คุณแม่ท่านนี้ได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับตัวเองผ่านเพจดังอย่าง “คนท้องคุยกัน” เพื่อจะได้ให้เกิดประโยชน์กับคุณแม่ท้องท่านอื่น ๆ ที่มักจะทำงานหนักและพักผ่อนน้อยในช่วงระหว่างตั้งครรภ์
โดยคุณแม่เล่าว่า คุณแม่เป็นพนักงานเสิร์ฟอยู่ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งที่ต้องทำตลอดทั้งวัน แต่ด้วยความที่อยากได้เงินจึงขอนายจ้างทำงานนานจนถึงเที่ยงคืน ในช่วงแรกด้วยความที่ท้องยังเล็ก ลูกค้าก็ยังไม่สามารถสังเกตเห็น แต่พออายุครรภ์เริ่มมากขึ้น บวกกับเถ้าแก่เจ้าของร้าน ไม่อยากให้เดินมาก จึงให้มานั่งทำที่เคาท์เตอร์แทน
ในทุก ๆ วันคุณแม่จะเดินทางมาทำงานด้วยรถมอเตอร์ไซต์ เพราะจากบ้านไปที่ทำงานไม่ได้ไกลกันมากนัก … คุณแม่ใช้ชีวิตแบบนี้ทุกวันโดยที่ไม่เคยปริปากบ่น จนเพื่อน ๆ และญาติต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พักผ่อนบ้าง คุณแม่เล่าว่า รู้ว่าทุกคนเป็นห่วงตนและทารกในครรภ์ และตัวเองก็เหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่ด้วยความที่ไม่อยากจะรบกวนและยืมเงินคนอื่น ตนจึงต้องอดทนและไม่อาจย่อท้อได้
จนกระทั่งถึงวันครบกำหนดหมอนัดตรวจครรภ์ ซึ่งตอนนั้นอีกไม่กี่สัปดาห์ก็ใกล้คลอดแล้ว น้ำหนักของคุณแม่เพิ่มขึ้นจากก่อนท้อง 40 กิโลกรัมเป็น 60 กิโลกรัม คุณแม่รู้สึกดีใจมาก ๆ ที่อย่างน้อยก็รู้ว่าลูกต้องเป็นเด็กที่แข็งแรงแน่ ๆ แต่แล้วทันทีที่หมอตรวจ ทั้งหมอและพยาบาลก็กลับแสดงสีหน้าท่าทีแปลก ๆ สีหน้าแต่ละคนไม่ค่อยสู้ดีมากนัก ต่างพากันช่วยตรวจครรภ์ของคุณแม่เป็นการใหญ่ ตัวเองก็รู้สึกไม่ดี จึงถามหมอว่าเกิดอะไรขึ้น!
หมอบอกว่าต้องแอทมิทเพื่อเข้ารับการผ่าตัดโดยด่วน คุณแม่จึงถามว่า ทำไมถึงต้องผ่าตัดเลย ในเมื่อยังไม่ถึงกำหนดคลอด และอีกไม่กี่สัปดาห์ก็ถึงวันครบกำหนดแล้ว และคำตอบของหมอ ก็ทำให้คุณแม่หัวใจแทบหยุดเต้น “ทารกในครรภ์เริ่มมีลมหายใจอ่อน และบางครั้งก็มีการหยุดหายใจ ดังนั้นสิ่งที่หมอต้องทำให้เร็วที่สุดก็คือ การผ่าตัดคลอด เพื่อช่วยชีวิตเด็ก”
สิ้นเสียงของหมอ คุณแม่ก็ร้องไห้ไม่หยุด เพราะห่วงลูกมาก ได้แต่ถามเหตุผลว่า เกิดขึ้นเพราะอะไร หมอจึงบอกว่า “สาเหตุที่เกิดขึ้นนั้น เกิดจากภาวะที่คุณแม่พักผ่อนไม่เพียงพอ กินอาหารไม่ตรงเวลา และทำงานหนักมากจนเกินไป ทำให้ทารกในครรภ์เหนื่อยเกินไป”
ทั้งคุณแม่และคุณพ่อต่างพากันร้องไห้และเป็นห่วงลูก ตอนนั้นหมอก็ทำการฉีดยาเร่งคลอดให้แล้ว แต่ร่างกายคุณแม่ก็ไม่ตอบสนอง แต่สุดท้ายหมอก็ช่วยลูกของคุณแม่ได้สำเร็จ … น้องคลอดออกมาด้วยน้ำหนักตัว 3,240 กรัม แต่เพราะร่างกายของน้องไม่ค่อยแข็งแรง หมอจึงต้องให้อยู่พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนาน 7 วัน เพื่อให้มั่นใจว่า น้องมีสุขภาพที่แข็งแรงดีพอแล้ว
ซึ่งปัจจุบัน น้องก็มีอายุได้ 2 เดือนแล้วที่สำคัญทานนมเก่งมาก ๆ เสียด้วย และสิ่งที่คุณแม่ท่านนี้อยากฝากถึงคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ทุก ๆ คนว่า “การทำงานหนักในระหว่างตั้งครรภ์นั้นไม่ใช่เรื่องดี มูลค่าของเงินไม่สามารถเทียบเท่าได้กับชีวิตของลูก การตั้งใจหาเงินโดยที่ไม่ไปขอร้องจากคนอื่นเป็นเรื่องดี แต่เราควรประเมิณตัวเองว่า เราสามารถทำได้มากแค่ไหน และบางทีลูกก็อาจไม่ได้อยากให้เราทำงานหนัก แต่สิ่งที่เขาต้องการก็คือขอให้พวกเราได้ใช้เวลาอยู่ร่วมกันกับเขานั่นเอง”
ที่มา: เพจคนท้องคุยกัน
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
10 เคล็ดลับการดูแลสุขภาพแม่ตั้งครรภ์
อันตราย! ภาวะน้ำคร่ำน้อย ทำทารกโตช้า เสี่ยงแท้งหรือคลอดก่อนกำหนด
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!