ตารางอาหารที่เด็กควรได้รับใน 1 วัน ในช่วงอายุตั้งแต่ 1 – 5 ปี
เรามาดูกันว่า ตารางอาหารที่เด็กควรได้รับใน 1 วัน ในช่วงอายุตั้งแต่ 1 – 5 ปี มีอะไรบ้าง
กลุ่มอาหารประเภทข้าว – แป้ง
- เด็กช่วงอายุ 1 – 3 ปี : 3 ทัพพี
- เด็กช่วงอายุ 4 – 5 ปี : 5 ทัพพี
คุณพ่อคุณแม่อาจให้ลูกกินข้าวสุก(หุงไม่เช็ดน้ำหรือนึ่ง) ข้าวเหนียวนึ่ง ขนมจีน ก๋วยเตี๋ยว ขนมปัง เผือก มัน สลับผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปได้ครับ
อาหารประเภทผัก
- เด็กช่วงอายุ 1 – 3 ปี : 2 ทัพพี
- เด็กช่วงอายุ 4 – 5 ปี : 3 ทัพพี
คุณพ่อคุณแม่สามารถสร้างนิสัยการกินผักให้ลูกได้ตั้งแต่ยังเล็ก และควรให้ลูกกินผักใบเขียวเข้ม เช่นคะน้า ผักสีเหลือง – ส้ม เช่นแครอท และผักอื่นๆสลับหมุนเวียนกันไป
อาหารจำพวกผลไม้
- เด็กช่วงอายุ 1 – 3 ปี : 3 ส่วน
- เด็กช่วงอายุ 4 – 5 ปี : 3 ส่วน
ให้ลูกกินผลไม้สดตามฤดูกาลประมาณ 3 ส่วนต่อวัน แต่ 1 ส่วนของผลไม้แต่ละชนิดนั้นจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับผลไม้ชนิดนั้นๆ เช่น ใน 1 ส่วน แบ่งได้เป็น กล้วยน้ำหว้า 1 ผล ส้มเขียวหวาน 2 ผลกลาง เงาะ 4 ผล ฝรั่ง ครึ่งผล มะม่วง ครึ่งผล มะละกอสุก 6 ชิ้นพอดีคำ หรือสัปปะรด 6 ชิ้นพอดีคำ ที่สำคัญอย่าลืมล้างให้สะอาดก่อนนะครับ
อาหารประเภทเนื้อสัตว์
- เด็กช่วงอายุ 1 – 3 ปี : 3 ช้อนกินข้าว
- เด็กช่วงอายุ 4 – 5 ปี : 3 ช้อนกินข้าว
ควรให้ลูกกินเนื้อสัตว์ที่ผ่านการปรุงสุก โดยหั่นเป็นชิ้นเล็กๆเพื่อให้เคี้ยวง่าย โดยให้ลูกกินปลา ไข่ หมู ไก่ เป็น ตับ และอาหารทะเลสลับกันไป
นม
- เด็กช่วงอายุ 1 – 3 ปี : 2 แก้ว
- เด็กช่วงอายุ 4 – 5 ปี : 3 แก้ว
คุณพ่อคุณแม่อาจให้ลูกกินโยเกิร์ตควบคู่กันไปด้วยก็ได้นะครับ โดยนมสด 1 แก้วจะเท่ากับโยเกิร์ต 150 กรัม โดยประมาณ
น้ำมันและกะทิ
- เด็กช่วงอายุ 1 – 3 ปี : น้อยกว่า 3 ช้อนชา
- เด็กช่วงอายุ 4 – 5 ปี : น้อยกว่า 4 ช้อนชา
ควรระวังไม่ให้ลูกกินอาหารที่มีน้ำมันหรือกะทิมากเกินไปนะครับ เพราะจะทำให้ลูกอ้วนได้
น้ำตาล
- เด็กช่วงอายุ 1 – 3 ปี : น้อยกว่า 2 ช้อนชา
- เด็กช่วงอายุ 4 – 5 ปี : น้อยกว่า 3 ช้อนชา
ไม่ควรให้ลูกได้รับปริมาณน้ำตาลมากเกินไปนะครับ เพราะอาจทำให้ผอม หรืออ้วน และฟันผุได้ คุณพ่อคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้ลูกกินขนมและเครื่องดื่มที่มีรสหวานจัด เช่นลูกอม น้ำหวาน น้ำอัดลม
คำแนะนำในการเลือกซื้อขนมให้เด็ก
- ไม่ควรให้เด็กเล็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบกินลูกอม ลูกกวาดหรือถั่วที่เป็นเม็ด ๆ เพราะอาจเป็นอันตรายทำให้เกิดการสำลักและติดหลอดคอได้
- ไม่ควรซื้อขนมเก็บตุนไว้ในบ้านจำนวนมากๆ
- ควรอ่านฉลากอาหารให้ดีก่อนซื้อ
- ควรปลูกฝังให้เด็กรับประทานผลไม้ไม่หวานแทนขนมหวานและขนมซอง
- ไม่ควรเลือกขนมกรอบ หรือขนมเคลือบน้ำตาลที่เหนียวติดฟัน
ที่มา ส่วนหนึ่งจากสมุดบันทึกสุขภาพแม่และเด็ก กระทรวงสาธารณสุข
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ
ลูกติดรสหวาน ทำอย่างไรดี?
รักลูกอย่านิ่งนอนใจ ระวังอันตรายใกล้ตัวคร่าชีวิตลูก
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!