X
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้าเข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ตั้งครรภ์
    • คำนวณวันคลอด
    • ฉันกำลังตั้งครรภ์
    • ไตรมาสที่ 1
    • ไตรมาสที่ 2
    • ไตรมาสที่ 3
    • Project Sidekicks
    • ตั้งชื่อลูก
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • อีเว้นท์
    • TAP Awards Winners
    • TAP idol
    • TAP x Safari Largest Treasure Hunt
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

การเลี้ยงลูกให้เป็นคนมีความยืดหยุ่นและมั่นคงทางอารมณ์

บทความ 3 นาที
การเลี้ยงลูกให้เป็นคนมีความยืดหยุ่นและมั่นคงทางอารมณ์

เด็กที่มีความยืดหยุ่นทางอารมณ์ จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สามารถเผชิญกับปัญหาหรือสถานการณ์เหนือความคาดหมาย ด้วยความเข้าใจ และสามารถปรับสภาพจิตใจให้กลับสู่สภาวะปกติได้ในเวลาไม่นาน

การเลี้ยงลูกให้เป็นคนมีความยืดหยุ่นและมั่นคงทางอารมณ์

สิ่งเหล่านี้ไม่สามารถสอนกันได้ข้ามคืน แต่มาจากการเลี้ยงดูที่ถูกต้อง และมีหลักการ การที่คนคนหนึ่งจะสามารถมี ความยืดหยุ่นและมั่นคงทางอารมณ์ จะต้องมาจากประสบการณ์ที่เข้าใจว่าความผิดหวัง การไม่ได้อย่างใจ ล้วนแล้วแต่เป็นกระบวนการของธรรมชาติ และไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติแต่อย่างใด เด็กควรจะได้รู้ว่าความรู้สึกโกรธ โมโห วิตกกังวล หรือเสียใจ เป็นความรู้สึกที่เราสามารถจัดการได้ และจะไม่อยู่กับเรานาน ถ้าเราสามารถอธิบาย และให้กำลังใจกับเด็กในเวลาที่เขาได้เจอกับเหตุการณ์เหล่านี้ลูกของเราก็จะได้เรียนรู้ไปในตัวว่า สิ่งเหล่านี้สามารถเกิดขึ้นได้ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ และก็ไม่ได้แปลว่า สิ่งเหล่านี้จะทำลายความสุขของเราได้ในระยะยาว ถ้าคุณสามารถเป็นตัวอย่างในการจัดการทางอารมณ์ และชี้แนะลูกได้ ลูกของคุณจะเติบโตมาด้วยสุขภาพจิตที่ดีและอารมณ์ที่มั่นคง และลดโอกาสเป็นโรคผิดหวังไม่เป็น และโรคซึมเศร้า

 

เราลองมาดูกันว่า เราควรทำอย่างไร

ความยืดหยุ่นและมั่นคงทางอารมณ์

1.ฟังลูกพูด ถามเรื่องราวแต่ละวัน เรื่องที่ทำให้ลูกโกรธและเสียใจเช่น เรื่องลูกทะเลาะกับเพื่อน โดยเราฟังมากกว่า ที่จะบอกว่าใครผิดใครถูก ฟังด้วยความตั้งใจ การฟังของคุณ เป็นการสื่อให้ลูกรับรู้ว่า คุณรับฟัง คุณเข้าใจและไม่ตัดสิน และคุณยังสามารถแชร์ประสบการณ์ตัวเองได้ด้วย คุณจะพบว่าลูกจะแปลกใจ และรู้สึกดีที่คุณเองก็เคยเจอเหมือนเขา “แม่ก็เคยทะเลาะกับเพื่อน แต่อีกสักพักเราก็คุยกัน เล่นกันไม่โกรธกันอีก การเป็นเพื่อนกันบางทีก็ต้องมีความเข้าใจผิดกันบ้างนะลูก”

การเลี้ยงลูกให้เป็นคนมีความยืดหยุ่นและมั่นคงทางอารมณ์

2. อย่าปกป้องหรือตามใจลูก จนมากเกินไป การที่เราปกป้องลูกมากเกินไป เป็นการส่งเสริมให้ลูกมีความวิตกกังวลโดยไม่จำเป็น

การเลี้ยงลูกให้เป็นคนมีความยืดหยุ่นและมั่นคงทางอารมณ์

3. พ่อแม่ที่พยายามหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทุกชนิดกับลูก เช่น เมื่อลูกถึงวัยที่สมควรจะช่วยเหลือตัวเองบ้าง โดยไม่มีผู้ช่วย เราก็ควรให้ลูกลองผิดลองถูก โดยที่เราลองดูอยู่ห่างๆ ให้คำแนะนำที่เหมาะสมกับวัยและสถานการณ์ สอนให้ลูกเข้าใจว่าคนเราไม่ต้องเก่งทุกๆเรื่องๆ และสามารถทำความผิดพลาดได้ และแก้ไขได้ สอนให้แก้ปัญหาด้วยตัวเอง โดยการแนะแนวทางการการจัดการและแก้ไขกับสถานการณ์และความรู้สึกกังวล  เช่นลูกจะไปเข้าค่ายแทนที่จะบอกว่า ไม่เห็นมีอะไรที่น่ากังวล ให้คุยถึงโปรแกรมที่ลูกจะต้องทำร่วมกับคนอื่น และการต้องปฎิบัติตัว หรือหากมีเหตุการณ์อะไรที่ลูกกังวลเป็นพิเศษ ให้ลองปรึกษาคุยกันถึงแนวทางแก้ไข หรือจัดการ หากลูกเป็นคนขี้อาย เราควรสอนทักษะที่ลูกต้องเรียนรู้ เช่นการทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่ต้องทำอย่างไร สอนวิธีการที่จะจัดการกับสิ่งที่ลูกมองว่าเป็นปัญหา และข้อกังวลใจ

สมมุติว่าลูกกลัวการเรียนว่ายน้ำ แทนที่จะบอกว่า เดี๋ยวลูกก็จะชอบเองให้ลองเปลี่ยนเป็นพูดว่าบางคนก็กลัวการว่ายน้ำแรกๆ เพราะไม่รู้ว่าจะว่ายน้ำยังไง แต่เราต้องเรียน เพราะถ้าลูกจมน้ำ พ่อแม่จะเสียใจที่สุด แม่จะนั่งรอดูข้างสระ ลองดูว่าวันนี้อาจทำได้ดีกว่าหนก่อนนัลูก การที่คุณสนับสนุนให้ลูกก้าวข้ามความกลัวของตัวเอง เป็นการสอนให้ลูกสร้างความมั่นใจและสามารถทำอะไรให้สำเร็จได้

ความยืดหยุ่นและมั่นคงทางอารมณ์

4. สอนให้ลูกรู้จักอารมณ์ต่างๆ และการจัดการกับสถานการณ์ที่มีอารมณ์นั้นเกิดขึ้น เช่นว่าลูกโมโหที่ไม่ได้ ทานไอศรีม เราบอกลูกได้ว่า แม่เข้าใจว่าอยากทานแต่การตะโกนโวยวายเป็นพฤติกรรมที่แม่ว่าไม่ดีเลยหรือถ้าลูกโกรธ เราบอกลูกได้ว่า แม่เข้าใจว่าเป็นแม่ แม่ก็คงโกรธเหมือนลูก แต่เราจะทำอย่างไรกันดีต่อไป ดีกว่านั่งโกรธอยู่อย่างนี้ ด้วยวิธีนี้ คุณกำลังส่งเสริมให้ลูกมีความคิดวิเคราะห์พฤติกรรมตัวเองและจัดการชีวิตตัวเองได้อย่างมีระบบ

การเลี้ยงลูกให้เป็นคนมีความยืดหยุ่นและมั่นคงทางอารมณ์

5. เป็นตัวอย่างที่ดี การมีลูกเป็นการบังคับเรากลายๆ ให้พัฒนาตัวเราเอง ให้เป็นคนที่มีคุณภาพมากขึ้น เพราะสิ่งที่ดีงามมักเริ่มจากพ่อแม่ ถ้าเราอยากให้ลูกเป็นคนมี ความยืดหยุ่นและมั่นคงทางอารมณ์ สามารถเผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ ได้ด้วยความหนักแน่น เราสามารถเป็นตัวอย่างที่ดีได้

 

อาวีนันท์ กลีบบัว

School Executive Director

RBIS Rasami British International School

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

theAsianparent Editorial Team

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • การเลี้ยงลูกให้เป็นคนมีความยืดหยุ่นและมั่นคงทางอารมณ์
แชร์ :
  • แม่รู้ไหม? พัฒนาการสมอง ของลูกเกิดขึ้นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เสริมด้วย สารอาหารสมอง และการนอนอย่างมีคุณภาพ
    บทความจากพันธมิตร

    แม่รู้ไหม? พัฒนาการสมอง ของลูกเกิดขึ้นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เสริมด้วย สารอาหารสมอง และการนอนอย่างมีคุณภาพ

  • จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกชอบอะไร ถนัดอะไร เรามีวิธีสังเกต

    จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกชอบอะไร ถนัดอะไร เรามีวิธีสังเกต

  • สมัยก่อนประวัติศาสตร์ แต่ละยุคสมัยแตกต่างกันอย่างไร มาชมไปพร้อมกัน

    สมัยก่อนประวัติศาสตร์ แต่ละยุคสมัยแตกต่างกันอย่างไร มาชมไปพร้อมกัน

  • แม่รู้ไหม? พัฒนาการสมอง ของลูกเกิดขึ้นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เสริมด้วย สารอาหารสมอง และการนอนอย่างมีคุณภาพ
    บทความจากพันธมิตร

    แม่รู้ไหม? พัฒนาการสมอง ของลูกเกิดขึ้นได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เสริมด้วย สารอาหารสมอง และการนอนอย่างมีคุณภาพ

  • จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกชอบอะไร ถนัดอะไร เรามีวิธีสังเกต

    จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกชอบอะไร ถนัดอะไร เรามีวิธีสังเกต

  • สมัยก่อนประวัติศาสตร์ แต่ละยุคสมัยแตกต่างกันอย่างไร มาชมไปพร้อมกัน

    สมัยก่อนประวัติศาสตร์ แต่ละยุคสมัยแตกต่างกันอย่างไร มาชมไปพร้อมกัน

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
    • ก่อนตั้งครรภ์
    • การคลอด
    • ระยะการตั้งครรภ์
    • การคลอด
  • พัฒนาการลูก
    • ทารก
    • เด็กก่อนเข้าเรียน
    • ช่วงวัยของเด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • การวางแผนการเงิน
    • การเลี้ยงลูก
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • นมแม่และนมผง
  • โภชนาการ
    • สินค้าเด็ก
    • นมผง
    • เมนูอาหาร
    • สินค้าแม่
  • เพิ่มเติม
    • TAP สังคมออนไลน์
    • ติดต่อโฆษณา
    • ติดต่อเรา
    • Influencer Marketing (KOL)
    • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Sri-Lanka flag Sri Lanka
  • India flag India
  • Vietnam flag Vietnam
  • Australia flag Australia
  • Japan flag Japan
  • Nigeria flag Nigeria
  • Kenya flag Kenya
© Copyright theAsianparent 2023. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

theAsianparent heart icon
เราต้องการส่งแจ้งเตือนข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการดูแลทารกและสุขภาพไปให้กับคุณ