พัฒนาการ เด็ก 1 ขวบ 7 เดือน พัฒนาการลูกถดถอย จนเกือบเป็นออทิสติก!
หลังจากได้ติดตามข่าวคราวอาการป่วยของ น้องดีบุกจากเฟซบุ๊คคุณแม่แณท Natthernaria Deebook หนูน้อยวัยเพียงแค่หนึ่งขวบ แต่ป่วยเป็นมะเร็งเม็ดเลือดขาวและต้องรักษาด้วยคีโม เราก็คอยติดตามความเป็นไปและภาวนาให้น้องแข็งแรงในเร็ววัน แต่โพสต์อันหนึ่งที่น่าสนใจและอยากแชร์ให้คุณแม่ท่านอื่นได้รู้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ คือเรื่อง พัฒนาการลูกถดถอย เพราะน้องดีบุกติดแท็บเล็ต หรือที่คุณแม่แณทเรียกว่า จอปีศาจค่ะ ซึ่งคุณแม่โพสไว้ที่เฟซบุ๊ค ว่า
#ดีบุกเด็กน้อยสู้มะเร็ง
เกือบไปแล้ว เกือบเป็นออทิสติกแถมพ่วงมาด้วยแล้ว!!!
เรื่องจริงจอปีศาจ!!!!
อันตรายร้ายแรง สำหรับเด็กเล็ก
ไม่เจอกับตัวไม่กล้าเอามาเล่า
ตามที่หลายๆคนทราบ น้องดีบุกเป็นมะเร็ง เม็ดเลือดขาว (ALL) ช่วงนี้น้องอยู่ในระหว่างการให้ยาคีโม
ผลข้างเคียงระหว่างการให้ยา ของยากลุ่มนี้ คือจะทำให้น้องกระดูกเปาะหักง่าย ขี้หงุดหงิด เกล็ดเลือดต่ำ (ทำให้เกิดรอยเขียวช้ำ จ้ำเลือดได้ง่าย)
และติดเชื้อง่าย เพราะตัวยาไปกดภูมิคุ้มกัน
ลองนึกภาพ เด็กวัย1ขวบ7เดือน ที่กำลังซน อยากรู้ อยากเห็น อารมณ์ดี ยิ้มเก่ง เคยวิ่งเล่นทั้งวัน ต้องมานั่งซึมอยู่บนเตียง มีคอกกันไว้ ตลอดเวลา
เพราะห้ามล้ม ห้ามช้ำ ห้ามเล่นร่วมกับเด็กอื่น #ห้ามติดเชื้อ
มันน่าสลดใจมาก สำหรับคนเป็นพ่อเป็นแม่
#แน่แหละสภาพจิตใจของลูกต้องได้รับการฟื้นฟูโดยด่วน
#เราเลยจัดหาจอปีศาจมาให้ลูกแก้เหงา
(จอปีศาจที่กล่าวมา รวมหมด ไม่ว่าจะเป็น tablet, Smartphone, TV, Computer บลาๆๆ ทุกอย่างที่มีจอ)
โดยคิดแค่เพียงว่า ลูกจะได้ไม่ร้องงอแง ไม่เบื่อ และได้ฟังเพลงเพลินๆ เสริมพัฒนาการ
คุณหมอเริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ
แรกๆ ดีบุกดูดีขึ้นมาก เพราะได้ดูรายการที่ใช่ฟังเพลงที่ชอบ แล้วก็เริ่มเอาแต่ใจตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะจ้องแต่จอทั้งวัน แรกๆก็ไม่อยากขัดใจเห็นลูกป่วย แต่หลังๆ นี่อาการเริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ป๊ามาเยี่ยม ใครๆ มาเยี่ยมก็ไม่สนใจ
ดีบุกมีจอปีศาจเป็นพี่เลี้ยง full time แค่เพียง 1 เดือน ก็กลายเป็นไม่พูด ใครเรียกไม่สน ไม่มอง ไม่สบตา จนเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา หมอพัฒนาการมาเพื่อติดตามพัฒนาการของน้อง ดีบุกกำลังดูแท็บเล็ต คุณหมอก็เริ่มทำการทดสอบพัฒนาการอยู่พักนึง คุณหมอดูค่อนข้างเครียดแล้วพูดว่า
คุณหมอ: คุณแม่ค่ะ เมื่อ 1 เดือนที่แล้วน้องทำแบบประเมินได้เท่าเด็กอายุ 2 ขวบ 4 เดือนนะคะ
เรา: ค่ะ (ทำหน้าภูมิใจไงหล่ะลูกชั้นเก่ง555)
คุณหมอ: คุณแม่ทราบมั้ยตอนนี้พัฒนาการน้องถอยลงไปมาก จากที่น้องเคยพูดเป็นประโยคได้ พูดฟังและทำตามคำสั่งได้ทั้งไทยและอังกฤษ ตอนนี้น้องพูดน้อยลงและเริ่มพูดภาษาต่างดาวใช่ไหมคะ
เรา: ค่ะ (แต่หน้าเสียเลย แล้วนึกย้อนดู อืมพูดน้องลงจริง หรือถ้าพูดก้อฟังไม่รู้เรื่อง) ทำไมหรือคะ
คุณหมอ: คุณแม่ลองเอาจอ ออกจากหน้าน้องก่อนนะคะ ลองเรียกน้องดู ยังสบตาอยู่ไหมคะ
คุณแม่น้ำตาคลอ เมื่อคุณหมอบอกว่า….
เรา: ค่ะ (รีบทำตามนั้น ดีบุกนิ่งมาก ไม่สนใจ ไม่สบตา งานมาสิทีนี้ หมอยังไม่หยุด)
คุณหมอ: น้องไม่ลุกมาซน ไม่ลุกมาเล่นอย่างอื่นเลยใช่ไหมคะ เวลามีคนมาเยี่ยมน้องไม่แสดงอาการดีใจและพูดคุยด้วยเลยใช่มั้ย (ขนาดปะป๊าเพื่อนซี้ปกติเรียกหาทั้งวัน มาหาดีบุกยังนิ่งไม่สน)
เรา: น้องเป็นอะไรหรือเปล่าคะ ( จุก อึ้ง น้ำตาคลอ มึน)
คุณหมอ: คุณแม่ทำใจยากนิดนึงนะคะ แต่น้องมีอาการคล้าย”โรคออทิสติก”ค่ะ
เรา: หมอค่ะเป็นผลกระทบจากยาคีโมหรือเปล่าคะแค่เป็นมะเร็งนี่ก้อน่าสงสารแล้วนะคะ (ยังอุตส่าห์ไปโทษคีโม)
คุณหมอ: ยิ้ม….คุณแม่ฟังก่อนนะคะเด็กทุกวันนี้เป็นกันเยอะมาก “ออทิสติก หรือสมาธิสั้น”บางคนเกิดมาเป็น แต่ ส่วนมากเกิดจากการถูกปรุงแต่งด้วยสภาพแวดล้อม แต่เด็กออทิสติกบางคนเป็นอัจฉริยะ นะคุณแม่
อ่อแล้วก็ ไม่เกี่ยวกับยาคีโม คีโมไม่ได้ทำลายสมอง หรือหยุดการเจริญเติบโตของน้อง
(หมอมองหน้า) “คุณแม่อยากได้ลูกที่เป็นเด็กธรรมดา หรือเด็กพิเศษคะ?”
คำแนะนำจากคุณหมอช่วยเปลี่ยนชีวิต
เรา: ธรรมดาสิคะ (รีบตอบไป ปกติก้อชอบอะไรพิเศษนะแต่ขอมีลูกเป็นเด็กธรรมดาเนอะ)แล้วจะรู้ได้ยังไงน้องเป็นหรือไม่เป็น จะต้องทำยังไงบ้าง (รู้ละคีโมไม่ผิด)
คุณหมอ: คือตอนนี้น้องมีแนวโน้มจะพูดน้อย ลงเรื่อยๆ ถึงไม่พูดเลยนะคะ เพราะน้องอยู่ในวัยหัดพูด แต่ยังไงลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก่อนนะคะ เผื่อจะเป็นเรื่องดีๆ อย่ากังวล หมอคิดว่า #จอ เป็นต้นเหตุค่ะ แต่สาเหตุหลักมาจากคุณพ่อคุณแม่ ต้องใจแข็ง นะคะ หักดิบเลยช่วง1สัปดาห์ แรก งดให้หมด ไม่ว่ารายการเพลงหรืออะไรก้อห้ามให้ดูค่ะ เปิดเพลงให้ฟังจะดีกว่า งดอยู่หน้าจอ #พูดคุย #เล่น #กอดสัมผัส #ทำกิจกรรมเป็นการกระตุ้นพัฒนาการที่ดีที่สุด ลองดูนะคะ แล้วอีก1สัปดาห์ หมอจะมาดูการเปลี่ยนแปลง
เอาละสิลูกน้อยที่น่ารักของชั้นกำลังจะกลายเป็นเด็กพิเศษ หรือนี่ #ไม่นะชั้นไม่ยอม
งดเข้มได้สองวันเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงชัดเจน เริ่มกลับมาพูดคุย เริ่มตอบโต้ เริ่มลุกขึ้นมาเต้น เล่นต่อบล็อค สอนอะไรเริ่มจำได้เหมือนเดิม ดูมีสมาธิมากขึ้น วีนเหวี่ยงน้อยลง ดูเป็นผู้เป็นคนขึ้นเยอะ ดีใจมากๆๆๆ
วันอังคารหมอมาดูพัฒนาการดีบุกอีกรอบ เร็วกว่าที่นัดไว้ เพราะดีบุกเตรียมตัวให้ยาคีโมอีกรอบ แล้วจะได้กลับบ้านวันพุทธ
คุณหมอ: Hello Deebook, How are you?
ดีบุก: หันไปมอง ยิ้มให้ แล้วบอก k
ตอนนั้นดีบุกกำลังนั่งอ่านหนังสือ หมอเลยเปิดดูแล้วชี้ถาม What is this? ดีบุกเลยจัดให้ ถามไรตอบได้ๆ (มี้ยืนลุ้นอยู่ ยิ้มแก้มแตกเลย ดีใจลูกไม่ทำขายหน้า555 ดีนะถามตรงที่สอนพอดีอิอิ)
คุณหมอ: ยินดีด้วยนะคะคุณแม่ เกือบจะได้ดีบุกคนเดิมคืนมาแลัวเนอะ ยังไงสัปดาห์หน้าเจอกันค่ะ
เลิกติดจอ หนูน้อยคนเดิมก็กลับมาหาแม่
ไม่ได้จะโทษเทคโนโลยี เพียงแต่อยากจะเล่าบอกพ่อแม่สมัยใหม่ทั้งหลายที่ที่มีลูกเล็กๆและใช้เทคโนโลยีเลี้ยงลูกแบบผิดๆโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์เหมือนเราอาจส่งเสริมให้ลูกเป็นเด็กออทิสติกหรือสมาธิสั้นโดยไม่รู้ตัว รีบเปลี่ยนพฤติกรรม แรกๆอาจจะร้องขอดู แต่ก้อต้องใจแข็ง
วันนี้เป็นวันที่5 แล้วที่งด แน้วโนมดีขึ้นเรื่อยๆ อย่ากลัวว่าลูกจะเหงา เพราะถ้าวันนึงลูกติดจอไม่ติดเรา คนที่เหงาคือเรานะจ๊ะ!!!
#งดดราม่า ลูกใครดูจอนี่แล้วเก่งแล้วดี ยินดีด้วย เล่าเรื่องของลูกให้ฟังเฉยๆ ไม่ได้แอนตี้อะไร แต่ถ้าลูกใครเป็นหรือมีแนวโน้มจะเป็นแบบนี้ มาแชร์กัน หาทางแก้ไขไปด้วยกัน เป็นกำลังใจให้จ้า
#รูปเก่าตอนยังติดจอ ตอนนี้พี่เลิกละคร้าบ
เรื่องราวของคุณแม่แณทและน้องดีบุกน่าสนใจ และเป็นอุทาหรณ์ที่ดีมากในยุคมือถือและแท็บเล็ตครองเมือง เพราะการติดจอนั้นไม่เป็นผลดีกับเด็ก และไม่ว่าอย่างไร ของเล่นที่ดีที่สุดสำหรับลูก ก็คือพ่อกับแม่นั่นเอง พาลูกออกไปเล่นหรือทำกิจกรรมต่างๆ ด้วยกัน ย่อมดีกว่าปล่อยลูกไว้กับแท็บเล็ตแน่นอนค่ะ
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
สมองเสื่อมจากการเสพติดจอ
เสริมสร้างพัฒนาการให้ลูกน้อยด้วยการเล่น
พัฒนาการทารก: 12 เดือนจากแรกเกิดจนหัดเดิน
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!
