ในทุกวันนี้ ด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด ทำให้มี เทคนิคช่วยฝึกภาษาให้ลูก ทำให้คุณพ่อคุณแม่หลายท่าน ให้ความใส่ใจ ที่จะให้ลูกน้อย พูดได้มากกว่าหนึ่งภาษา นั่นคือภาษาไทย ซึ่งเป็นภาษาหลักของพ่อแม่ และภาษาที่ 2 เพื่อให้อนาคตของลูกน้อย กว้างไกลยิ่งขึ้น โดยภาษาที่ได้รับความสนใจ และนำมาสอนมาก เป็นอันดับหนึ่ง คือ ภาษาอังกฤษ ซึ่งได้รับการยอมรับว่า เป็นภาษาสากล ที่ใช้สื่อสารกับคนได้เกือบทั้งโลก แต่ก็มีอาจคุณพ่อคุณแม่หลายท่าน อาจยังไม่รู้ว่า จะเริ่มต้นสอนลูกยังไงดี วันนี้เรามี เทคนิคช่วยฝึกภาษาให้ลูก เพื่อช่วยให้ลูกน้อยได้เรียนรู้ และกลายเป็นเด็ก 2 ภาษาได้อย่างรวดเร็ว และเป็นธรรมชาติ มาฝากกันค่ะ
เทคนิคที่ 1 เริ่มสอนลูกเมื่อไหร่ดี?
การสอนลูกให้มีความเข้าใจในภาษาที่ 2 นั้น คุณพ่อคุณแม่ สามารถฝึกได้ ตั้งแต่ลูกยังอยู่ในครรภ์เลยค่ะ ด้วยการพูด อ่านหนังสือ หรือฟังเพลง โดยใช้ภาษาที่ 2 ให้ลูกในครรภ์ได้ฟัง ซึ่งทารก จะเริ่มพัฒนาการรับรู้ และสัมผัสในด้านต่าง ๆ ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ของคุณแม่แล้วค่ะ ไม่ว่าจะเป็นแสง เสียง กลิ่น หรือ รส เมื่อคุณแม่พูดกับลูกบ่อย ๆ ลูกก็จะได้ยินเสียง และเกิดการรับรู้ และเรียนรู้ค่ะ
จากนั้น เมื่อลูดคลอด คุณพ่อคุณแม่ ก็สามารถฝึกลูกได้ตั้งแต่แรกเกิด จนกระทั้งถึงเจ็ดขวบค่ะ เพราะหลังจากเจ็ดขวบแล้ว เด็กมักจะมีความคิดเป็นของตัวเอง อีกทั้งยังได้รับการสอนมาจากโรงเรียนแล้ว หากเริ่มหลังจากนี้ ลูกอาจสับสน และต่อต้านได้ค่ะ
เทคนิคที่ 2 ใช้สื่ออะไรสอนลูกดี?
สื่อที่ดีที่สุดในการสอนลูก ก็คือตัวคุณพ่อ และคุณแม่เองค่ะ คุณพ่อ และคุณแม่ ควรพูดภาษาที่ 2 กับลูก ในทุก ๆ วัน จนกลายเป็นเรื่องปกติ ในชีวิตประจำวัน โดยอาจเริ่มต้นด้วย การใช้พูดคำง่าย ๆ เป็นคำ ๆ ก่อน และจากนั้น จึงค่อย ๆ เพิ่มเป็นประโยคที่ยาวขึ้น เช่น สอนให้ลูกรู้จักคำว่า Bird, Home, Tree แต่เมื่อพูดกับลูก ควรพูดว่า This is a bird หรือ We are going home ทั้งนี้ข้อสำคัญ คือ พูดให้เป็นธรรมชาติ เหมือนเป็นอีกภาษา ที่เราใช้ทุกวัน และห้ามแปลให้ลูกโดยเด็ดขาดค่ะ
อย่างไรก็ดี เพื่อให้ลูกจดจำสำเนียง และคำศัพย์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้น คุณพ่อ และคุณแม่ ควรอ่านหนังสือภาษาที่ 2 หรือเปิดการ์ตูนภาษาที่ 2 ให้ลูกฟัง ประกอยไปด้วยนะคะ โดยไม่จำเป็นต้องให้ลูกดู แค่ให้ฟังสำเนียง และการออกเสียงที่ถูกต้องเท่านั้นก็พอค่ะ หรืออาจเปิดเพลงภาษาอังกฤษ หรือภาษาที่ 2 ให้ลูกฟังจนคุ้นหู ซึ่งเสียงเพลง และดนตรี จะช่วยให้ลูกจำศัพท์ต่าง ๆ ได้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
หนังสือนิทาน เพลง หนัง หรือ โปสเตอร์ภาษา เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ล้วนมีประโยชน์ต่อการเรียนรู้ภาษาที่ 2 ของลูก คุณพ่อคุณแม่ควรหาสื่อเหล่านี้มาไว้สอนลูกผ่านกิจกรรมต่างๆ นะคะ ข้อสำคัญคือไม่ควรจับลูกมานั่งสอนอย่างจริงจัง เพราะลูกอาจต่อต้านและไม่เกิดการเรียนรู้ค่ะ
เทคนิคที่ 3 ทำกิจกรรมฝึกภาษาอะไรดี?
เพราะเด็กๆ จะชอบเล่นและเรียนรู้ผ่านกิจกรรมที่ได้ทำมากกว่า คุณพ่อคุณแม่จึงควรมีกิจกรรมให้ลูกทำและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กัน เช่น
- เปิดเพลงสอนภาษาให้ลูกหัดเต้น การเต้นตามจังหวะของดนตรี จะช่วยให้ลูกจำคำศัพท์นั้นๆ ได้แม่นยำ
- เมื่อออกไปนอกบ้าน ควรชวนลูกคุยและพูดศัพท์ใหม่ๆ ที่พบเจอระหว่างทาง ซึ่งเด็กจะสามารถจำภาพที่เห็นได้ค่ะ
- คุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจกังวลว่าตัวเองไม่เก่งภาษาที่ 2 ข้อแนะนำคือควรฝึกไปพร้อมๆ กับลูกเลยค่ะ ซึ่งลูกจะรู้สึกว่าเขามีเพื่อนที่จะเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันด้วยเช่นกัน
- คุณพ่อคุณแม่อาจชวนลูกมาดูหนังที่เป็นภาษาอังกฤษโดยไม่ต้องมีการแปล ให้ลูกฟังและดูการกระทำของตัวละครไปเรื่อยๆ ลูกจะจับความหมายของคำพูดนั้นๆ ได้เองค่ะ
เคล็ดลับฝึกลูกให้คิดเป็นภาษาอังกฤษ
สิ่งสำคัญในการสอนให้ลูกเป็นเด็ก 2 ภาษา คือการฝึกกระบวนการคิดของเขา โดยให้คิดเป็นภาษาอังกฤษตั้งแต่แรกแล้วสื่อสารออกมาได้ในทันที เคล็ดลับง่ายๆ คือพยายามสื่อสารกับเขาด้วยภาษานั้นๆ โดยไม่ต้องแปลความหมายให้ฟังค่ะ แม้ว่าในช่วงแรกลูกอาจไม่เข้าใจว่าคุณพ่อคุณแม่กำลังพูดอะไร แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถชี้ให้ลูกดู แทนการบอกหรือแปลให้ลูก และควรใช้ทำท่าทางประกอบเพื่อกระตุ้นความเข้าใจ จากนั้นลูกจะเกิดกระบวนการคิดเป็นภาษาอังกฤษไปได้โดยปริยายค่ะ
การสอนภาษาที่ 2 ให้ลูกนั้น คุณพ่อคุณแม่ต้องใช้เวลาและความเข้าใจ เพราะเด็กๆ ทุกคนมีพัฒนาการ มีความสามารถและความถนัดที่ไม่เหมือนกัน คุณพ่อคุณแม่จึงต้องใช้ความอดทน รอให้ลูกเรียนรู้ภาษาตามเวลาของเขา คอยพูดคุย สนับสนุน และชมเชย เมื่อเขาสามารถทำอะไรได้สำเร็จนะคะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ :
7 เทคนิคสอนลูกให้เอาตัวรอดจากโลกที่เรียกว่าอยู่ยาก
ใช้ทักษะ Executive Functions สอนลูก ให้มีความรับผิดชอบกับพื้นที่ส่วนตัว
5 วิธีสอนลูกไม่ให้ก้าวร้าว ดื้อด้าน เอาแต่ใจ พ่อแม่ต้องทำยังให้ลูกเป็นเด็กดี มีมารยาท
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!