X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

สังเกตด่วน! หากลูกเข้าอนุบาล แล้วนอนฉี่ราด อาจไม่ใช่เรื่องเล็ก!

บทความ 3 นาที
สังเกตด่วน! หากลูกเข้าอนุบาล แล้วนอนฉี่ราด อาจไม่ใช่เรื่องเล็ก!

เรื่องของเด็กเล็กกับการฉีรดที่นอนอาจดูไม่ใช่เรื่องใหญ่ หรือมีอะไรให้คุณแม่ต้องกังวล แต่ถ้าลูกเราถึงวัยเข้าเรียนอนุบาล หรือประมาณ 5 ขวบแล้วยังนอนฉี่รดที่นอนอยู่ไม่ใช่เรื่องปรกติแล้วค่ะ

โดยปรกติแล้วการฉี่รดที่นอนของเด็กไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรหากเกิดขึ้นตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 4 ขวบ เพราะอวัยวะต่างๆในร่างกายรวมถึงระบบประสาทที่ควบคุมการปัสสาวะเจริญเติบโตไม่เต็มที่จึงไม่อาจควบคุมการปัสสาวะ แต่ถ้า 5 ขวบขึ้นไปแล้วยังฉีรดที่นอนอยู่อย่างนี้เข้าข่ายมีความผิดปรกติเกิดขึ้นกับลูกของเราแล้ว ต้องหาสาเหตุด่วน

ลูกวัย 5 ขวบฉี่รดที่นอนบ่งบอกอะไร

ฉี่รดที่นอนแบบที่ 1 คือไม่เคยควบคุมเรื่องการปัสสาวะเองได้เลย สาเหตุมักเกิดมากจาก

-พันธุกรรม หากคุณพ่อหรือคุณแม่เคยมีประวัติฉี่รดที่นอนในวัยเด็ก ก็ส่งผลทำให้ลูกหยุดฉี่รดที่นอนช้ากว่าเด็กวัยเดียวกันได้

-สมอง หรือ ระบบประสาทเจริญเติบโตช้ากว่าปรกติ ซึ่งอาจเกิดอาการนี้ร่วมกับการพูดช้า หรือทำอะไรได้ช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน

-เกิดจากต่อมไร้ท่อต่างๆและฮอร์โมนในร่างกายทำงานผิดปรกติเช่น ช่วงกลางคืนร่างกายเด็กอาจมีการสร้างฮอร์โมนควบคุมปริมาณน้ำปัสสาวะลดลงกว่าปรกติ จึงส่งผลให้มีน้ำปัสสาวะมากกว่าคนทั่วไปขณะหลับ หรือกล้ามเนื้อกระเพราะปัสสาวะอาจทำงานลดลงขณะหลับ

-เด็กอาจมีกระเพาะปัสสาวะเล็กเกินไป หรือมีปัญหากระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือการทำงานของกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะทำงานหรือบีบตัวผิดปรกติ

-เด็กมีอาการท้องผูกเรื้อรัง ทำให้ก้อนอุจาระสะสมมีผลต่อการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะ

-เด็กมีภาวะโรคเบาหวาน

ฉี่รดที่นอนแบบที่ 2 คือ เด็กอาจหยุดฉี่รดที่นอนไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง แล้วกลับมาฉี่รดที่นอนใหม่

ข้อนี้เกิดจากสภาพจิตใจของเด็กที่อาจมีความเครียด ความกลัว ความกังวลใจ ในบางเรื่องเช่น ถูกเพื่อนแกล้งมากๆที่โรงเรียน หรือเครียดจากการเห็นพ่อแม่ทะเลาะกัน

หากลูกมีปัญหาฉี่รดที่นอนคุณแม่ควรหาสาเหตุให้พบ แล้วรีบแก้ไข หากเกิดจากความผิดปรกติของระบบต่างๆในร่างกายก็ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาให้ถูกวิธีเช่นการใช้เครื่องช่วยปลุกให้ตื่นมาฉี่ หรือกินยา   หากเกิดจากปัญหาด้านจิตใจก็ควรรีบหาสาเหตุให้พบจะได้รีบแก้ไขทัน

สังเกตด่วน! หากลูกเข้าอนุบาล แล้วนอนฉี่ราด อาจไม่ใช่เรื่องเล็ก!

วิธีจัดการกับปัญหาฉี่รดที่นอนของลูก

1.ห้ามดุ ห้ามล้อเลียน เพราะจะทำให้ลูกอาย ขาดความมั่นใจ ไม่มีใครอยากฉี่รดที่นอนหรอกค่ะ และเด็กส่วนใหญ่ก็อยากเลิกอยู่แล้ว ยิ่งไปแซว ล้อเลียน หรือทำโทษจากที่ควรจะหายแล้วเลิกฉี่รดที่นอนเร็วขึ้นกลับกังวลมากขึ้นยิ่งกังวล ยิ่งฉี่รดที่นอนบ่อยขึ้น

2.ให้เด็กดื่มน้ำมากขึ้นในช่วงกลางวัน และงดอาหารและเครื่องดื่มก่อนเข้านอน 1-2 ชั่วโมง โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เป็นส่วนประกอบเช่นน้ำอัดลมบางชนิด หรือชาเขียว เพราะคาเฟอีนช่วยขับปัสสาวะ

3.ให้ลูกฉี่ก่อนเข้านอนทุกคืน

4.ไม่ควรอุ้มลูกไปฉี่ทั้งที่ยังหลับเพราะจะกลายเป็นการฝึกให้เด็กฉี่ขณะหลับไปโดยปริยาย ควรกำชับให้ลูกพยายามตื่นขึ้นมาฉี่เองเมื่ออยากเข้าห้องน้ำ หรือให้คุณแม่วางกระโถนไว้ข้างเตียงเพื่อจุงใจให้ลูกตื่นขึ้นมาฉี่เองก็ได้ค่ะ

5.การปลุกลูกขึ้นมาฉี่กลางดึก อาจทำให้เด็กหยุดฉี่รดที่นอนได้ช้ากว่าไม่ปลุก

6.ให้รางวัลเมื่อลูกเริ่มฉี่รดที่นอนน้อยลง เช่น พาไปเที่ยว ให้ของเล่น เป็นการสร้างแรงเสริมทางบวกในการปรับพฤติกรรมลูก

7.ให้ลูกมีส่วนร่วมในการทำความสะอาดที่นอน ผ้าปูที่นอน เพื่อฝึกความรับผิดชอบ และจุงใจให้ลูก

หากพบว่าลูกฉี่รดที่นอนจากปัญหาด้านจิตใจหรือความเครียด คุณแม่ต้องรีบหาสาเหตุและดำเนินการแก้ไขด้วยการใช้เหตุผลพูดคุยกับลูกถึงปัญหาที่ลูกกังวลใจ เสริมสร้างความมั่นใจและให้กำลังใจลูกให้ผ่านเรื่องราวแย่ๆไปให้ได้หากยังไม่ดีขึ้นควรพาไปพบจิตแพทย์

ปัญหาการฉี่รดที่นอนของลูกต้องอาศัยความเข้า และการให้กำลังจากพ่อแม่ เพื่อประคับประครองให้ลูกผ่านไปให้ได้ โดยปรกติแล้วเมื่อฝึกตามวิธีที่แนะนำไปอาการจะค่อยๆหายไปเอง แต่ถ้าลูกยังฉี่รดที่นอนถี่อยู่คุณพ่อคุณแม่ควรต้องรีบพาไปพบแพทย์ค่ะ

แหล่งข้อมูล

https://haamor.com/ปัสสาวะรดที่นอน

bangkokhealth

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

daawchonlada

  • หน้าแรก
  • /
  • พัฒนาการลูก
  • /
  • สังเกตด่วน! หากลูกเข้าอนุบาล แล้วนอนฉี่ราด อาจไม่ใช่เรื่องเล็ก!
แชร์ :
  • หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

    หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

  • เคลือบสูติบัตรได้ไหม เรื่องต้องรู้ก่อนเคลือบสูติบัตร

    เคลือบสูติบัตรได้ไหม เรื่องต้องรู้ก่อนเคลือบสูติบัตร

  • อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

    อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

  • หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

    หากลูกหมกมุ่นกับ 3 สิ่งนี้... พฤติกรรมที่ผู้ปกครองควรจับตา และรับมืออย่างทันท่วงที

  • เคลือบสูติบัตรได้ไหม เรื่องต้องรู้ก่อนเคลือบสูติบัตร

    เคลือบสูติบัตรได้ไหม เรื่องต้องรู้ก่อนเคลือบสูติบัตร

  • อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

    อย่ามองแค่เกรด! 5 ทักษะที่มีค่าที่สุด ช่วยลูกรับมือกับอุปสรรคในชีวิต

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว