลูก
แชร์ :
  • 12 วิธี เลี้ยงลูกให้คิดเป็น ในยุคที่ AI ตอบทุกอย่างให้หมด

    12 วิธี เลี้ยงลูกให้คิดเป็น ในยุคที่ AI ตอบทุกอย่างให้หมด

  • 9 วิธี สอนลูกให้มีความพยายาม แนวทางสร้างลูกที่ไม่ยอมแพ้ตั้งแต่วัยเด็ก

    9 วิธี สอนลูกให้มีความพยายาม แนวทางสร้างลูกที่ไม่ยอมแพ้ตั้งแต่วัยเด็ก

  • “ยิ่งพูดลูกยิ่งดื้อ” 7 คำพูดของพ่อแม่ที่ (ไม่รู้ตัวว่า) ทำให้ลูกต่อต้าน และวิธีเปลี่ยนให้เวิร์ก

    “ยิ่งพูดลูกยิ่งดื้อ” 7 คำพูดของพ่อแม่ที่ (ไม่รู้ตัวว่า) ทำให้ลูกต่อต้าน และวิธีเปลี่ยนให้เวิร์ก

  • 12 วิธี เลี้ยงลูกให้คิดเป็น ในยุคที่ AI ตอบทุกอย่างให้หมด

    12 วิธี เลี้ยงลูกให้คิดเป็น ในยุคที่ AI ตอบทุกอย่างให้หมด

  • 9 วิธี สอนลูกให้มีความพยายาม แนวทางสร้างลูกที่ไม่ยอมแพ้ตั้งแต่วัยเด็ก

    9 วิธี สอนลูกให้มีความพยายาม แนวทางสร้างลูกที่ไม่ยอมแพ้ตั้งแต่วัยเด็ก

  • “ยิ่งพูดลูกยิ่งดื้อ” 7 คำพูดของพ่อแม่ที่ (ไม่รู้ตัวว่า) ทำให้ลูกต่อต้าน และวิธีเปลี่ยนให้เวิร์ก

    “ยิ่งพูดลูกยิ่งดื้อ” 7 คำพูดของพ่อแม่ที่ (ไม่รู้ตัวว่า) ทำให้ลูกต่อต้าน และวิธีเปลี่ยนให้เวิร์ก

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว