เมื่อแม่ ๆ ได้มาเจอกัน ไม่มีอะไรจะมีความสุขเท่ากับได้คุยเรื่องลูก การแลกเปลี่ยนความคิดและ คำถามเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก ของแต่ละคน ทำให้คุณแม่ได้เห็นมุมมองที่แตกต่าง มีเรื่องอะไรที่บรรดาแม่ ๆ ชอบคุยกันบ้างนะ
11 เรื่องฮิตที่แม่มือใหม่เม้าท์บ่อยและ คำถามเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก
#1 เรื่องการให้นมลูก
จัดเป็นเรื่องที่อันดับต้น ๆ ที่แม่ ๆ มักพูดถึงกันเสมอ ตั้งแต่เรื่องให้นมแม่ เอง จนไปถึงวิธีปั๊มนมแม่ ให้นมลูกกี่ออนซ์ดี อาหารบำรุงน้ำนม การให้นมลูกในที่สาธารณะ ระยะเวลาในการให้นมลูกนานเท่าไหร่ ฯลฯ
#2 ให้ลูกเข้าเรียนไหนดี
พอลูกใกล้ถึงวัยเข้าอนุบาล แม่ ๆ ก็มักจะมองหาโรงเรียนแรกที่เหมาะสมสำหรับลูก คำถามที่มักพูดคุยกันบ่อยคือ เลือกโรงเรียนให้ลูกแบบไหนดี เตรียมตัวให้ลูกไปโรงเรียนยังไง เข้าเตรียมอนุบาลก่อนดีไหม เป็นต้น
#3 การฉีดวัคซีนของเบบี๋
เรื่องสุขภาพของลูกเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ ที่คุณแม่ต้องให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการนำลูกไปฉีดวัคซีนหลักให้ครบตามช่วงวัย ส่วนวัคซีนเสริมก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่คุณแม่นำมาเป็นประเด็นพูดคุยว่า ลูก ๆ ได้รับวัคซีนเสริมตัวไหน อะไรยังไงกันบ้าง
Read : ตารางการให้วัคซีนเด็กไทยประจำปี 2560
#4 เจอลูกดื้อ เอาแต่ใจ ก้าวร้าว ทำยังไงดี
จากเบบี๋โตเข้ามาสู่ที่โตขึ้น คุณแม่จะเริ่มเห็นพฤติกรรมลูกบางคนที่อาจจะชอบเอาแต่ใจตัวเอง ดื้อ หรือมีนิสัยก้าวร้าว จมต้องกุมมือปวดขมับ นั้นเป็นเพราะว่าเจ้าตัวเล็กของเราเริ่มที่จะมีความคิดเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น แต่ถ้าคุณแม่เลี้ยงลูกแบบตามใจมากเกินไป อาจเป็นเหตุให้ลูกเสียคนเมื่อโตขึ้นได้ ทำให้ลูกขาดความเข้าใจว่าสังคมภายนอกที่แท้จริงเป็นอย่างไร จึงกลายเรื่องที่บรรดาคุณแม่แลกเปลี่ยนไอเดียวิธีการเลี้ยงลูกอีกหัวข้อหนึ่งเลยค่ะ
Read : เลี้ยงลูกอย่างไรไม่ให้เอาแต่ใจ
แม่ ๆ ชอบเม้าท์เกี่ยวกับการเลี้ยงลูกเรื่องอะไรกันบ้าง อ่านต่อ>>
#5 พาเจ้าตัวเล็กขึ้นเครื่องบิน เดินทางไกล ไหวไหม
อยากจะพาลูกเที่ยว ให้เจ้าตัวเล็กลองได้เครื่องบินดู แต่ก็กังวลว่าลูกจะงอแงบนเครื่องจนรบกวนคนอื่น ลองถามประสบการณ์จากแม่ ๆ ที่เคยพาลูกขึ้นเครื่องบิน หน่อย ว่าเด็ก ๆ โอเคกันไหม แล้วต้องเตรียมตัวยังไงกันบ้าง
#6 ให้ลูกแยกห้องนอนกันตอนไหน
แม่ ๆ แต่ละคนให้ลูกเริ่มแยกห้องนอนกันตอนอายุกี่ขวบค่ะ บางคนให้ลูกนอนร่วมเตียงกันถึงโตเลย มีหลายเหตุผลที่ว่าทำไมลูกถึงยังไม่พร้อมที่จะไปนอนคนเดียว แต่เมื่อถึงวัยที่สมควรการฝึกลูกได้นอนห้องของตัวเองนั้น จะเป็นการฝึกให้ลูกได้รู้จักกับการดูแลรับผิดชอบตัวเองได้ดี และเตรียมความพร้อมสู่วัยเจริญเติบโตขึ้นในอนาคต ไม่ใช่เรื่องยากที่พ่อแม่จะสอนให้ลูกนอนคนเดียวได้เอง
Read : 6 สเต็ปไม่ยาก ฝึกลูกนอนเองยังไงให้สำเร็จ
#7 ลูกกินยาก
ไม่ใช่คุณแม่คนเดียวที่ประสบปัญหานี้หรอกค่ะ ประเด็นปัญหาระดับโลกเลยที่ทำให้คุณแม่กลุ้มใจสำหรับการมีลูกที่กินยาก ป้อนอะไรให้ จัดอะไรให้ก็ไม่กิน แถมเลือกกินอีกต่างหาก ส่งผลให้ลูกตัวเล็ก ไม่สูง จนต้องขอคำแนะนำจากแม่ ๆ ท่านอื่น
Read : ทำยังไงเมื่อลูกกินยาก
#8 วิธีลงโทษลูกแบบไหน หรือใช้ Time in Time out
พ่อแม่ยุคใหม่ไม่นิยมลงโทษด้วยการตี หรือใช้วิธีลงโทษลูกแบบรุนแรงกันแล้วค่ะ วิธีลงโทษลูกดื้อ หรือชอบเอาแต่ใจตัวเองปัจจุบันนี้ผู้ใหญ่หลายครอบครัวมักเลือกใช้การลงโทษด้วยวิธีการให้ลูกนั่งสำนึกผิดด้วยตัวเองเงียบ ๆ โดยให้สงบอยู่นานเป็นนาทีเท่าจำนวนอายุ ที่เรียกว่า Time out แต่ลักษณะลงโทษแบบ Time in จะนุ่มนวลกว่า แต่คุณแม่บางคนก็อาจจะไม่เห็นด้วยเนื่องจากคิดว่า ลูกยังมีวุฒิภาวะไม่พร้อม การปล่อยให้ลูกอยู่คนเดียวเงียบ ๆ อาจทำให้เขารู้สึกโดดเดี่ยวก็เป็นได้
Read : เมื่อไหร่ควรลงโทษลูกแบบ time in หรือ time out
คำถามเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกที่แม่ ๆ ชอบคุยกัน ยังมีต่อ >>
#9 ให้ลูกนั่งคาร์ซีท
คุณแม่หลายคนเลือกใช้คาร์ซีทติดรถที่เสริมความสบายใจในการเดินทางให้ปลอดภัยพร้อมลูกน้อย จากสถิติในสหรัฐอเมริกา การใช้คาร์ซีทอย่างถูกวิธีจะช่วยลดความเสี่ยงในการเสียชีวิตของทารกอายุต่ำกว่า 1 ขวบจากอุบัติเหตุในรถยนต์ได้ถึง 71% และลดความเสี่ยงเสียชีวิตสำหรับเด็ก 1-4 ขวบลดได้ถึง 54% หลายบ้านจึงตัดสินใจเลือกซื้อคาร์ซีทไว้ใช้ ลดความเสี่ยงและมีความปลอดภัยเมื่อพาลูกน้อยเดินทางไปด้วยกัน จะยี่ห้อไหน เลือกแบบไหน เป็นเรื่องที่แม่เขาชอบคุยกันค่ะ
Read : คาร์ซีทแบบไหนดี
#10 ปล่อยให้ลูกร้องจนหลับหรือควรโอ๋เมื่อร้องไห้
เมื่อลูกงอแง คุณแม่มีปล่อยให้ลูกร้องไห้จนเหนื่อยและหลับไปเองกันบ้างไหมคะ ซึ่งบางครั้งคุณแม่จำเป็นต้องแยกแยะและสังเกตให้ออกว่าลูกร้องไห้เพราะสาเหตุอะไร ไม่สบายตัวหรือเอาแต่ใจ ฯลฯ เมื่อแยกเสียงร้องของลูกออก จะทำให้คุณแม่รู้ว่าร้องไห้ด้วยอาการแบบนี้ แม่ไม่ต้องรีบไปดูก็ได้ ในขณะเดียวกันก็เป็นการฝึกวินัยให้ลูกรู้ว่าบางครั้งต้องรอ หรือไม่ได้อะไรในสิ่งต้องการทันที แต่คงไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ปล่อยให้ลูกร้องจนเสียงแหบเสียงแห้งอย่างแน่นอนใช่ไหมคะ
#11 ควรมีลูกห่างกันกี่ปี?
แม่ ๆ มักชอบเม้าท์ว่าจะปล่อยลูกคนที่ 2 นี่ควรมีติด ๆ กันดีหรือเว้นระยะห่างกันกี่ปีดี เป็นเรื่องประสบการณ์ของคุณแม่ลูกสองที่จะมาแนะว่ามีลูกหัวปีท้ายปีกำลังดี เพราะลูกจะได้มีเพื่อนในวัยไล่เลี่ยกัน ให้คุณแม่เหนื่อยทีเดียวไปเลย แต่แม่บางคนก็คิดว่าถ้าจะมีลูกคนที่สอง ควรเว้นระยะห่างกันไปหน่อย เพื่อให้คุณแม่หายเหนื่อยจากลูกคนแรกไปก่อน
เรื่องการเลี้ยงลูกนี่ไม่ได้มีแค่ในตำราหรือค้นหากูเกิ้ลก็จบแล้ว เมื่อแม่ ๆ พบปะกันก็สามารถที่จะแลกเปลี่ยนข้อมูลวิธีดูแลลูกของแต่ละคนกันได้ แต่ก็ต้องเข้าใจว่าการเลี้ยงลูกของแม่แต่ละคนไม่มีถูกผิด และลูกแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน รับฟังเพื่อเป็นแนวทาง และมองมุมการเลี้ยงลูกที่เป็นประโยชน์สำหรับเจ้าตัวเล็ก เพราะไม่มีใครรู้จักธรรมชาติของลูกได้ดีเท่าคนเป็นแม่อีกแล้ว
หากคุณแม่มีคำถามเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกหรือมีไอเดียเสนอแนะ มาเม้าท์เรื่องลูก ๆ ใต้คอมเม้นท์กันได้นะคะ
ที่มา : www.kapook.com
บทความอื่นที่น่าสนใจ :
5 เทคนิคการเลี้ยงลูกให้ฉลาด ไม่ได้เริ่มแค่ในครรภ์
40 วิธีในการเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กฉลาด