หนูน้อย 5 ขวบฟันผุ หนักมาก
หนูน้อย 5 ขวบฟันผุ หนักมากถึง 14 ซี่ จนคุณหมอต้องออกมาเชตือนเป็นอุทาหรณ์สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ต้องดูแลลูก โดยเฉพาะเด็กเล็กให้ทำการรักษาสุขภาพช่องปากดีๆ แะละหมั่นดูแลอย่างใกล้ชิด เหมือนกับอย่างเคสนี้ที่ได้มีการโพสต์เตือนว่าคุณหมอต้องวางสลบหนูน้อยเพื่อรักษาฟันผุจากการถอนฟัน ครอบฟัน รวมถึงการรักษารากฟันอีก
โดย เพจ Smile Station คลินิกทันตกรรม คลินิกทำฟันเด็ก ได้ระบุว่า “#น้อง5ขวบตัดใจเลิกนมขวดไม่ได้ #ฉีดยาชาไป 11 เข็ม #ถอนฟัน7 ซี่ครอบฟัน 7 ซี่รักษารากฟัน 1 ซี่เย็บ 9 เข็ม เช้านี้คุณแม่ตัดสินใจเลือกดมยาสลบเพื่อแก้ปัญหาฟันผุของลูกชายวัย 5 ขวบที่โยเยเลิกนมขวดไม่ได้ เนื่องจากมีฟันผุรวม 14 ซี่ มีอาการปวดฟันสลับกันไปในแต่ละซี่ หากจะใช้วิธีการรักษาแบบปกติเด็กอาจไม่สามารถร่วมมือกับการรักษาที่ซับซ้อนนี้ได้ การรักษาในห้องผ่าตัดวันนี้ใช้เวลา 2 ชั่วโมงผ่านพ้นไปได้ด้วยดี
นมขวดเป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้เด็กมีฟันผุลุกลามหลายซี่โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดูดนมขวดหลังแปรงฟันก่อนนอน และปล่อยให้คราบนมจับบนผิวฟันตลอดทั้งคืนโดยไม่ปลุกมาแปรงฟันซ้ำ รวมทั้งการตื่นมาดูดนมขวดกลางดึก คุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องแข็งใจหน่อยเพื่อช่วยลูกให้ข้ามผ่านการติดขวดนมหลังอายุ 1 ขวบครึ่งไปให้ได้ และเน้นการดื่มนมจืดจากกล่องหรือดื่มนมจากแก้วแทนนะครับ
หนูน้อย 5 ขวบฟันผุ 14 ซี่
วิธีให้ลูกเลิกดื่มนมจากขวด
- เริ่มวิธีเลิกขวด เตรียมความพร้อมให้ลูกในการเลิกขวดนมตั้งแต่อายุ 6-9 เดือน โดยฝึกให้ลูกใช้แก้วหัดดื่มแบบมีฝาปิดเพื่อจิบน้ำหรือนม
- ฝึกให้ลูกทานนมเป็นมื้อ ตามเวลา หรือทานเมื่อหิวเท่านั้น ไม่ใช่การทานนมเพื่อกล่อมลูกนอนหรือปลอบใจ
- ตั้งแต่ลูกอายุประมาณ 6-9 เดือน ก็ไม่ต้องปลุกลูกมาทานนมมื้อดึก และค่อย ๆ ลดปริมาณมื้อนมช่วงกลางคืนลง จนเลิกนมมื้อดึกได้ในที่สุดภายในอายุ 1 ปี
- ชมเชยลูกเมื่อสามารถเริ่มทานนมโดยไม่ต้องใช้ขวดนมได้ เพื่อให้ลูกภูมิใจ และตั้งใจทำต่อไปให้มากขึ้น
- วิธีเลิกขวดต้องให้ลูกเตรียมใจและปรับตัวล่วงหน้าก่อนเลิกขวดนม โดยบอกช่วงเวลาที่ชัดเจน ว่าจะเราเลิกขวดนมกันเมื่อใด
- เมื่อลูกพร้อมในช่วงเวลาที่ตกลงกัน คุณพ่อคุณแม่ควรเก็บขวดนมทั้งหมดไปให้พ้นจากสายตาของลูก หรืออาจใช้วิธีให้ลูกทิ้งขวดนมด้วยตนเองและบ๊ายบายขวดนม
- เมื่อลูกสามารถเลิกขวดนมได้โดยสิ้นเชิงคุณพ่อคุณแม่ควรชมเชย ให้กำลังใจหรือให้รางวัล เพื่อให้ลูกภูมิใจและไม่กลับไปร้องขอขวดนมอีก เพื่อให้วิธีเลิกขวดนมนี้สำเร็จ
หัวใจสำคัญในการสร้างนิสัยที่ดีในการดูแลช่องปากให้กับเด็กก็คือการให้เด็กสร้างความคุ้นเคยและซึมซับเรื่องการดูแลปากและฟันบ่อย ๆ ฉะนั้นก็ควรหมั่นพาลูกไปพบหมอฟันด้วย ถึงจะมีค่าใช้จ่ายแต่รับรองว่าคุ้มค่าแก่การลงทุนแน่นอน โดยมีงานวิจัยว่า เด็กที่ไปพบหมอฟันครั้งแรกเมื่ออายุ 1 ขวบนั้น จะมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาช่องปากต่ำกว่าเด็กที่ไปพบหมอฟันครั้งแรกเมื่ออายุ 5 ขวบ ถึง 40 เปอร์เซ็นต์ และแน่นอนว่าความเจ็บปวดจากปัญหาในช่องปากที่ต้องพบเจอก็น้อยลงด้วย การไปพบคุณหมอฟันสม่ำเสมอจึงถือเป็นการลงทุนที่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาที่อาจจะต้องเสียไปในอนาคตค่ะ
ที่มา: Smile Station คลินิกทันตกรรม คลินิกทำฟันเด็ก
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
พาลูกหาหมอฟันครั้งแรก พาลูกไปหาหมอ ตรวจสุขภาพทารก ฉีดวัคซีนทารก แม่ต้องเตรียมตัวอย่างไร
วิธีเลี้ยงลูกแบบสวีเดน เลี้ยงลูกอย่างไรให้ฉลาดแบบไม่ต้องยัดเยียด
กิจกรรมเสริมพัฒนาการเด็กเล็ก – 3 ขวบ จากฮาวาร์ด พ่อแม่ควรเล่นกับลูกอย่างไร
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!