แชร์วิธี น้ำหนักหลังคลอด ของ Kassidy Linde แม่ลูกอ่อน ที่เคยแบกน้ำหนักกว่า 120 กิโลกรัมระหว่างตั้งครรภ์ จนทำให้คนรอบข้างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่มีวันที่เธอจะผอมลงได้แน่ ยิ่งมีลูก ยิ่งลดยาก แต่นั้นก็เป็นเพียงเสียงนกเสียงกาที่เธอปล่อยมันไป เพราะภายใน 2 ปี แม่ลูกอ่อนรายนี้ ได้ลบคำสบประมาทลงได้ น้ำหนักหายไปจากเดิมจนเหลือเพียง 60 กก. มีหุ่นที่สวยสะพรึ่งอย่างกันคนละคน เธอทำได้ไง?
แชร์วิธี น้ำหนักหลังคลอด ของแม่ลูกอ่อน ที่เคยอ้วนถึง 120 กก.!!
#เธอเลือกที่จะงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ น้ำหวาน น้ำอัดลม
บรรดาเครื่องดื่มเหล่านี้ล้วนเป็นตัวทำให้อ้วนทั้งนั้น Kassidy Linde เลือกที่จะแก้ไขที่ต้นเหตุ โดยเลิกดื่มเครื่องดื่มพวกนี้ไป วันไหนมีงานปาร์ตี้ต้องสังสรรค์ ก็จิบพอประมาณ และกลับมาออกกำลังกายเพื่อเบิร์นซะ
#ไม่ต้องสนใจนับแคลอรี่ เพียงแต่กินในปริมาณที่พอเหมาะในแต่ละวัน
อย่าไปกดดันตัวเองว่าต้องกินให้ได้วันละกี่แคลอรี่ Kassidy Linde ไม่ได้ซีเรียสเรื่องการควบคุมอาหารอย่างจริงจัง แต่เลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพในปริมาณที่พอเหมาะ และรู้ว่าอาหารที่กินไปแต่ละมื้อนั้นให้พลังงานที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
#ใช้วิธีจัดและเตรียมตารางอาหารล่วงหน้าเป็นอาทิตย์
ด้วยความที่เป็นแม่ลูกอ่อน จึงทำให้ไม่มีเวลาต้องเข้าครัวได้ทุกมื้อ Kassidy Linde ใช้วิธีซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารสำหรับกินหนึ่งอาทิตย์ โดยคำนวนว่าจะเพียงพอ กินเท่าไหร่ก็ซื้อแค่นั้น วิธีนี้เธอบอกว่าดีมาก เพราะเป็นการประหยัดเงินที่ไม่ต้องออกนอกบ้านไปซื้อบ่อย ๆ เมื่อหมดก็ไม่ต้องซื้อเพิ่ม เมื่อไม่มีของเหลือก็ทำให้ตัวเองไม่ต้องกินเพิ่มเยอะกว่าเดิม
#ดื่มน้ำเปล่าให้เยอะๆ
การได้ดื่มน้ำเปล่าอย่างน้อยวันละ 8 แก้วนั้นดีต่อสุขภาพ แต่สำหรับ Kassidy Linde เธอจัดเบิ้ลไปอีกเท่าตัว โดยการดื่มน้ำประมาณวันละ 16 แก้วต่อวัน เพราะทำให้เธอไม่รู้สึกหิวกระหายของกินจุกจิกระหว่างวัน และน้ำเปล่าก็ยังช่วยเรื่องของระบบเผาผลาญ และดื่มน้ำเยอะ ๆ ช่วยให้ผิวพรรณดีขึ้นมากอีกด้วย
#ขาดไม่ได้คือการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
แม้ว่าจะเป็นคุณแม่ลูกอ่อน แต่การแบ่งเวลามาออกกำลังกาย อย่างน้อยอาทิตย์ละ 5 ครั้ง และตั้งใจทำบ่อย ๆ จนเป็นกิจวัตร จะเห็นผลที่เปลี่ยนแปลงของรูปร่างได้แน่นอน ถึงเวลาที่หุ่นเปลี่ยนแปลงนอกจากคุณจะรู้สึกตื่นเต้นกันมันแล้ว แน่นอนว่าคนรอบข้างของคุณก็จะทึ้งในสิ่งที่คุณทำได้ไม่น้อยเช่นกัน
จากแม่ท้องที่เคยอ้วนฉุ ลบคำสบประมาทหลังคลอดจากคนรอบข้าง
กลับมาเป็นแม่ลูกอ่อนที่สวยสะพรึง
ทำไมคุณแม่หลังคลอดจึงมีเซลลูไลท์เยอะ
สาเหตุก็เป็นเพราะ ในช่วงที่คุณแม่กำลังตั้งครรภ์ ฮอร์โมนเอสโตรเจนมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้ระบบการทำงานของหลอดเลือดมีความผิดปกติ เนื่องจากฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นสาเหตุที่ทำให้น้ำที่อยู่ในหลอดเลือดออกมาจากหลอดเลือด และเข้าไปอยู่ในเซลล์ผิวหนังทำให้เกิดการคั่งของน้ำ และเกิดการสะสมจับตัวเป็นก้อนกลายเป็นพังผืดขนาดเล็กๆ ที่เรียกว่า Micro nodule เมื่อมีการสะสมนานๆ จะกลายเป็นก้อนแข็งขนาดใหญ่ขึ้น เรียกว่า Macro nodule และกลายเป็นเซลลูไลท์ในที่สุดค่ะ
การเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ลดน้อยลงด้วยกิจวัตรประจำวันของแม่หลังคลอด ร่างกายยังไม่ฟื้นฟูต้องพักฟื้นจากการคลอด ทำให้ต้องนอนพักผ่อนเยอะ นั่งนานเดินน้อย เพื่อป้องกันแผลผ่าคลอดฉีกขาด ซึ่งการที่ต้องนั่ง หรือนอนนานๆ ทำให้ลดการทำงานของกล้ามเนื้อลงไป มวลกล้ามเนื้อลดขนาดลงไป กลายเป็นไขมันมาห่อหุ้มแทน เมื่อไม่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย หรือไม่มีการบริหารกล้ามเนื้อ ก็ยากต่อการสลายไขมัน ไขมันก็จะเกิดการสะสมเป็นพังผืดขึ้น และกลายเป็นเซลลูไลท์ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ หากคุณแม่ละเลย และปล่อยตัวไม่ดูแล คิดว่าคงไม่เป็นไร…คิดอย่างนี้ไม่ได้นะคะ เพราะเซลลูไลท์เป็นบ่อเกิดของการเกิดโรคได้ ควรเร่งสลายไขมันเพื่อสุขภาพของคุณแม่เองค่ะ
วิธีสลายไขมัน ลดพุง ลดต้นขา ของคุณแม่หลังคลอดบุตร
สำหรับคุณแม่ที่เพิ่งคลอด ซึ่งโดยปกติแล้ว จะใช้เวลาประมาณ 6 สัปดาห์ ร่างกายจึงจะกลับคืนสู่สภาพปกติที่เราเรียกว่า มดลูกเข้าอู่นั่นเองค่ะ ซึ่งคุณแม่ทั้งหลาย ก็อย่าเพิ่งรีบร้อนที่จะทำให้หน้าท้องกลับคืนสู่สภาพเดิมจนกว่าจะถึงเวลานะคะ ระหว่างนี้แนะนำว่าอย่าเพิ่งออกกำลังกาย หรือพยายามลดความอ้วน หรือทำการสลายไขมันจนกว่าร่างกายจะกลับมาสู่สภาพปกติค่ะ
หลังจากเมื่อร่างกายกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ก็ได้เวลาที่คุณแม่ต้องเอาจริงเอาจังกับการสลายไขมันรอบเอว และต้นขา ดังนี้ค่ะ
1. เลือกรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์
อาหารการกินเรื่องสำคัญอันดับหนึ่ง คุณแม่หลังคลอดสามารถลดความอ้วน สลายไขมันได้ง่ายๆ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินของตัวเองตาม ดังต่อไปนี้ค่ะ
- รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างพอเหมาะ เนื่องจากลูกน้อยจะได้รับสารอาหารจากสิ่งที่คุณแม่รับประทานเข้าไปโดยตรง และเพื่อไม่ให้น้ำหนักตัวของคุณแม่เพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น คุณแม่จึงควรรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบทั้ง 5 หมู่ และควรหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ เช่น อาหารทอด อาหารฟาสต์ฟู้ด ขนมขบเคี้ยว ขนมหวาน รวมถึงน้ำหวาน น้ำอัดลม ฯลฯ เพื่อไม่ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น และยากต่อการสลายไขมันค่ะ
- เน้นรับประทานผักและผลไม้ ผักและผลไม้ส่วนใหญ่มีแคลอรีต่ำ ให้วิตามิน และใยอาหารสูง การรับประทานผักและไม้สามารถช่วยทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้เร็ว ที่สำคัญยังเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการควบคุมแคลอรี และการสลายไขมัน คุณแม่ควรรับประทานผักและผลไม้ให้ได้อย่างน้อยวันละ 5 ส่วน อาจทานแอปเปิ้ล 1 ลูกในตอนเช้า และอีก 1 ลูกในตอนเที่ยง ทานแครอทและแตงโมหลังมื้อเที่ยง ในระหว่างมื้อคุณแม่อาจทานสับปะรดและส้มไปด้วย เพราะผลไม้ทั้งสองชนิดมีวิตามินซี ส่วนมื้อเย็นให้ทานมะละกอสุกเพื่อเพิ่มใยอาหารและช่วยในการขับถ่าย ส่วนน้ำผลไม้สำเร็จรูปบรรจุกล่องไม่ควรดื่ม เพราะนอกจากจะเต็มไปด้วยน้ำตาลและไม่มีประโยชน์แล้ว ยังขาดสารใยอาหารอีกด้วยค่ะ
- จำกัดอาหารจำพวกแป้ง คุณแม่ควรรับประทานอาหารจำพวกแป้งหรือคาร์โบไฮเดรตแต่น้อย พยายามลดแป้งทุกอย่าง เช่น ก๋วยเตี๋ยว อาหารเส้น ผัดไทย ผัดซีอิ๊ว ข้าว (พยายามกินข้าวครั้งละครึ่งจานและเน้นเป็นกับข้าว) ฯลฯ เพื่อช่วยควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้เพิ่มขึ้น สำหรับอาหารประเภทไขมันควรลดปริมาณให้น้อยลง แต่ไม่ควรงด หรือสลายไขมันเสียทั้งหมด เพราะร่างกายยังจำเป็นต้องใช้ไขมันในการละลายวิตามินเอ วิตามินดี วิตามินอี และวิตามินเค
- รับประทานอาหารให้ครบทุกมื้อ (อย่างดมื้อใดมื้อหนึ่ง)
- แบ่งอาหารเป็นจานเล็กๆ หรือมื้อเล็กๆ วันละ 4-5 มื้อ จากการวิจัยพบว่าการรับประทานอาหารจานเล็กๆ สามารถช่วยคุมปริมาณอาหารและช่วยควบคุมน้ำหนักได้ค่ะ
- รับประทานแต่ของว่างที่มีประโยชน์ คุณแม่หลังคลอดไม่ควรปล่อยให้ท้องว่างเป็นเวลานานเกิน 3-4 ชั่วโมงนะคะ โดยเฉพาะกับคุณแม่ที่ต้องให้นมลูก เพราะจะทำให้คุณแม่รู้สึกหิวมาก จนทานอาหารในปริมาณมากเกินไป ส่วนของว่างจำพวกขนมหวาน น้ำหวาน ช็อกโกแลต ฯลฯ ควรงดไปก่อน แล้วหันมารับประทานพวกธัญพืชอบแห้ง ขนมปังโฮลวีต ข้าวกล้อง โยเกิร์ต และผลไม้สดๆ แทนจะดีกว่า (ควรเป็นผลไม้ที่ไม่หวานจัด เช่น ฝรั่ง ชมพู่ มะละกอ)
- คุณแม่ต้องมั่นใจว่าได้รับพลังงานมากกว่า 1,800 กิโลแคลอรีต่อวัน ถึงจะเพียงพอต่อคุณแม่และลูกน้อย และการขาดแคลอรีจะทำให้อารมณ์คุณแม่เปลี่ยนแปลงได้ง่าย มีอารมณ์ฉุนเฉียว และหงุดหงิดง่ายได้ค่ะ
2. ให้ลูกน้อยดูดนมจากเต้า
การให้ลูกน้อยดูดนมแม่ให้ประโยชน์ต่อคุณแม่มากมายเลยนะคะ เช่นมดลูกเข้าอู่เร็ว ลูกได้รับสารอาหารจากนมแม่อย่างเต็มที่ เป็นภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ นอกจากนี้ ยังช่วยลดอาการหน้าท้องใหญ่หย่อนยานได้ดีอีกด้วย เมื่อคุณแม่ให้ลูกน้อยดูดนมแม่ ร่างกายของคุณแม่จะเผาผลาญพลังงาน สลายไขมันไปด้วย และอาหารที่ทานเข้าไปส่วนมากเวลาให้นมลูกก็มักจะเป็นอาหารที่ดีและมีประโยชน์ เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยลดน้ำหนัก และสลายไขมันส่วนเกินของคุณแม่ให้หายไปอย่างรวดเร็วค่ะ
3. คุณแม่ต้องดื่มน้ำเยอะๆ
การดื่มน้ำจะทำให้ระบบขับถ่ายของคุณแม่ดีมากขึ้น แม้อาจต้องเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น แต่น้ำหนักของคุณแม่ก็จะลดลงตามไปด้วย และการดื่มน้ำมากๆ ยังช่วยในเรื่องการผลิตน้ำนมให้มีมากขึ้นอีกด้วยค่ะ น้ำนมมาก ลูกกินมาก ระบบเผาผลาญในร่างกายก็ทำงานหนักมากขึ้น ทำให้สลายไขมันได้ดีขึ้น รับรองคุณแม่ผอมลงทันใจแน่นอนค่ะ
4. ขยับร่างกายตลอด อย่าอยู่นิ่ง
คุณแม่ควรทำตัวแอ็กทีฟโดยการเดินบ่อยๆ อย่ามัวแต่นั่งหรือนอนเล่นอยู่กับที่เป็นเวลานาน ๆ ยิ่งถ้าคุณแม่เป็นคนไม่ชอบออกกำลังกายด้วยแล้ว การหันมาทำงานบ้านอย่างการทำความสะอาด กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน หรือการทำกิจกรรมอื่นๆ เล็กๆ น้อยอยู่ตลอดเวลา ก็ช่วยให้น้ำหนักส่วนเกินลดลง สลายไขมันได้แบบไม่น่าเชื่อนะคะ
ส่วนการทำกิจกรรมร่วมกับคุณแม่คนอื่นๆ ก็สามารถช่วยได้เหมือนกัน เช่น การนัดพบคุณแม่ท่านอื่นเพื่อให้ลูกได้มาเล่นด้วยกัน การจัดกิจกรรมในหมู่เพื่อนบ้านด้วยกัน การนัดออกกำลังกายร่วมกัน เช่น การรวมกลุ่มเพื่อนๆ ไปเดินที่สวนสาธารณะ เล่นโยคะ หรือไปเล่นฟิตเนส ฯลฯ เพราะตราบเท่าที่คุณแม่ยังทำตัวแอ็กทีฟอยู่ทุกวัน คุณแม่ก็สามารถลดน้ำหนักส่วนเกิน สลายไขมันได้อย่างไม่ยากเย็นค่ะ
5.ท่าออกกำลังกายสลายไขมัน ลดพุง ลดต้นขา ฉบับคุณแม่หลังคลอด
สำหรับคุณแม่หลังคลอดและมีร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ปกติแล้ว เรามีท่าออกกำลังกายเพื่อสลายไขมันหน้าท้อง และต้นขา มาฝากค่ะ
ที่มา : https://women.mthai.com
บทความอื่นที่น่าสนใจ :
เหตุผลที่แม่ลูกอ่อนไม่ควรรีบร้อนลดน้ำหนักหลังคลอด
ผลไม้ลดน้ำหนักหลังคลอด อยากหุ่นดีต้องจัด!
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!