X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 59 วิธีการสื่อสารกับลูกในท้อง

บทความ 5 นาที
100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 59 วิธีการสื่อสารกับลูกในท้อง

วันนี้ขอนำบทความเกี่ยวกับ วิธีการสื่อสารกับลูกในท้อง มาฝากคุณแม่กัน มาดูกันว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้คุณแม่สื่อสารและพูดคุยกับลูกในท้อง

คงเป็นเรื่องปกติที่คุณแม่ตั้งครรภ์ทั้งหลายจะอยากจะหาวิธีพูดคุยและสื่อสารกับเจ้าหนูน้อยในท้อง วันนี้ theAsianparent Thailand ขอนำบทความเกี่ยวกับ วิธีการสื่อสารกับลูกในท้อง มาฝากคุณแม่กัน มาดูกันว่าจะมีวิธีไหนบ้างที่จะช่วยให้คุณแม่สื่อสารและพูดคุยกับลูกในท้อง แล้ววิธีดังกล่าวจะเสริมพัฒนาการลูกได้อย่างไรบ้าง

 

พัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์เสริมสร้างได้ง่าย ๆ นอกจากอาหารการกินและพฤติกรรมของคุณแม่ในช่วงตั้งท้องแล้ว การพูดคุย สัมผัส หรือหากิจกรรมต่าง ๆ เผื่อกระตุ้นพัฒนาการลูกน้อยก็เป็นสิ่งสำคัญ รวมถึงอารมณ์ของคุณแม่ก็สำคัญเช่นกัน

จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่าคุณแม่ที่อารมณ์ดีอยู่เสมอจะทำให้ร่างกายมีการหลั่งสารแห่งความสุขที่เรียกว่า เอนดอร์ฟิน (endorphin) ออกมาผ่านไปทางสายสะดือไปยังลูกทำให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีทั้งสมอง (IQ) และอารมณ์ (EQ)  ในทางตรงกันข้ามคุณแม่ที่มีอารมณ์หงุดหงิด โมโหง่าย ร่างกายจะหลั่งสารแห่งความเครียดที่เรียกว่า อะดรีนาลิน (adrenalin) ออกมาผ่านไปยังลูก ผลดังกล่าวจะทำให้ลูกคลอดออกมาเด็กงอแง เลี้ยงยาก พัฒนาการช้า

 

วิธีการสื่อสารกับลูกในท้อง

 

  • การเอาไฟฉายส่องท้อง

ลูกน้อยในครรภ์สามารถกระพริบตาเพื่อตอบสนองต่อแสงไฟที่กระตุ้นได้ตั้งแต่อายุครรภ์ประมาณ 7 เดือน การส่องไฟที่หน้าท้องจะทำให้เซลล์สมองและเส้นประสาทส่วนรับภาพและการมองเห็นมีพัฒนาดีขึ้นและเตรียมพร้อมสำหรับการมองเห็นภายหลังคลอด การส่องไฟที่หน้าท้องไม่จำเป็นต้องไปเล็งว่าแสงจะเข้าตรงกับนัยน์ตาของลูกหรือไม่ คุณแม่บางคนมาขอให้หมอตรวจอัลตราซาวด์เพื่อหาตำแหน่งของนัยน์ตาลูก ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจจะมากเกินไป เอาแค่ให้ลูกรู้ว่ามีแสงส่องเข้ามาก็น่าจะพอแล้ว

 

วิธีการสื่อสารกับลูกในท้อง

วิธีการสื่อสารกับลูกในท้อง

 

Advertisement
  • คุยกับลูกในท้อง

ทราบหรือไม่ว่า ลูกในท้องนั้น สามารถได้ยินเสียงของคุณได้ เพราะฉะนั้นการคุยกับลูกคือวิธีการที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นความสัมพันธ์ระหว่าง พูดกับลูกว่าคุณกำลังทำอะไร อยากจะโชว์อะไรให้ลูกดู ก็พูดได้เลย คุณอาจทำเสียงประหลาด เดินไปรอบ ๆ แล้วคุยกับตัวเอง เพราะลูกได้ยินเสียงคุณตั้งแต่อยู่ในท้อง และเมื่อลูกเกิดมา ลูกจะจำเสียงคุณได้ และรู้สึกถึงความสัมพันธ์ที่แนบแน่นจากการพูดคุยของคุณ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางสมองได้อีกด้วย

 

  • พูดคุยกับลูกในท้องบ่อย ๆ

ระบบประสาทการรับฟังของลูกน้อยจะเริ่มทำงานประมาณอายุครรภ์ 5 เดือน การใช้ช่วงเวลานี้ส่งเสียงผ่านไปถึงลูกในท้องด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ใช้ประโยคซ้ำ ๆ จะช่วยให้ระบบประสาทและสมองที่ควบคุมการได้ยินมีพัฒนาการที่ดี เพราะทารกจะรู้จักเสียงต่าง ๆ ได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์แล้ว

บางวันคุณแม่อาจจะใช้การเล่านิทาน หรือเล่าว่าวันนี้แม่รู้สึกดี ๆ กับลูกอย่างไร การพูดคุยกับลูกในท้องบ่อย ๆ จะเป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการได้ยินหลังคลอด เมื่อทารกเกิดมาจะมีพัฒนาการทางด้านสมองและพร้อมสำหรับพัฒนาการด้านภาษาที่ดีกว่าเด็กที่พ่อแม่ไม่ได้คุยด้วย

 

  • ลูบหน้าท้อง

การลูบท้องระหว่างตั้งครรภ์เป็นการกระตุ้นระบบประสาท ทุกสัมผัสที่เกิดขึ้นจะพัฒนาเส้นใยประสาทของสมองส่วนรับความรู้สึกของลูกให้มีพัฒนาการดีขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพ และความไวในการรับรู้ของทารก รวมถึงพัฒนาการทางด้านร่างกายที่ดีอีกด้วย จะสังเกตได้ว่าขณะที่แม่ลูบท้องหรือขยับตัวลูกในท้องก็จะมีปฏิกิริยาโต้ตอบหรือมีการเคลื่อนไหว เช่น ลูกจะขยับตัวไปตามบริเวณที่มือของคุณพ่อหรือคุณแม่ลูบไป ทำให้รู้สึกว่าลูกในท้องก็รับรู้ได้ถึงสัมผัสนี้ที่เป็นการส่งความรู้สึกผ่านหน้าท้องสู่ทารกในครรภ์โดยตรง ขณะเดียวกันการลูบท้องและพูดคุยกับลูกไปด้วย จะเป็นการสร้างความคุ้นเคยและความผูกพันระหว่างแม่ลูก ลูกจะคุ้นน้ำเสียงและได้รับความอบอุ่นจากแม่

 

  • นวดลูก

แม่ใกล้คลอดมักชอบลูบคลำท้องเป็นเรื่องปกติ แต่บางครั้งคุณสามารถนวดให้ลูกด้วยเช่นกัน การนวดเบา ๆ ช่วยให้ผ่อนคลาย และลูกยังรู้สึกสัมผัสของแม่ได้ เมื่อคุณรู้สึกว่าลูกดิ้น คุณจะสังเกตได้ว่าลูกดิ้นตามสัมผัสของคุณ บางครั้งลูกจะดิ้นหากลูกไม่ต้องการให้รบกวน แต่ส่วนใหญ่ลูกจะขยับเข้ามาใกล้สัมผัสการนวดของคุณเสียมากกว่า

 

  • อ่านหนังสือให้ลูกในท้องฟัง

การอ่านหนังสือและพูดคุยกับลูกตั้งแต่อยู่ในท้อง จะช่วยกระตุ้นประสาทสัมผัสและสร้างวงจรในสมองของลูกได้ นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญด้านสมองกล่าวว่า เด็กจะมีความจำเกี่ยวกับคำและจะคุ้นชินกับคำและประโยคที่พ่อแม่อ่านให้ฟัง ยิ่งพ่อแม่มีการต่อยอดหลังจากลูกคลอดออกมา เด็กจะยิ่งมีพัฒนาการทางด้านภาษาที่ดีขึ้น และเรียนรู้ได้เร็วขึ้น

ทุกเสียงที่พ่อแม่อ่านเป็นคำ ๆ ให้ลูกฟังนั้นจะกระตุ้นสมองของลูก ทารกจะบันทึกและสร้างวงจรของคำศัพท์ต่าง ๆ เอาไว้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์” หนังสือที่จะอ่านเพื่อกระตุ้นสมองลูกให้ฉลาดได้ในช่วงนี้ คุณแม่ควรเลือกหยิบหนังสือนิทานที่สามารถอ่านให้ลูกฟังได้ตั้งแต่ในท้องจนถึงวัยเด็กเลย

 

วิธีการสื่อสารกับลูกในท้อง

วิธีการสื่อสารกับลูกในท้อง

 

การสื่อสารกับลูกจะช่วยกระตุ้นพัฒนาการการได้ยินของลูก ช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางด้านการพูด ช่วยให้ลูกรู้สึกปลอดภัย และช่วยพัฒนาสมอง และประสาทสัมผัสทั้ง 5 อีกทั้งการที่คุณแม่คุยกับลูกในท้องเป็นประจำ จะช่วยให้ระบบประสาทและสมองที่ควบคุมการได้ยินมีพัฒนาการที่ดี และเตรียมพร้อมสำหรับการได้ยินหลังคลอด เมื่อทารกในครรภ์คลอดออกมาจะจดจำและคุ้นเคยกับเสียงของคุณแม่และคุณพ่อได้

 

  • การฟังเพลง

คุณแม่สามารถเปิดเพลงฟังได้เรื่อย ๆ ตั้งแต่เริ่มตั้งครรภ์เพื่อช่วยผ่อนคลายอารมณ์ของคุณแม่ไม่ให้หงุดหงิด เบื่อ หรือเกิดภาวะซึมเศร้าเอาได้ง่าย ๆ และสำหรับลูกน้อยในครรภ์ ช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการเปิดเพลงให้ลูกฟัง คืออายุครรภ์ตั้งแต่ 5 เดือนเป็นต้นไป เพราะเป็นช่วงที่พัฒนาการระบบประสาทการรับฟังของทารกในครรภ์เริ่มก่อตัวขึ้นมาแล้ว ซึ่งการกระตุ้นโดยการเปิดเพลงให้ลูกได้ฟัง จะเป็นตัวช่วยที่ทำให้คุณแม่สามารถรับรู้ได้ว่าลูกในท้องตื่นตัวหลังจากได้ฟังเพลงหรือไม่ โดยสังเกตจากการดิ้นของลูกได้

 

วิธีการสื่อสารกับลูกในท้อง

วิธี การสื่อสาร กับลูกในท้อง

บทความจากพันธมิตร
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
4 อาการคนท้อง  ยอดฮิตของแม่ตั้งครรภ์ เลี่ยงยาก แต่ป้องกันได้
4 อาการคนท้อง ยอดฮิตของแม่ตั้งครรภ์ เลี่ยงยาก แต่ป้องกันได้
เตรียมพร้อมลูกน้อยฉลาดและแข็งแรงตั้งแต่ในครรภ์ ด้วย นมเฉพาะสำหรับแม่ตั้งครรภ์
เตรียมพร้อมลูกน้อยฉลาดและแข็งแรงตั้งแต่ในครรภ์ ด้วย นมเฉพาะสำหรับแม่ตั้งครรภ์
อาหารคนท้อง 3 ไตรมาส ควรกินอะไรดี เพื่อพัฒนาการร่างกายและสมองสมบูรณ์ของลูกน้อยในครรภ์
อาหารคนท้อง 3 ไตรมาส ควรกินอะไรดี เพื่อพัฒนาการร่างกายและสมองสมบูรณ์ของลูกน้อยในครรภ์

 

theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพและสังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศและเอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่และเด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุดและผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์และสื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่และเด็ก โภชนาการแม่และเด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และจิตวิทยาเด็ก theAsianparent Thailand เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง เพราะเราเชื่อว่า “พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง”

 

Source : si.mahidol.ac.th

บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ

มูลนิธิเอสซีจี ชวนสัมผัสพลังมหัศจรรย์หนังสือภาพ เสริมสร้างพัฒนาการ กระตุ้นการเรียนรู้เด็กปฐมวัย ผ่านโครงการนำหนังสือดีสู่เด็กไทย ปีที่ 11

กิจกรรมเล่นกับลูกให้ฉลาด กระตุ้นพัฒนาการทารก วิธีเสริมพัฒนาการลูกน้อยวัยทารก เล่นกับลูกให้ฉลาด

เลี้ยงลูกกับน้องหมาด้วยกันได้ไหม? สุนัขกับทารก มีผลดีหรือผลเสียอย่างไรบ้าง? 

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
ddc-calendar
เตรียมความพร้อมสำหรับลูกน้อย โดยใส่วันครบกำหนดคลอดของคุณ
หรือ
คำนวณวันครบกำหนดคลอด
img
บทความโดย

Khattiya Patsanan

  • หน้าแรก
  • /
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • /
  • 100 สิ่งแม่ท้องต้องรู้ ตอนที่ 59 วิธีการสื่อสารกับลูกในท้อง
แชร์ :
  • คนท้อง อัลตราซาวด์ 4 มิติ กี่เดือน ซาวด์ 4 มิติ ที่ไหนดี ราคาปี 2568

    คนท้อง อัลตราซาวด์ 4 มิติ กี่เดือน ซาวด์ 4 มิติ ที่ไหนดี ราคาปี 2568

  • คนท้องหิวกลางดึก กินอะไรดี อาหารว่างยามดึกสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

    คนท้องหิวกลางดึก กินอะไรดี อาหารว่างยามดึกสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

  • วิจัยเผย อยากให้ลูกกินง่าย ? เริ่มตั้งแต่อยู่ในท้องแม่!

    วิจัยเผย อยากให้ลูกกินง่าย ? เริ่มตั้งแต่อยู่ในท้องแม่!

  • คนท้อง อัลตราซาวด์ 4 มิติ กี่เดือน ซาวด์ 4 มิติ ที่ไหนดี ราคาปี 2568

    คนท้อง อัลตราซาวด์ 4 มิติ กี่เดือน ซาวด์ 4 มิติ ที่ไหนดี ราคาปี 2568

  • คนท้องหิวกลางดึก กินอะไรดี อาหารว่างยามดึกสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

    คนท้องหิวกลางดึก กินอะไรดี อาหารว่างยามดึกสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

  • วิจัยเผย อยากให้ลูกกินง่าย ? เริ่มตั้งแต่อยู่ในท้องแม่!

    วิจัยเผย อยากให้ลูกกินง่าย ? เริ่มตั้งแต่อยู่ในท้องแม่!

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว