TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

ป้อนกล้วยเด็กก่อน 6 เดือน อันตราย! ทารกกินกล้วย เสี่ยงตาย พ่อแม่ต้องระวัง

บทความ 3 นาที
ป้อนกล้วยเด็กก่อน 6 เดือน อันตราย! ทารกกินกล้วย เสี่ยงตาย พ่อแม่ต้องระวัง

ป้อนกล้วยเด็กก่อน 6 เดือน อันตรายต่อลูกน้อยมาก เพราะอาจทำให้ลูกน้อยไส้แตก เจ็บป่วยง่าย เป็นเด็กขาดสารอาหารไม่โต จนสุดท้ายอันตรายถึงชีวิต...

ป้อนกล้วยเด็กก่อน 6 เดือน อันตรายแค่ไหน!

ป้อนกล้วยเด็กก่อน 6 เดือน อันตรายมาก แต่พ่อแม่หลายท่านไม่ทราบ เนื่องจากสมัยก่อนยังไม่มีการเผยแพร่ข้อมูลนี้เท่าที่ควร ที่สำคัญคนรุ่นปู่ย่าตายาย มักจะชอบพูดว่าเมื่อก่อนก็เคยป้อนไม่เห็นเป็นอะไรเลย แต่อย่าลืมว่าในอดีตนั้นไม่มีเครื่องมือสื่อสาร หรืออินเทอร์เน็ตที่แพร่หลายเหมือนทุกวันนี้ ทำให้เราไม่รู้ว่าในแต่ละปีมีเด็กตายจากการป้อนกล้วยเท่าไหร่ อันตรายจากการป้อนกล้วยมีมากมาย มีอะไรบ้างมาดูกันค่ะ

สาเหตุที่ไม่ควรป้อนกล้วยลูก

  1. ลําไส้อุดตัน เนื่องจากกล้วยที่ทานเข้าไปไม่สามารถย่อยและดูดซึมในกระเพาะอาหารและลําไส้ของทารกได้ จึงไปขัดขวางการทำงานของลำไส้ ทำให้ลําไส้อุดตัน ซึ่งถ้ารุนแรงมากอาจต้องรักษาด้วยการผ่าตัดลําไส้ หากรักษาไม่ทันอาจเกิดลำไส้แตกทะลัก เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้
  2. ภูมิต้านทานลดลง เนื่องจากในนมแม่นั้นมีส่วนช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของทารกได้ เมื่อลูกกินกล้วยก็จะทำให้ทารกอิ่มเร็ว กินนมได้น้อยลง ทำให้เขาเจ็บป่วยได้ง่ายและเจ็บป่วยบ่อย เพราะมีภูมิคุ้มกันน้อยนั่นเองค่ะ
  3. ทำให้ท้องอืด ในเด็กทารกแรกเกิดการทำงานของระบบทางเดินอาหาร ระบบย่อยอาหารยังไม่พร้อมเท่าที่ควร เมื่อลูกกินกล้วยเข้าไปก็จะทำให้อาหารไม่ย่อย เกิดท้องผูกท้องเสีย การดูดซึมที่บกพร่องได้  แพ้อาหารเนื่องจากเยื่อบุลำไส้ยังอยู่กันหลวมๆ ทำให้โปรตีนแปลกปลอมเล็ดลอดเข้าสู่กระแสเลือด ไปกระตุ้นให้ร่างกายสร้างสารต่อต้านโปรตีนแปลกปลอม แล้วนำไปสู่การเกิดโรคภูมิแพ้ในอนาคต
  4. ขาดสารอาหารที่จำเป็น เนื่องจากเด็กวัยแรกเกิดถึง 6 เดือน ควรจะได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนจากนมแม่เป็นหลัก ซึ่งในนมแม่มีสารอาหารมากกว่า 200 ชนิด ในขณะที่กล้วยมีสารอาหารแค่ 20 ชนิดเอง หากให้ทานกล้วยจนอิ่มมากเกินไป จะทำให้เด็กทานนมได้น้อย และขาดสารอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตได้นะคะ
  5. เกิดภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจ เกิดจากเด็กทารกอายุน้อยยังไม่พร้อมในการทาน และการกลืนอาหารเสริม ทำให้สำลักกล้วยที่ป้อน ทำให้เกิดภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจ สมองขาดออกซิเจน อาจทำให้ถึงแก่ชีวิต กลายเป็นเจ้าหญิง หรือเจ้าชายนิทรา หรือเป็นปอดอักเสบติดเชื้อรุนแรงได้

เนื่องจากปัจจุบันหลายครอบครัวมี คุณปู่คุณย่า คุณตาคุณยาย มาช่วยเลี้ยงหลานวัยทารก คุณพ่อคุณแม่ควรค่อยๆ อธิบายให้ท่านฟังว่าอย่าเพิ่งให้ทารกแรกเกิดทานอาหารที่นอกเหนือจากนมแม่ในช่วง 6 เดือนแรกเพราะอาจจะเกิดอันตรายกับเด็กอย่างที่หมอได้กล่าวมา ซึ่งอาจรุนแรงถึงแก่ชีวิตได้ค่ะ

ป้อนกล้วยเด็กก่อน 6 เดือน

ป้อนกล้วยเด็ก ทารกกินกล้วย ก่อน 6 เดือน

ควรป้อนกล้วยลูกตอนกี่เดือน

ปกติแล้ว จะเริ่มให้อาหารเสริมทารกช่วง 6 เดือนขึ้นไป รวมถึงกล้วยด้วย แต่ก็มีบางบ้านที่เริ่มอาหารเสริมก่อน 6 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความพร้อมของเด็กแต่ละคน ซึ่งพ่อแม่สามารถให้หมอเด็กช่วยประเมินความพร้อมให้ลูกได้ค่ะ แต่แนะนำว่าครั้งแรกควรป้อนไม่ต้องมาก แล้วค่อยสังเกตอาการลูกว่าเขามีการขับถ่ายอย่างไร ปกติไหม มีอาการอะไรร่วมด้วยหรือเปล่า เพราะ เด็กบางคนกินกล้วยแล้วท้องผูก แต่เด็กบางคนกินกล้วยแล้วถ่ายง่ายนิ่มเป็นปกติดี ถ้าบ้านไหนเริ่มให้ลูกกินกล้วยก่อน 6 เดือน ไม่เป็นอะไร ก็สามารถป้อนได้

คุณหมอส่วนใหญ่แนะนำให้คุณแม่เริ่มอาหารเสริมลูกจากข้าวบดผักไปก่อน เพราะกลัวว่าเด็กบางคนถ้ารู้จักรสชาติหวานก่อนจืด อาจติดรสชาติหวานของกล้วยแล้วไม่ยอมกินผักค่ะ

ที่มา: bnhhospital

บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:

ตารางการนอนของลูกในขวบปีแรก ตอนไหน อย่างไร กี่ชั่วโมง กี่นาที

6 เรื่องที่ห้ามทำเด็ดขาด ในการเลี้ยงลูกขวบปีแรก

ความมหัศจรรย์ของเด็กขวบปีแรกที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน?

บทความจากพันธมิตร
รีวิวเจาะลึกนมผง เด่นเรื่องสมอง เสริม DHA และพัฒนาการรอบด้านของเด็ก แถมมีสารอาหารแน่น มาดูกันชัดๆ ว่ากล่องไหน ตอบโจทย์แม่ที่สุด
รีวิวเจาะลึกนมผง เด่นเรื่องสมอง เสริม DHA และพัฒนาการรอบด้านของเด็ก แถมมีสารอาหารแน่น มาดูกันชัดๆ ว่ากล่องไหน ตอบโจทย์แม่ที่สุด
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
อาหารมื้อแรก สำหรับลูกรัก กินอะไรดี? เพื่อสารอาหารที่ครบถ้วน
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
นมสำหรับเด็กผ่าคลอดเจนใหม่ สร้างสมองไว เสริมภูมิคุ้มกันแข็งแรง ที่แม่ยุคใหม่เลือก
Easy Life III เครื่องปั๊มนม Hands-Free จากแบรนด์ไทยอย่าง Attitude Mom ออกแบบเพื่อชีวิตการปั๊มนมของคุณแม่ที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมพร้อมการควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ
Easy Life III เครื่องปั๊มนม Hands-Free จากแบรนด์ไทยอย่าง Attitude Mom ออกแบบเพื่อชีวิตการปั๊มนมของคุณแม่ที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมพร้อมการควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

Khunsiri

  • หน้าแรก
  • /
  • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
  • /
  • ป้อนกล้วยเด็กก่อน 6 เดือน อันตราย! ทารกกินกล้วย เสี่ยงตาย พ่อแม่ต้องระวัง
แชร์ :
  • เซต คอลเกต บัตเตอร์แบร์ [ฟรี! กระเป๋าน้องเนยลายลิมิเต็ด]

    เซต คอลเกต บัตเตอร์แบร์ [ฟรี! กระเป๋าน้องเนยลายลิมิเต็ด]

  • รีวิวเจาะลึกนมผง เด่นเรื่องสมอง เสริม DHA และพัฒนาการรอบด้านของเด็ก แถมมีสารอาหารแน่น มาดูกันชัดๆ ว่ากล่องไหน ตอบโจทย์แม่ที่สุด
    บทความจากพันธมิตร

    รีวิวเจาะลึกนมผง เด่นเรื่องสมอง เสริม DHA และพัฒนาการรอบด้านของเด็ก แถมมีสารอาหารแน่น มาดูกันชัดๆ ว่ากล่องไหน ตอบโจทย์แม่ที่สุด

  • หิวแต่ไม่รู้จะกินอะไรดี!? 10 ไอเดียอาหารคนท้อง อร่อยถูกปาก ลูกได้สารอาหารครบ

    หิวแต่ไม่รู้จะกินอะไรดี!? 10 ไอเดียอาหารคนท้อง อร่อยถูกปาก ลูกได้สารอาหารครบ

  • เซต คอลเกต บัตเตอร์แบร์ [ฟรี! กระเป๋าน้องเนยลายลิมิเต็ด]

    เซต คอลเกต บัตเตอร์แบร์ [ฟรี! กระเป๋าน้องเนยลายลิมิเต็ด]

  • รีวิวเจาะลึกนมผง เด่นเรื่องสมอง เสริม DHA และพัฒนาการรอบด้านของเด็ก แถมมีสารอาหารแน่น มาดูกันชัดๆ ว่ากล่องไหน ตอบโจทย์แม่ที่สุด
    บทความจากพันธมิตร

    รีวิวเจาะลึกนมผง เด่นเรื่องสมอง เสริม DHA และพัฒนาการรอบด้านของเด็ก แถมมีสารอาหารแน่น มาดูกันชัดๆ ว่ากล่องไหน ตอบโจทย์แม่ที่สุด

  • หิวแต่ไม่รู้จะกินอะไรดี!? 10 ไอเดียอาหารคนท้อง อร่อยถูกปาก ลูกได้สารอาหารครบ

    หิวแต่ไม่รู้จะกินอะไรดี!? 10 ไอเดียอาหารคนท้อง อร่อยถูกปาก ลูกได้สารอาหารครบ

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว