แอบกระซิบคุณแม่ อยากให้ลูกนอนนาน ให้ลูกนอนในห้องตัวเองดีกว่า
แอบกระซิบคุณแม่ อยากให้ลูกนอนนาน ให้ลูกนอนในห้องตัวเองดีกว่า ข้อดีของการแยกห้องนอนกับลูกนั้น นอกจากพ่อแม่จะมีเวลากุ๊กกิ๊กกันแล้ว ยังทำให้เจ้าตัวเล็กนอนได้นานมากขึ้นไปอีกนะคะ
แยกห้องนอนเถอะ
จากการเห็บข้อมูลของ American Academy of Pediatrics กับกลุ่มพ่อแม่มือใหม่ทั้ง 230 คน พบว่าเด็กๆ จะนอนได้นานขึ้น เมื่อไม่ได้นอนห้องเดียวกับคุณพ่อคุณแม่ค่ะ
เด็กทารกวัย 4 เดือน หากนอนคนเดียวจะนอนได้นานขึ้นโดยเฉลี่ยอีก 45 นาที เมื่อเทียบกับเด็กๆ ที่นอนกับพ่อแม่ และเมื่อเด็กทารกวัย 9 เดือน หากนอนคนเดียวจะนอนได้นานขึ้นประมาณ 40 นาทีในเวลากลางคืน และนอนทั้งวันมากกว่า 20 นาที
ความแตกต่างเหล่านี้จะหายไปเมื่อเด็กๆ เข้าสู่วัยหนึ่งขวบค่ะ แต่จะกลับมาใหม่ในวัย 2 ขวบครึ่ง เมื่อเด็กๆ ต้องหัดนอนด้วยตัวเอง เด็กวัยเตาะแตะที่นอนคนเดียวด้วยตัวเองจะนอนหลับนานขึ้นอีก 45 นาทีต่อคืน เมื่อเทียบกับเด็กๆ ที่นอนกับพ่อแม่
อย่างไรก็ตามมีการแนะนำให้พ่อแม่นอนห้องเดียว (แต่ไม่ใช่เตียงเดียว) กับลูก เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตของเด็กทารก (SIDs) ดังนั้นจึงแนะนำคุณพ่อคุณแม่ให้นอนห้องเดียวกันกับลูกจนถึง 4 เดือน และหลังจากนั้นค่อยแยกห้องนอน
เกิดอะไรขึ้น เมื่อลูกนอนไม่พอ
มีการวิจัยพบว่าหากเด็กๆ นอนหลับไม่พอหรือไม่สนิท อาจทำให้เด็กๆ เครียด และพ่อแม่เครียดไปด้วย นอกจากนี้ยังกระทบถึงพฤติกรรมต่างๆ ที่เป็นปัญหา และโรคอ้วนในเด็กอีกด้วยค่ะ
เด็กๆ ที่นอนคนเดียวมีแนวโน้มว่าจะนอนเป็นเวลาสม่ำเสมอกว่า ด้วยเวลานอนประมาณ 2 ทุ่ม หรือ 20.00 น. สำหรับเด็กวัย 4-12 เดือน ควรจะนอน 12-16 ชั่วโมงต่อวัน รวมเวลานอนกลางวันแล้ว เด็กที่นอนร่วมห้องกับพ่อแม่นั้นมักจะมีแนวโน้มอ้อนเพื่อนอนเตียงเดียวกับพ่อแม่ด้วย และมีแนวโน้มจะติดหมอนข้างหรือตุ๊กตาสัตว์ ซึ่งเสี่ยงต่อการเสียชีวิตแบบ SIDs
อย่างไรก็ตามการป้องกันการเสี่ยงต่อการเสียชีวิตในทารกยังคงมีความสำคัญเป็นอันดับหนึ่งนะคะ และสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีความจำเป็นในการนอนห้องเดียวกับลูกก็เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นักวิจัยยังบอกอีกว่าการให้นมแม่นั้นมีส่วนช่วยให้เด็กๆ เสี่ยงน้อยลงในการเสียชีวิตในทารกเช่นกันนะคะ
ที่มา: CNN
บทความที่น่าสนใจ
พ่อแม่มือใหม่ต้องรู้… อย่าทำแบบนี้เวลาลูกนอน
ลูกไม่ยอมนอน เจ้าตัวน้อยที่ตื่นมาบรรเลงเพลงร้องไห้ตลอดทั้งคืน เป็นเพราะอะไร?
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!