TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • TAP Awards 2025
  • อยากท้อง
  • แม่ท้อง แม่ให้นม
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการเเม่ท้อง
    • โภชนาการแม่ให้นม
    • ตั้งชื่อลูก
    • พัฒนาการสมอง
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
    • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
    • TAPpedia
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ไลฟ์สไตล์
    • ที่เที่ยว
    • ที่กิน
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • VIP

12 สิ่งสุดเซอร์ไพรส์ ต้องรู้ไว้ มีวันหมดอายุ

8 Jul, 2015

สิ่งของที่เราซื้อส่วนใหญ่จะมีวันหมดอายุระบุไว้บนกล่องหรือฉลากอย่างชัดเจนอยู่เสมอ แต่ถ้าเป็นอาหารหรือของบางอย่างที่ไม่ได้ระบุ “วันหมดอายุ” ไว้ล่ะ เราจะรู้ได้อย่างไรว่า ยังคงทานได้อย่างปลอดภัย หรือใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพดีอยู่หรือเปล่า มาเช็คของใกล้ตัวเหล่านี้ในบ้านคุณกันค่ะว่า ใกล้หมดอายุแล้วหรือยัง

1.	มันฝรั่ง

1. มันฝรั่ง

คุณแม่หลายคนเลือกใช้มันฝรั่งในการทำอาหารให้ลูกๆ แต่ทราบหรือไม่ว่า มันฝรั่งและพืชประเภทไม้เลื้อย เช่น มะเขือเทศ และมะเขือต่างๆ จะมีสารเคมีเป็นพิษทางธรรมชาติชนิดหนึ่งที่เรียกว่า โซลานีน ซึ่งออกฤทธิ์อันตรายต่อร่างกายอย่างรุนแรงและอาจทำให้เสียชีวิตได้ ในมันฝรั่งสารนี้จะอยู่ที่ลำต้น ใบ ตา และเปลือก โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นจุดเขียวๆ ของผลอ่อน และหากเก็บมันฝรั่งไว้ในที่แสงแดดส่องถึง มีอุณหภูมิสูง หรือใกล้กับผักบางชนิดเป็นเวลานาน เช่น หัวหอม จะทำให้ความเข้มข้นของสารนี้เพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ดังนั้น เพื่อคงคุณภาพที่ดีของมันฝรั่งไว้คุณแม่ควรเก็บไว้ในที่เย็นและมืด ไม่ควรเก็บไว้นานเกิน 2-3 เดือน ที่สำคัญไม่ควรซื้อมันฝรั่งที่ยังอ่อน ไม่โตเต็มที่มาปรุงอาหารอีกด้วยนะคะ
2. น้ำยาซักผ้าขาว

2. น้ำยาซักผ้าขาว

เมื่อคุณแม่เปิดใช้ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ ให้เริ่มนับไปอีกประมาณ 3 เดือนเลยค่ะ เพราะประสิทธิภาพในการทำความสะอาดของน้ำยาซักผ้าขาวจะค่อยๆ หมดลง อาจทำให้เสื้อผ้าที่ซักไม่สะอาดเหมือนก่อน ทางที่ดีควรเลือกซื้อในขนาดปริมาณที่พอเหมาะกับครอบครัว เพื่อที่จะได้ใช้ของที่มีคุณภาพอยู่เสมอนะคะ
3.	ครีมกันแดด

3. ครีมกันแดด

ครีมกันแดดส่วนใหญ่จะทรงประสิทธิภาพเต็มที่ประมาณ 3 ปีค่ะ ลองหยิบครีมกันแดดที่บ้านออกมาดูสิว่าใกล้หมดอายุแล้วหรือยัง หากบนบรรจุภัณฑ์ไม่ได้ระบุวันหมดอายุไว้ ก็ให้นับจากวันผลิตดูค่ะ เมื่อเห็นว่าหมดอายุแล้ว อย่าเสียดายเลย ให้ทิ้งไปดีกว่านะคะ
4. ปลั๊กพ่วง หรือปลั๊กสามตา

4. ปลั๊กพ่วง หรือปลั๊กสามตา

ใครจะรู้ว่า ปลั๊กพ่วง หรือที่เราเรียกติดปากกันว่า ปลั๊กสามตา นั้น ก็มีอายุการใช้งานเหมือนกัน เพื่อความปลอดภัยต่อคนในครอบครัวและอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน ไม่ควรใช้งานหนักโดยเสียบหัวปลั๊กพร้อมกันหลายตัว ที่สำคัญควรเปลี่ยนปลั๊กพ่วงใหม่ทุกๆ 2 ปี อ้อ! เวลาเปลี่ยนอันใหม่ อย่าเลือกซื้อเพียงเพราะราคาถูกเท่านั้น ควรดูว่ามีมาตรฐาน มอก. รับรองไว้ด้วยหรือเปล่านะคะ
5. เครื่องเทศ

5. เครื่องเทศ

ของแห้งประเภทเครื่องเทศต่างๆ จะมีอายุประมาณ 2-3 ปีค่ะ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับชนิดของเครื่องเทศ กรรมวิธีในการผลิต และวิธีการเก็บรักษา ซึ่งต้องเก็บในภาชนะที่แห้ง ไม่ชื้น และไม่มีแสงแดดส่องถึง เพราะจะทำให้ขึ้นรา เป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ค่ะ
6. คาร์ซีท

6. คาร์ซีท

ถือเป็นของใช้จำเป็นสำหรับครอบครัวเลยก็ว่าได้ โดยปกติคาร์ซีทจะมีอายุการใช้งานประมาณ 6-10 ปี หลังจากวันผลิต ซึ่งบริษัทผู้ผลิตจะระบุวันที่ไว้ด้านล่างหรือบริเวณใดบริเวณหนึ่ง และเพราะคาร์ซีททำจากวัสดุที่สามารถขยายตัวได้ อายุการใช้งานจึงขึ้นอยู่กับวิธีการใช้ของแต่ละครอบครัวด้วยว่า รถที่ติดตั้งคาร์ซีทต้องจอดตากแดดบ่อยแค่ไหน เพราะอุณหภูมิในรถจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ นี่จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ไม่ควรซื้อคาร์ซีทมือสองมาใช้ เพราะเราจะไม่ทราบประวัติการใช้งานมาก่อน และทุกครั้งที่จะซื้อหรือเปลี่ยนคาร์ซีทใหม่ ควรตรวจสอบรุ่นให้ดี เพราะแต่ละรุ่นจะมีวันผลิตแตกต่างกันนั่นเอง
7. มาสคาร่า

7. มาสคาร่า

ในหลอดมาสคาร่าที่เปิดใช้งานแล้วประมาณ 3 เดือน จะเริ่มมีแบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของโรคตาแดงและตาอักเสบเจริญเติบโตอยู่ คุณแม่อย่าเสียดายเลยค่ะ หากชิ้นไหนที่ซื้อมานานแล้วให้จัดลงถังขยะไปเสีย และเหมาะเจาะที่เวลา 3 เดือนตัวมาสคาร่าเองก็จะเริ่มแห้ง ใช้งานได้ไม่ดีแล้วด้วย แถมบางยี่ห้อก็ไม่ระบุวันหมดอายุให้ทราบอีก ทางที่ดีควรเปลี่ยนมาสคาร่าทุกๆ 2 เดือน และไม่ใช้ร่วมกับผู้อื่นด้วยนะคะ เพียงเท่านี้คุณก็จะรักษาดวงตาให้สวยและปลอดภัยไปตลอดแล้วล่ะค่ะ
8. ฟองน้ำ และใยขัดผิว

8. ฟองน้ำ และใยขัดผิว

รู้ไหมว่า ฟองน้ำและใยขัดผิวที่ผลิตจากใยธรรมชาติต่างๆ จะเริ่มมีเชื้อแบคทีเรียก่อตัวหลังจากใช้งานไปได้ประมาณ 2-3 สัปดาห์ ส่วนใยขัดผิวตาข่ายที่ผลิตจากพลาสติกเชื้อแบคทีเรียจะก่อตัวหลังจากใช้งานไปแล้ว 8 สัปดาห์ ดังนั้น ทุกครั้งที่ใช้ อย่าลืมล้างให้สะอาด และตากให้แห้ง แล้วหมั่นเปลี่ยนชิ้นใหม่อยู่เสมอ เพื่อสุขอนามัยที่ดีของคุณและลูกน้อยนะคะ
9. แบตเตอรี่ หรือถ่าน

9. แบตเตอรี่ หรือถ่าน

ถ่านหรือแบตเตอรี่ก็มีวันหมดอายุนะคะ ทุกครั้งที่ซื้ออย่าลืมดูวันหมดอายุที่ฉลากหรือบรรจุภัณฑ์ก่อนเสมอ และไม่ควรซื้อมากักตุนไว้เป็นจำนวนมาก เพราะถ่านหรือแบตเตอรี่จะค่อยๆ เริ่มเสื่อมคุณภาพไปเรื่อยๆ นับตั้งแต่วันผลิต การเก็บรักษาควรเก็บไว้ในอุณหภูมิห้อง ในที่ที่ไม่อับชื้นค่ะ
10. โลชั่น

10. โลชั่น

โลชั่นและมอยซ์เจอไรเซอร์บำรุงผิวที่บรรจุในขวดหรือหลอดจะสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 2 ปีหลังจากเปิดใช้งานแล้ว เพราะหลังจากนั้นตัวโลชั่นจะเริ่มแห้งและประสิทธิภาพในการบำรุงผิวจะลดลง ส่วนคุณแม่คนไหนที่ชอบใช้โลชั่นบรรจุในกระปุก อาจต้องรีบใช้ให้หมดเร็วหน่อยค่ะ เพราะทุกครั้งที่คุณใช้นิ้วมือตักโลชั่น อาจมีเชื้อแบคทีเรียลงไปเพาะพันธุ์อยู่ในกระปุกแล้วก็เป็นได้ ทางที่ดีควรล้างมือให้สะอาดก่อนทา และจัดการทิ้งไปเสียเมื่อหมดอายุแล้วนะคะ
12. ลิปสติก

12. ลิปสติก

ส่วนคุณแม่ที่มีลิปสติกอยู่หลายแท่งอาจจะเสียดาย และพยายามใช้ให้หมด แต่ทราบมั้ยว่า เมื่อลิปสติกได้สัมผัสกับอากาศข้างนอกแล้ว สี กลิ่น และเนื้อจะเริ่มเปลี่ยนแปลง อาจส่งผลให้ริมฝีปากของคุณดำคล้ำ หรือติดเชื้อได้ ดังนั้น อย่าเสี่ยงค่ะ หากเกินจาก 2 ปีแล้ว ให้เปลี่ยนแท่งใหม่เสีย แล้วคุณจะมีเรียวปากสดสวยอยู่เสมอ แถมได้เปลี่ยนสีสันใหม่ๆ ไปด้วยเลย
11. ยาไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

11. ยาไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์

เมื่อคุณแม่เปิดใช้ยาไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ใส่แผลให้ลูกแล้ว ทราบหรือไม่ว่า ประสิทธิภาพของยาจะหมดลงในอีก1-2 เดือนข้างหน้า ส่วนบ้านไหนที่ซื้อมาเก็บไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ถึงแม้จะยังไม่เคยเปิดใช้เลยก็ตาม หากเลยวันผลิตมาครบ 1 ปี ก็ควรเปลี่ยนขวดใหม่ได้แล้วค่ะ เพราะคุณภาพก็จะไม่ต่างจากน้ำธรรมดาๆ นี่เอง
เคล็ดลับกันลืมวันหมดอายุ

เคล็ดลับกันลืมวันหมดอายุ

ให้คุณเขียนวันที่ซื้อสินค้าตัวใหญ่ๆ ด้วยปากกาเมจิกที่ไม่สามารถลบได้ หรือปริ้นท์บนกระดาษติดลงบนสิ่งของทุกอย่าง โดยเฉพาะอาหารและของกินต่างๆ เพื่อคุณจะได้ทราบวันหมดอายุได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องกังวลแถมไม่ต้องจดจำให้ยุ่งยากอีกด้วย

ภาพประกอบ: Better Homes & Gardens / bhg.com
ถัดไป
img

บทความโดย

อัยย์รดา

  • หน้าแรก
  • /
  • สุขภาพ
  • /
  • 12 สิ่งสุดเซอร์ไพรส์ ต้องรู้ไว้ มีวันหมดอายุ
แชร์ :
  • ยืนหนึ่ง! Propoliz Kid Mouth Spray คว้า Parents' Choice Best Kids Mouth Spray จากเวที theAsianparent Awards 2025
    บทความจากพันธมิตร

    ยืนหนึ่ง! Propoliz Kid Mouth Spray คว้า Parents' Choice Best Kids Mouth Spray จากเวที theAsianparent Awards 2025

  • Infolife สุดยอดนวัตกรรมเพื่อเด็กท้องผูก คว้ารางวัล Most Innovative จาก theAsianparent Awards 2025
    บทความจากพันธมิตร

    Infolife สุดยอดนวัตกรรมเพื่อเด็กท้องผูก คว้ารางวัล Most Innovative จาก theAsianparent Awards 2025

  • หมอเฉลย กินสับปะรดแล้วลิ้นเลือดออก เกิดจากอะไร? แพ้สับปะรดใช่ไหม?

    หมอเฉลย กินสับปะรดแล้วลิ้นเลือดออก เกิดจากอะไร? แพ้สับปะรดใช่ไหม?

  • ยืนหนึ่ง! Propoliz Kid Mouth Spray คว้า Parents' Choice Best Kids Mouth Spray จากเวที theAsianparent Awards 2025
    บทความจากพันธมิตร

    ยืนหนึ่ง! Propoliz Kid Mouth Spray คว้า Parents' Choice Best Kids Mouth Spray จากเวที theAsianparent Awards 2025

  • Infolife สุดยอดนวัตกรรมเพื่อเด็กท้องผูก คว้ารางวัล Most Innovative จาก theAsianparent Awards 2025
    บทความจากพันธมิตร

    Infolife สุดยอดนวัตกรรมเพื่อเด็กท้องผูก คว้ารางวัล Most Innovative จาก theAsianparent Awards 2025

  • หมอเฉลย กินสับปะรดแล้วลิ้นเลือดออก เกิดจากอะไร? แพ้สับปะรดใช่ไหม?

    หมอเฉลย กินสับปะรดแล้วลิ้นเลือดออก เกิดจากอะไร? แพ้สับปะรดใช่ไหม?

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว