เพราะความผิดปกติของโครโมโซม ทำให้ เอวลิน ต้องเสียชีวิตหลังกำเนิดได้ไม่นาน ทำให้ ชาล็อต คุณแม่วัยเพียง 21 ปี กับ อติลา สามีวัย 28 ปี รู้สึกเสียใจที่ยังไม่มีแม้แต่โอกาสที่จะได้ใช้เวลาร่วมกันอย่าง พ่อ แม่ ลูก เลยสักครั้งนึง ทั้งคู่จึงตัดสินใจทำแบบนี้ เพื่อให้ครอบครัวสมบูรณ์ ถึงแม้จะเป็นช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ก็ตาม

ชาล็อตรู้ดีกว่า เอวลิน จะมีโอกาสอยู่ได้ไม่นาน ภายหลังจากที่ตรวจสอบครรภ์ในสัปดาห์ที่ 20 แต่เธอก็ยืนยันที่จะตั้งครรภ์ลูกสาวคนนี้ต่อไป จนกระทั่งวันที่ 13 ธันวาคม เธอก็ได้ให้กำเนิดทารกเพศหญิงผู้น่ารัก ด้วยน้ำหนักตัวที่มากถึง 2,300 กรัม แต่เพราะความผิดปกติของโครโมโซม ทำให้สมองรูจมูก หลอดเลือด และปอดของ เอวลิน ไม่สามารถพัฒนาได้เต็มที่ เอวลิน จึงมีชีวิตอยู่ได้เพียงแค่ 4 สัปดาห์ และจากไปอย่างสงบในอ้อมแขนของ ชาล็อต

ภายหลังที่ทั้งคู่ ตัดสินใจลงเรื่องราวนี้ผ่านโซเชียลส่วนตัว ก็มีผู้คนเข้ามาแสดงความเสียใจ และเห็นใจกับพวกเขาเป็นอย่างมาก โดย ชาล็อตและอติลาเล่าว่า พวกเขาใช้เวลาในการแช่แข็งศพของลูกสาวตัวเองนาน 16 วัน ก่อนที่จะจัดพิธีศพ

ทั้ง ชาล็อตและอติลา ใช้เวลานานเป็นปีในการพยายามที่จะมีลูก และในที่สุดพวกเขาได้รับข่าวดี แต่ในข่าวดีนั้น ก็ยังมีข่าวร้ายที่พวกเขาทั้งคู่ไม่อยากได้ยิน นั่นคือทารกมีความผิดปกติทางโครโมโซม และต่อให้ทารกรอด ก็ไม่สามารถมีชีวิตที่ปกติได้เหมือนกับคนอื่น ๆ ทั่วไป
พวกเขามักจะใช้เวลาอยู่ร่วมกัน รวมถึงพาร่างอันไร้วิญญาณของเอวลินไปเดินเล่นตามสวนสาธารณะ ชาล็อตเล่าว่า เธอรู้สึกดีใจที่คุณหมอเข้าใจ และยอมอนุญาตให้เธอทำเช่นนี้ แน่นอนว่า พวกเขาจะต้องแช่ศพลูกของตัวเองไว้ในโลงแช่แข็งก่อนที่จะถึงเวลาทำพิธีกรรมทางศาสนา

“ฉันรู้สึกว่า ฉันยังไม่มีโอกาสรับรู้ความรู้สึกของการได้เป็นแม่คน ฉันเพียงแค่มีโอกาสได้รับรู้ความรู้สึกขณะตั้งท้องเพียง 9 เดือนเท่านั้น แน่นอนฉันรู้ดีว่ามันฟังดูแปลก และเป็นเรื่องที่ไม่ควรทำ แต่ฉันรู้สึกว่า เอวลิน ควรได้กลับมาอยู่ที่บ้าน และพวกเราทุกคนควรมีเวลาได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ แม่ ลูก ทำให้ครอบครัวของเราสมบูรณ์ที่สุด ถึงแม้จะช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ตาม” ชาล็อตกล่าว
ที่มา: The Mirror
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
ความผิดปกติของน้ำคร่ำแบบไหน อันตรายต่อลูกในครรภ์
น้ำนมไหลก่อนคลอดผิดปกติไหม?

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!