โดยปรกติแล้วการฉี่รดที่นอนของเด็กไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไรหากเกิดขึ้นตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 4 ขวบ เพราะอวัยวะต่างๆในร่างกายรวมถึงระบบประสาทที่ควบคุมการปัสสาวะเจริญเติบโตไม่เต็มที่จึงไม่อาจควบคุมการปัสสาวะ แต่ถ้า 5 ขวบขึ้นไปแล้วยังฉีรดที่นอนอยู่อย่างนี้เข้าข่ายมีความผิดปรกติเกิดขึ้นกับลูกของเราแล้ว ต้องหาสาเหตุด่วน
ลูกวัย 5 ขวบฉี่รดที่นอนบ่งบอกอะไร
ฉี่รดที่นอนแบบที่ 1 คือไม่เคยควบคุมเรื่องการปัสสาวะเองได้เลย สาเหตุมักเกิดมากจาก
-พันธุกรรม หากคุณพ่อหรือคุณแม่เคยมีประวัติฉี่รดที่นอนในวัยเด็ก ก็ส่งผลทำให้ลูกหยุดฉี่รดที่นอนช้ากว่าเด็กวัยเดียวกันได้
-สมอง หรือ ระบบประสาทเจริญเติบโตช้ากว่าปรกติ ซึ่งอาจเกิดอาการนี้ร่วมกับการพูดช้า หรือทำอะไรได้ช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน
-เกิดจากต่อมไร้ท่อต่างๆและฮอร์โมนในร่างกายทำงานผิดปรกติเช่น ช่วงกลางคืนร่างกายเด็กอาจมีการสร้างฮอร์โมนควบคุมปริมาณน้ำปัสสาวะลดลงกว่าปรกติ จึงส่งผลให้มีน้ำปัสสาวะมากกว่าคนทั่วไปขณะหลับ หรือกล้ามเนื้อกระเพราะปัสสาวะอาจทำงานลดลงขณะหลับ
-เด็กอาจมีกระเพาะปัสสาวะเล็กเกินไป หรือมีปัญหากระเพาะปัสสาวะอักเสบ หรือการทำงานของกล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะทำงานหรือบีบตัวผิดปรกติ
-เด็กมีอาการท้องผูกเรื้อรัง ทำให้ก้อนอุจาระสะสมมีผลต่อการบีบตัวของกระเพาะปัสสาวะ
-เด็กมีภาวะโรคเบาหวาน
ฉี่รดที่นอนแบบที่ 2 คือ เด็กอาจหยุดฉี่รดที่นอนไปช่วงระยะเวลาหนึ่ง แล้วกลับมาฉี่รดที่นอนใหม่
ข้อนี้เกิดจากสภาพจิตใจของเด็กที่อาจมีความเครียด ความกลัว ความกังวลใจ ในบางเรื่องเช่น ถูกเพื่อนแกล้งมากๆที่โรงเรียน หรือเครียดจากการเห็นพ่อแม่ทะเลาะกัน
หากลูกมีปัญหาฉี่รดที่นอนคุณแม่ควรหาสาเหตุให้พบ แล้วรีบแก้ไข หากเกิดจากความผิดปรกติของระบบต่างๆในร่างกายก็ควรรีบพาไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาให้ถูกวิธีเช่นการใช้เครื่องช่วยปลุกให้ตื่นมาฉี่ หรือกินยา หากเกิดจากปัญหาด้านจิตใจก็ควรรีบหาสาเหตุให้พบจะได้รีบแก้ไขทัน
วิธีจัดการกับปัญหาฉี่รดที่นอนของลูก
1.ห้ามดุ ห้ามล้อเลียน เพราะจะทำให้ลูกอาย ขาดความมั่นใจ ไม่มีใครอยากฉี่รดที่นอนหรอกค่ะ และเด็กส่วนใหญ่ก็อยากเลิกอยู่แล้ว ยิ่งไปแซว ล้อเลียน หรือทำโทษจากที่ควรจะหายแล้วเลิกฉี่รดที่นอนเร็วขึ้นกลับกังวลมากขึ้นยิ่งกังวล ยิ่งฉี่รดที่นอนบ่อยขึ้น
2.ให้เด็กดื่มน้ำมากขึ้นในช่วงกลางวัน และงดอาหารและเครื่องดื่มก่อนเข้านอน 1-2 ชั่วโมง โดยเฉพาะเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เป็นส่วนประกอบเช่นน้ำอัดลมบางชนิด หรือชาเขียว เพราะคาเฟอีนช่วยขับปัสสาวะ
3.ให้ลูกฉี่ก่อนเข้านอนทุกคืน
4.ไม่ควรอุ้มลูกไปฉี่ทั้งที่ยังหลับเพราะจะกลายเป็นการฝึกให้เด็กฉี่ขณะหลับไปโดยปริยาย ควรกำชับให้ลูกพยายามตื่นขึ้นมาฉี่เองเมื่ออยากเข้าห้องน้ำ หรือให้คุณแม่วางกระโถนไว้ข้างเตียงเพื่อจุงใจให้ลูกตื่นขึ้นมาฉี่เองก็ได้ค่ะ
5.การปลุกลูกขึ้นมาฉี่กลางดึก อาจทำให้เด็กหยุดฉี่รดที่นอนได้ช้ากว่าไม่ปลุก
6.ให้รางวัลเมื่อลูกเริ่มฉี่รดที่นอนน้อยลง เช่น พาไปเที่ยว ให้ของเล่น เป็นการสร้างแรงเสริมทางบวกในการปรับพฤติกรรมลูก
7.ให้ลูกมีส่วนร่วมในการทำความสะอาดที่นอน ผ้าปูที่นอน เพื่อฝึกความรับผิดชอบ และจุงใจให้ลูก
หากพบว่าลูกฉี่รดที่นอนจากปัญหาด้านจิตใจหรือความเครียด คุณแม่ต้องรีบหาสาเหตุและดำเนินการแก้ไขด้วยการใช้เหตุผลพูดคุยกับลูกถึงปัญหาที่ลูกกังวลใจ เสริมสร้างความมั่นใจและให้กำลังใจลูกให้ผ่านเรื่องราวแย่ๆไปให้ได้หากยังไม่ดีขึ้นควรพาไปพบจิตแพทย์
ปัญหาการฉี่รดที่นอนของลูกต้องอาศัยความเข้า และการให้กำลังจากพ่อแม่ เพื่อประคับประครองให้ลูกผ่านไปให้ได้ โดยปรกติแล้วเมื่อฝึกตามวิธีที่แนะนำไปอาการจะค่อยๆหายไปเอง แต่ถ้าลูกยังฉี่รดที่นอนถี่อยู่คุณพ่อคุณแม่ควรต้องรีบพาไปพบแพทย์ค่ะ
แหล่งข้อมูล
https://haamor.com/ปัสสาวะรดที่นอน
bangkokhealth
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!