อาการคนท้องเดือนที่ 3 ร่างกายของคุณแม่เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไม่อย่างมาก พร้อมทั้งอาการต่าง ๆ ที่บ่งบอกถึงลูกน้อยและคุณแม่ แม่ๆ จะรับมือกับช่วงเวลาเดือนที่ 3 ได้อย่างไร theAsianparent Thailand เตรียมข้อมูลมาให้คุณแม่ได้อ่านกันแล้วค่ะ
ร่างกายของคุณแม่ท้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง
- อารมณ์ ถึงแม้ว่าจะยังมีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิดอยู่บ้าง แต่ก็ไม่มากเท่าช่วงสองเดือนแรก นั่นเพราะระดับฮอร์โมนภายในร่างกายเริ่มมีความสมดุลมากขึ้น
- อาการแพ้ท้อง จะเริ่มค่อยๆ ลดลงทำให้แม่ท้องทานอาหารได้อร่อยมากขึ้น
- มดลูก ความกว้างของมดลูกขยายใหญ่มากขึ้น ซึ่งคุณหมอสามารถตรวจและคลำได้อย่างชัดเจน
- น้ำหนักตัว ของคุณแม่เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย
- ระบบไหลเวียนเลือด คุณแม่ท้องจะมีความดันโลหิตลดต่ำลง เนื่องจากผลของฮอร์โมนที่มีต่อการขยายตัวของหลอดเลือดทำให้เลือดกระจายไปหล่อเลี้ยงทั่วร่างกายได้อย่างสมดุล
- ขนาดร่างกายขยายใหญ่มากขึ้น สังเกตได้จากบริเวณเต้านมทั้งสองข้าง ต้นแขน ต้นขา และสะโพก เป็นต้น
- รก ถูกพัฒนาขึ้นมาทำหน้าที่ในการลำเลียงสารอาหาร ออกซิเจนไปมาระหว่างคุณแม่กับทารก ซึ่งรกจะหนาขึ้นพร้อมๆ กับเยื่อหุ้มทารกที่อยู่ภายในจะขยายขนาดใหญ่จนมาติดกับรก และล้อมด้านในของโพรงมดลูกไว้ทั้งหมด
พัฒนาการทารกในครรภ์ช่วงการตั้งครรภ์เดือนที่ 3
-
- เมื่ออายุครรภ์ครบ 3 เดือน เราจะเรียกตัวอ่อนในครรภ์ว่าทารก เพราะเริ่มมีอวัยวะครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว หากคุณแม่ได้ทำอัลตราซาวนด์ในช่วงนี้ คุณหมอจะชี้ให้เห็นว่าส่วนหัวของทารกจะมีขนาดใหญ่กว่าช่วงลำตัว ส่วนหัวทารกจะยาวประมาณ 1 ใน 3 ส่วนของความยาวลำตัว
- ทารกมีการพัฒนาหน้าตา และนัยน์ตาอย่างสมบูรณ์แล้ว เริ่มเห็นคาง หน้าผาก จมูก มีเล็บมือ และเล็บเท้า
- ช่วงลำตัวทารกจะเริ่มมีกระดูก ซี่โครง ในช่วงนี้ทารกมีความต้องการแคลเซียมจำนวนมากเพื่อนำมาสะสมใช้ในการสร้างกระดูกให้แข็งแรง ทารกจะดึงแคลเซียมจากคุณแม่มาใช้เป็นจำนวนมาก จึงแนะนำว่าคุณแม่ควรทานอาหารที่มีแคลเซียมเสริมให้ร่างกายของตัวเองอยู่ตลอดเวลา
- ทารกจะมีขากรรไกร เหง้าฟันแท้ทั้ง 32 ซี่ ที่ซ่อนอยู่ในปุ่มเหงือกอย่างครบถ้วน
- การเต้นของหัวใจ เริ่มช้าลง ประมาณ 110-160 ครั้งต่อนาที ระบบกลืนเริ่มทำงาน ทารกเริ่มกลืนน้ำคร่ำและถ่ายปัสสาวะ
- หัวใจ ตับ ปอด ม้าม ลำไส้ กระเพาะอาหาร และอวัยวะเพศ ถูกพัฒนาขึ้นมา ซึ่งอวัยวะต่างๆ ทั้งหมดภายในร่างกายของทารกจะยังไม่มีความสมบูรณ์ ซึ่งต่อพัฒนาให้สมบูรณ์มากขึ้นไปตลอดช่วงการตั้งครรภ์ทั้ง 40 สัปดาห์
อาหารที่ควรทานในช่วงตั้งครรภ์เดือนที่ 3 อ่านหน้าต่อไปคลิก
อาหารที่เหมาะสมสำหรับการตั้งครรภ์เดือนที่ 3
- คุณแม่ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 8-10 แก้ว และในช่วงเดือนนี้มดลูกจะขยายใหญ่มากขึ้นทำให้ไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ ทำให้คุณแม่ต้องเข้าห้องน้ำบ่อยกว่าปกติ
- วิตามินซี ซึ่งมีอยู่ในผักผลไม้หลายชนิด นอกจากจะช่วยให้กระดูกและฟันของทารกแข็งแรงแล้ว ยังช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิวหนัง ทำให้ช่วยลดโอกาสผิวบริเวณหน้าท้องแตกลายได้
- แคลเซียม มีความจำเป็นต่อร่างกายของคุณแม่มาก นั่นเพราะส่วนหนื่งจะถูกส่งไปให้ทารกในครรภ์ใช้ในการสร้างกระดูก คุณแม่ควรต้องเน้นทานอาหารที่มีแคลเซียมมากๆ หรือแคลเซียมเม็ดที่คุณหมอแนะนำให้ทานก็ควรทานให้ครบ ตัวอย่างอาหารที่มีแคลเซียม เช่น งาดำ งาขาว ผักคะน้า บร็อกโคลี่ ข้าวโอ๊ต กุ้งแห้งตัวเล็ก ปลาซาร์ดีน ถั่วแระ กะปิ เนย นม ชีส โยเกิร์ต ถั่วเหลือง เต้าหู้เหลือง อัลมอนด์ ปลากรอบที่กินได้ทั้งกระดูก เป็นต้น
นอกจากการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของคุณแม่ท้อง และพัฒนาการของทารกในครรภ์แล้ว อีกเรื่องหนึ่งที่คุณแม่ท้องมักมีความกังวลใจกันมาก นั่นคือเรื่องของผิวพรรณ เพราะขนาดครรภ์ที่ขยายใหญ่ขึ้น ทำให้ผิวหนังเกิดการยึดตาม ซึ่งทำให้คุณแม่เกิดอาการคันที่มาจากผิวหนังขาดความชุ่มชื้นจึงทำให้ผิวแห้ง เริ่มมีรอยแตกลายขาวๆ เกิดขึ้น แนะนำว่าหากคันผิวไม่ควรเกา แต่ให้แก้ด้วยการทาครีม หรือน้ำมันสำหรับทาผิวเพื่อเป็นการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เพื่อลดอาการคันผิวลงค่ะ ส่วนเรื่องการแตกลายของผิวอาจไม่ได้เกิดขึ้นกับแม่ท้องทุกคน ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคนด้วยว่ามีความยืดหยุ่น แข็งแรงมากแค่ไหน แต่เพื่อป้องกันเรื่องผิวแตกลาย แนะนำให้ทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำมากๆ หมั่นออกกำลังกาย ทาครีม ทาโลชั่นบำรุงผิวเป็นประจำ ซึ่งทั้งหมดนี้ควรทำก่อนมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ถึงจะได้ผลดีที่สุดค่ะ
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ
อาการคนท้องเดือนที่ 4 ตั้งครรภ์สัปดาห์ที่ 12
อาหาร 7 อย่างที่แม่ท้องไม่ควรกินตอนท้องว่าง
แม่ท้องขาดกรดโฟลิกทำให้ลูกเสี่ยงพิการและพัฒนาการล่าช้า
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!