ช่วงฤดูฝนนั้น โรคที่เปรียบเสมือนฝันร้ายของคุณพ่อคุณแม่นอกจาก โรคมือเท้าปาก แล้วก็คงหนีไม่พ้นโรคหลอดลมฝอยอักเสบจากไวรัส RSV ซึ่งเจ้าไวรัสตัวนี้จะก่อให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ และสามารถเป็นได้ทั้งเด็กเล็ก เด็กโต และผู้ใหญ่
ไม่นานมานี้ได้มีเพจดังอย่าง เภสัชจิก เปิดเผยเรื่องราวประสบการณ์จริงของลูกชายวัยเพียง 5 เดือนที่ติดเชื้อไวรัส RSV มาจากการโดนคนแปลกหน้าหอมแก้ม! ทำให้เป็นที่แชร์กันมากในสังคมโซเชียล โดยอาการของที่พ่อแม่ทุกคนจะสามารถสังเกตได้คือ
1. ลูกหายใจครืดคราด เหมือนมีเสมหะคั่งอยู่ในและในจมูก
2. หายใจถี่ หายใจเร็ว
3. ไอโขลก ๆ
4. หอบเหนื่อย
5. หายใจมีเสียงวี๊ด
6. บางรายที่เป็นมากก็อาจมีอาการขาดออกซิเจน ปากเขียว ตัวเขียวได้
เนื่องจากโรคนี้ยังไม่มียารักษา จึงทำได้แต่เพียงรักษาไปตามอาการเท่านั้น โดยการให้น้ำเกลือ ให้นอนดมท่อออกซิเจนตลอดเวลา และหมอจะให้พ่นยาขยายหลอดลมไปด้วย ซึ่งสิ่งที่ทรมานใจที่สุดสำหรับหัวอกคุณพ่อคุณแม่ก็คือ การเคาะปอดและดูดเสมหะนั่นเอง ทั้งนี้เด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้จะต้องทำการวัดค่าออกซิเจนวันละหลาย ๆ รอบ เพราะถ้าหากออกซิเจนในเลือดต่ำ นั่นหมายถึงร่างกายกำลังจะขาดออกซิเจนไปด้วย ถือว่าอันตรายมาก
ปัจจุบันนี้ น้องได้หายดีแล้ว แต่นับว่าหมดค่ารักษาพยาบาลไปเยอะมากจริง ๆ คุณแม่จึงอยากออกมาเตือนทุกคนทั้งที่มีลูกและไม่มีลูกว่า การที่เห็นเด็กน่ารักน่าเอ็นดูนั้น ไม่ควรไปสัมผัส ลูบคลำ จับต้อง กอดรัดฟัดแก้มอะไรทั้งนั้นจะดีที่สุด ปล่อยให้คุณพ่อคุณแม่เค้าอุ้มไปค่ะ เพราะเราอาจจะมีเชื้อโรคที่ไม่ก่อโรคสำหรับเราแต่ก่อโรครุนแรงแก่เด็กเล็กได้
เรามาทำความรู้จักกับโรคหลอดลมฝอยอักเสบจากการติดเชื้อไวรัส RSV ได้ที่หน้าถัดไปค่ะ
หลอดลมฝอยอักเสบจากการติดเชื้อไวรัส RSV คืออะไร?
หลอดลมฝอยอักเสบ คือ โรคติดเชื้อที่เกิดจากการอักเสบของหลอดลมฝอย พบในผู้ป่วยเด็กอายุน้อยกว่า 2 ปี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงอายุน้อยกว่า 6 เดือน พบว่าเป็นสาเหตุสำคัญในการรักษาตัวในโรงพยาบาลด้วยอาการหอบเหนื่อยค่ะ
สาเหตุของหลอดลมฝอยอักเสบมีอะไรบ้าง?
สาเหตุโรคหลอดลมฝอยอักเสบส่วนใหญ่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสในระบบทางเดิน หายใจ ซึ่งติดต่อโดยการไอจามรดกัน พบว่าเชื้อไวรัสชื่อ respiratory syncytial virus (RSV-อาร์เอสวี) เป็นสาเหตุมากที่สุด คือประมาณร้อยละ 70-80 ของผู้ป่วยเด็กที่เป็นโรคหลอดลมฝอยอักเสบทั้งหมด ไวรัสอื่นๆ ที่พบเป็นสาเหตุ ได้แก่ parainfluenza virus, influenza virus, adenovirus, enterovirus และ human metapneumovirus นอกจากนี้ และยังพบสาเหตุจากการติดเชื้อแบคทีเรีย mycoplasma ได้บ้าง
เนื่องจากโรคนี้มีสาเหตุส่วนใหญ่จากเชื้ออาร์เอสวี ในที่นี้เราจะกล่าวถึงโรคหลอดลมฝอยอักเสบจากเชื้ออาร์เอสวีเป็นหลักนะคะ
อาการของหลอดลมฝอยอักเสบจากเชื้อ RSV เป็นอย่างไร?
เมื่อมีการติดเชื้อ RSV เด็กๆ จะมีอาการ เหมือนไข้หวัดธรรมดา คือ มีน้ำมูกใสๆ ไอ ไข้ต่ำๆนำมาก่อน หลังจากนั้นประมาณ 2-3 วันอาจมีอาการหายใจเร็ว หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงหวีด บางครั้งไข้ขึ้นสูง 40-41 องศาเซลเซียสได้ ต่อมาหากได้รับการรักษาอย่างถูกต้องมักจะมีอาการดีขึ้นภายใน 3-4 วันภายหลังจากได้รับการรักษา มีผู้ปวยเด็กบางรายที่มีภาวะการหายใจล้มเหลวจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ
คุณหมอจะวินิจฉัยโรคหลอดลมฝอยอักเสบจากเชื้ออาร์เอสวีได้อย่างไร?
คุณหมอสามารถวินิจฉัยโรคนี้ได้จากประวัติอาการและการตรวจร่างกายเด็กเป็น หลัก นอกจากนี้ปัจจุบันนิยมใช้การตรวจหาเชื้อไวรัส RSV จากสิ่งคัดหลั่งในจมูก หรือคอมาช่วยในการวินิจฉัย การตรวจทางห้องปฏิบัติการ เช่น การตรวจนับจำนวนเม็ดเลือด และการตรวจภาพถ่ายรังสีทรวงอกมักไม่มีลักษณะจำเพาะและไม่ช่วยในการวินิจฉัย โรค แต่อาจช่วยในการวินิจฉัยแยกจากโรคอื่นๆ ที่มีลักษณะอาการคล้ายกันหรือในรายมีอาการรุนแรงเพื่อดูว่ามีภาวะแทรกซ้อน เช่นปอดอักเสบติดเชื้อร่วมด้วยหรือไม่
การรักษาโรคหลอดลมฝอยอักเสบจากเชื้อ RSV ทำได้อย่างไร?
เนื่องจากปัจจุบันยาต้านไวรัสอาร์เอสวีมีการศึกษาถึงประสิทธิภาพและความ คุ้มค่าในการใช้ยาไม่ชัดเจน วิธีการใช้ที่ยุ่งยากเนื่องจากมีแต่รูปแบบพ่น และมีราคาแพงมาก คุณหมอจึงรักษาโรคนี้โดยเน้นที่การรักษาประคับประคองและการรักษาตามอาการ ได้แก่ การให้ออกซิเจนในผู้ป่วยที่มีอาการหอบเหนื่อย ให้น้ำอย่างเพียงพอ หากทานไม่ได้จะให้น้ำเกลือทางเส้นเลือด ให้ยาลดไข้และเช็ดตัว ให้ยาขยายหลอดลมชนิดพ่นฝอยละออง ให้ยาปฏิชีวนะในรายที่มีหลักฐานว่าผู้ป่วยมีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อน และติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ถ้าอาการแย่ลงหรือมีอาการของภาวะหายใจล้มเหลวคุณหมออาจพิจารณาใส่เครื่อง ช่วยหายใจให้ค่ะ
ภาวะแทรกซ้อนของโรคหลอดลมฝอยอักเสบจากเชื้อ RSV มีอะไรบ้าง?
ภาวะแทรกซ้อนของโรคหลอดลมฝอยอักเสบจากเชื้อ RSV มีทั้งภาวะแทรกซ้อนที่ เกิดขึ้นในระยะเเรกและในระยะหลังภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นในระยะเเรกที่สำคัญ ได้แก่ การเกิดภาวะการหายใจล้มเหลว มักพบในผู้ป่วยเด็กที่อายุน้อยกว่า 6 เดือน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เด็กที่มีประวัติเกิดก่อนกำหนด (อายุครรภ์น้อยกว่า 32 สัปดาห์) ภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้นในระยะหลัง ได้แก่โรคหืด โดยมีการศึกษาพบว่าร้อยละ 25-50 ของผู้ป่วยที่เคยมีประวัติหลอดลมฝอยอักเสบจากเชื้ออาร์เอสวีเมื่ออายุน้อย กว่า 2 ปี มีโอกาสเกิดโรคหืดและมีสมรรถภาพของปอดที่ผิดปกติตามมาเมื่อเด็กโตขึ้นแม้ไม่ มีอาการหอบเหนื่อยได้บ่อย
เราสามารถป้องกันโรคหลอดลมฝอยอักเสบจากเชื้ออาร์เอสวีได้อย่างไร?
การป้องกันการเกิดโรคนี้ส่วนใหญ่เน้นที่การป้องกันการติดเชื้อไวรัสใน ระบบทางเดินหายใจทั่วไป เช่น การล้างมือ สวมหน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงไอจามรดกัน
ในบางประเทศเช่นสหรัฐอเมริกามีการใช้ยาป้องกันไวรัส RSV ในเด็กเกิดก่อน กำหนด และเด็กที่มีโรคประจำตัวซึ่งมีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ แต่ในประเทศไทยยังไม่มียานี้
ที่มา: เภสัชจิก
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
ลูกหายใจเสียงดังวี้ด เป็นโรคหืดหรือไม่?
แม่แชร์ เปิดพัดลมจ่อลูก เสี่ยงปอดอักเสบ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!