X
TAP top app download banner
theAsianparent Thailand Logo
theAsianparent Thailand Logo
คู่มือสินค้า
เข้าสู่ระบบ
  • อยากท้อง
  • ระยะการตั้งครรภ์
    • โภชนาการ เเม่ท้อง เเม่ให้นม
    • ไตรมาส 1
    • ไตรมาส 2
    • ไตรมาส 3
    • ตั้งชื่อลูก
  • แม่ผ่าคลอด
    • พัฒนาการเด็กผ่าคลอด
    • เตรียมตัวผ่าคลอด
    • สุขภาพเด็กผ่าคลอด
    • คู่มือคุณแม่ผ่าคลอด
    • การดูแลหลังผ่าคลอด
    • โภชนาการเด็กผ่าคลอด
  • หลังคลอด
    • คลอดธรรมชาติ
    • ผ่าคลอด
    • การให้นมลูก
  • สุขภาพและโภชนาการ
    • โภชนาการ
    • สุขภาพ
  • ลูก
    • ทารกแรกเกิด
    • ทารก
    • เด็กวัยหัดเดิน
    • เด็กก่อนวัยเรียน
    • เด็ก
    • เด็กก่อนวัยรุ่น และวัยรุ่น
  • ชีวิตครอบครัว
    • ความรักและความสัมพันธ์
    • การเลี้ยงลูก
    • มุมคุณพ่อ
    • ประกันชีวิต
    • การวางแผนการเงิน
    • ความรัก และ เซ็กส์
  • การศึกษา
    • เด็กวัยประถม
    • โรงเรียนประถม
    • มัธยมศึกษา
    • แบบฝึกหัดและข้อสอบ
    • แนะแนวการศึกษาต่างประเทศ
  • ผู้หญิง
    • แฟชั่น
    • ความงาม
    • ฟิตเนส
  • ที่เที่ยว
    • เที่ยวไทย
    • เที่ยวต่างประเทศ
    • ที่พัก และ โรงแรม
  • ที่กิน
    • ร้านอร่อย
    • ร้านอร่อยสำหรับเด็ก
    • คาเฟ่
    • เมนูอาหาร
  • ไลฟ์สไตล์
    • ดวง
    • ทำนายฝัน
    • สีมงคล
    • บทสวดมนต์
    • ข่าว
    • ดูแลบ้าน
    • แนะนำโดย TAP
    • อีเว้นท์
  • TAPpedia
  • วิดีโอ
    • การตั้งครรภ์
    • ทารก
    • คำแนะนำในการเลี้ยงลูก
    • การให้นมบุตร
    • อาหารเสริมทารก & โภชนาการ
    • เด็กเล็ก
  • ชอปปิง
  • #สอนลูกเรื่องเงิน ฉบับพ่อแม่
  • VIP

เคล็ดลับลดน้ำหนักหลังคลอด จากประสบการณ์จริงของคุณแม่ทั้ง 18 คน

บทความ 5 นาที
เคล็ดลับลดน้ำหนักหลังคลอด จากประสบการณ์จริงของคุณแม่ทั้ง 18 คน

เคล็ดลับลดน้ำหนักหลังคลอด จากประสบการณ์จริงของคุณแม่ทั้ง 18 คน จะมีวิธีไหนที่ทำได้ง่ายสำหรับคุณแม่บ้าง แต่ละวิธีลดน้ำหนักลงไปได้แค่ไหนกันนะ

เคล็ดลับลดน้ำหนักหลังคลอด จากประสบการณ์จริงของคุณแม่ทั้ง 18 คน

เคล็ดลับลดน้ำหนักหลังคลอด จากประสบการณ์จริงของคุณแม่ทั้ง 18 คน มาฟังพวกเธอกันค่ะว่าใช้วิธีไหน และน้ำหนักลงไปได้เท่าไหร่กันบ้าง

1.ให้ลูกมีส่วนร่วม

คุณแม่อลิซาเบธ ลดไป 13.6 กิโลกรัมภายใน 5-6 เดือน

ขณะที่คุณแม่ต้องอยู่ในบ้านท่ามกลางหน้าหนาวกับลูกน้อยวัยแรกเกิด สิ่งที่คุณแม่ทำคือการเต้นรำไปกับลูก หรือวางลูกลงแล้วเต้นไปรอบ ๆ ห้องนั่งเล่น ไม่เพียงแค่ลูกจะขำกับท่าทางตลก ๆ หรือน้ำหนักจะลดลงได้ เเต่คุณเเม่ยังอารมณ์ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ

คุณแม่ดีแอนนา ลดไป 13.6 กิโลกรัมภายใน 2 เดือน

คุณแม่ออกกำลังกายในท่าสควอท ซิทอัพ และท่า arm lift ไปพร้อม ๆ กับลูกวัยเดือนเศษของเธอค่ะ โดยออกกำลังกายทุกวัน วันละ 1-2 เซทเท่านั้น โดยเป็นการออกกำลังกายที่ทำได้ที่บ้าน ไม่ต้องออกไปไหนให้เสียเงินเลยค่ะ

2.กินน้อยลง

คุณแม่ไอวี่ ลดไป 18 กิโลกรัมภายใน 5 เดือน

คุณแม่ใช่วิธีแช่โยเกิร์ตไว้ในช่องแข็งและเอาออกมากินแทนไอศกรีม หรือของหวานอื่น ๆ ที่อยากกินไว้ในช่องแข็ง เนื่องจากจะกินได้ทีละน้อยและกินได้ยากขึ้นค่ะ เวลาที่ของหวานเหล่านี้แข็งตัว

คุณแม่แดเนียล  ลดไป 36 กิโลกรัมภายใน 6 เดือน

คุณแม่ดื่มน้ำมากขึ้น ทั้งก่อนให้นม ระหว่างให้นม และหลังให้นม ช่วยให้คุณแม่อิ่มท้อง และงดขนมค่ะ

3.ดูแลเรื่องอาหาร

คุณแม่อิลานา ลดไป 18 กิโลกรัมภายใน 2 ปี 

โดยที่ 13 กิโลกรัมแรกนั้นลดลงเพียงเเค่ไม่กี่เดือนเท่านั้นเองค่ะ โดยไม่ใส่ชีสในเเซนวิชและไม่กินมันฝรั่งทอดที่มากับมื้ออาหาร เปลี่ยนจากกินขนมหวานหรือคุ๊กกี้เป็นเพรทเซิล แครอทสติ๊กหรือแอปเปิ้ลแทน ถ้าอยากกินของหวานก็เลือกกินให้ไม่เกิน 100 แคลอรี่เท่านั้น

4.เดินขึ้นลงบันได

คุณแม่เมแกน ลดไป 11 กิโลกรัมภายใน 4 เดือน 

หลังจากคลอดลูกได้ 2-3 สัปดาห์ คุณแม่ย้ายโต๊ะเปลี่ยนผ้าอ้อมลูกไปไว้ที่ชั้น 2 เวลาที่หนูน้อยต้องเปลี่ยนผ้าอ้อม ทำให้คุณแม่ต้องเดินขึ้นลงบันได ทำให้ช่วยเผาผลาญเเคลอรี่ได้ค่ะ

5.พาลูกไปเดินเล่น

คุณแม่นิโคล ลดไป 15.8 กิโลกรัมภายใน 19 เดือน 

การพาลูกไปเดินเล่นทุกวันที่สวนสาธารณะ ในหมู่บ้าน หรือพาลูกไปเดินซื้อกับข้าว เป็นเวลา 15 นาที ถึง 1 ชั่วโมงต่อวัน ขึ้นอยู่กับว่าลูกยอมอยู่ในรถเข็นนานแค่ไหนนั้น คุณแม่บอกว่าช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ค่ะ

Advertisement

เคล็ดลับลดน้ำหนักหลังคลอด จากประสบการณ์จริงของคุณแม่ทั้ง 18 คน

6.ตั้งเป้าให้สูง

คุณแม่เบตตี้ ลดไป 10 กิโลกรัมภายใน 9 เดือน

คุณแม่บอกว่าการตั้งเป้าหมายและกำหนดเวลานั้นช่วยให้คุณแม่ลดน้ำหนักลงได้ โดยตัวคุณแม่เองนั้นตั้งเป้าว่าจะลงวิ่งมาราธอนเป็นครั้งเเรกภายใน 9 เดือนหลังคลอด โดยเริ่มแรกก็เป็นการออกกำลังกายเบาๆ อย่างการเดิน จากนั้นเมื่อคุณแม่กลับไปทำงานคุณแม่ก็เริ่มเข้ายิม จนในที่สุดก็สำเร็จตามที่ตั้งใจไว้ค่ะ

7.จัดการกับความอยาก

คุณแม่เคอร์รี่ ลดไป 5.5 กิโลกรัมภายใน 8 เดือน และตั้งเป้าว่าจะลดอีก 8 กิโลกรัม

คุณแม่ที่ติดขนมกรุบกรอบเลือกที่จะไม่ซื้อสิ่งที่อยากกิน(เเละทำให้น้ำหนักไม่ลด)เข้าบ้าน เมื่อใดที่อยากกินขนมเหล่านี้ คุณแม่จะกินห่อเล็กที่สุด แทนที่จะกินห่อใหญ่เข้าไปทั้งห่อ

คุณแม่เอมิลี่ ลดไป 18 กิโลกรัมภายใน 1o เดือน

คุณแม่คิดว่าหลังจากที่คลอดลูกแล้วน้ำหนักส่วนเกินที่เพิ่มขึ้นมาจะหายไปเอง เเต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้นค่ะ หลังจากคลอดไม่กี่เดือน คุณแม่เลิกกินขนมจากร้านสตาร์บัคและจำกัดการดื่มแอลกอฮอล์ของตัวเองให้เหลือเพียง 2 แก้วต่ออาทิตย์เท่านั้นค่ะ

บทความจากพันธมิตร
ตรวจ NIPT ราคา ปี 2568 รู้ทันความผิดปกติของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์
ตรวจ NIPT ราคา ปี 2568 รู้ทันความผิดปกติของลูกน้อยตั้งแต่ในครรภ์
Easy Life III เครื่องปั๊มนม Hands-Free จากแบรนด์ไทยอย่าง Attitude Mom ออกแบบเพื่อชีวิตการปั๊มนมของคุณแม่ที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมพร้อมการควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ
Easy Life III เครื่องปั๊มนม Hands-Free จากแบรนด์ไทยอย่าง Attitude Mom ออกแบบเพื่อชีวิตการปั๊มนมของคุณแม่ที่ง่ายขึ้นกว่าเดิมพร้อมการควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันบนมือถือ
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
ซีรีแล็ค จูเนียร์ โจ๊ก อร่อย ได้ประโยชน์ ตัวช่วยแม่ยุคใหม่
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย
เคล็ดลับดูแลครรภ์ และ สร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกน้อย

8.เข้ายิมที่เอาลูกไปด้วยได้

คุณแม่เจน ลดไป 30 กิโลกรัมภายใน 7-8 เดือน

หลังคลอดลูกเพียง 2 อาทิตย์ คุณเเม่ก็เหลือน้ำหนักส่วนเกินอยู่ถึง 20 กิโลกรัม คุณแม่จึงตัดสินใจหาสถานที่ออกกำลังกายที่มียิมอยู่ด้วย ซึ่งคุณแม่บอกว่าเธอสบายใจมากๆ เพราะในขณะที่ออกกำลังกายอยู่นั้น เธอสามารถเดินไปดูลูกได้ตลอดเวลา และที่สำคัญการออกกำลังกายก็ทำให้เธออารมณ์ดีขึ้นด้วยค่ะ

9.กินอาหารเช้า

คุณแม่คริสทีน ลดไป 11 กิโลกรัมภายใน 4 เดือน

คุณแม่เลือกที่จะกินอาหารมือเช้าที่บ้าน อย่างมัฟฟินกับมาการีนหรือแยม แทนที่จะไปกินที่ทำงาน ข้อดีอีกอย่างคือลูกจะนอนนานขึ้นอีกด้วยละค่ะ

เคล็ดลับลดน้ำหนักหลังคลอด จากประสบการณ์จริงของคุณแม่ทั้ง 18 คน

10.ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ

คุณแม่ทริช ลดไป 16 กิโลกรัมภายใน 5 เดือน

แม้การเลี้ยงลูกจะทำให้คุณแม่น้ำหนักลดลงไปได้บ้าง เเต่คุณแม่ก็ต้องการตัวช่วยอื่นๆ เข้ามาด้วย อย่างการกำหนดว่าในเเต่ละมื้อต้องกินอะไรบ้าง หรือกินปริมาณเท่าไหร่ นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำหรับคุณเเม่ที่ไม่รู้ว่าจะต้องเริ่มต้นอย่างไรด้วยค่ะ

11.เติมหลังด้วยของว่าง

คุณแม่มัวรีน (ลูกแฝด) ลดไป 22.5 กิโลกรัมภายใน 6-7 เดือน

คุณแม่เลือกของว่างสุดเฮลตี้อย่างชีสมอสซาเรลล่าแท่ง ขนมปังไม่ขัดสีทาเนยถั่ว นอกจากจะช่วยให้มีแรงแล้ว ยังไม่ทำให้คุณอยากกินอาหารจานด่วนอีกด้วยละค่ะ

คุณแม่บัฟฟี่ ลดไป 13.5 กิโลกรัมภายใน 6 เดือน

คุณแม่บอกว่าถ้าไม่หิวก็จะยังไม่กินค่ะ เพราะนาฬิกาที่บอกเวลาเที่ยงตรงนั้น ไม่ได้หมายความว่าคุณต้องกินมื้อเที่ยงทันที เลือกของว่างที่ไขมันต่ำและเต็มเปี่ยมไปด้วยสารอาหารดีๆ

12.ล่อด้วยเสื้อผ้าใหม่

คุณแม่เบคกี้ ลดไป 24.5 กิโลกรัมภายใน 8 เดือน

หากน้ำหนักยังไม่ลด คุณเเม่จะไม่ซื้อเสื้อผ้าใหม่ คราวนี้ก็ต้องทนใส่ชุดคลุมท้องที่อยู่ในตู้ไปนั่นน่ะเเหละ นอกจากนี้การกลับไปทำงานโดยยังใส่ชุดคลุมท้องอยู่นั้นเป็นเรื่องที่ไม่โอเคเอาเสียเลย นอกจากนี้คุณแม่ยังจ้างผู้ฝึกสอนส่วนตัว 2 ครั้งต่อสัปดาห์ให้มาช่วยในเรื่องของการออกกำลังกายอีกด้วยค่ะ

13.พึ่งน้องหมา

คุณแม่ทิฟฟานี่ ลดไป 13.5 กิโลกรัมภายใน 3 เดือน

คุณแม่บอกว่าการพาน้องหมาไปเดินเล่นหรือไต่เขาวันละชั่วโมงทุกวันนั้นช่วยได้ค่ะ นอกจากนี้คุณเเม่ยังออกกำลังกายด้วยท่า crunches 100 ครั้ง และท่า push-up 25 ครั้ง ทุกคืนก่อนนอนด้วยค่ะ

เคล็ดลับลดน้ำหนักหลังคลอด จากประสบการณ์จริงของคุณแม่ทั้ง 18 คน

14.ดูแลโภชนาการ

คุณแม่ลีแอน ลดไป 11 กิโลกรัมภายใน 6 เดือน

นอกจากจำกัดการกินข้าวนอกบ้านแค่ 2 สัปดาห์ต่อ 1 ครั้งแล้ว คุณแม่ยังเน้นทำอาหารกินเองที่บ้าน โดยไม่กินเป็นมื้อใหญ่ๆ เเต่จะเเบ่งกินเป็นมื้อเล็กๆ 5 มื้อต่อวันเเทน โดยเน้นอาหารที่ไขมันต่ำ เเละทำได้ง่าย เช่น ปลาย่าง ไก่กับผักนึ่ง ข้าวไม่ขัดสี หรือควินัล ถ้าไม่อยากทำบ่อยๆ ก็ทำครั้งละมากๆ เเล้วเเบ่งแช่งเเข็งไว้ค่ะ

ที่มา Parents

theAsianparent Community

มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!

Follow us on:
facebook-logo instagram-logo tiktok-logo
img
บทความโดย

สิยาพัฐ บุญช่วย

  • หน้าแรก
  • /
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • /
  • เคล็ดลับลดน้ำหนักหลังคลอด จากประสบการณ์จริงของคุณแม่ทั้ง 18 คน
แชร์ :
  • ต้องเบ่งกี่ครั้งกว่าลูกจะคลอด? เคล็ดลับ "เบ่งคลอด" ให้ราบรื่นและปลอดภัย

    ต้องเบ่งกี่ครั้งกว่าลูกจะคลอด? เคล็ดลับ "เบ่งคลอด" ให้ราบรื่นและปลอดภัย

  • 7 อาการปวดที่คนท้องต้องเจอ รับมือยังไง? ให้ราบรื่นตลอด 9 เดือน

    7 อาการปวดที่คนท้องต้องเจอ รับมือยังไง? ให้ราบรื่นตลอด 9 เดือน

  • 5 เทคนิค ลดรอบปั๊มยังไงไม่ให้น้ำนมหด ช่วยแม่เหนื่อยน้อยลง น้ำนมไม่ลด

    5 เทคนิค ลดรอบปั๊มยังไงไม่ให้น้ำนมหด ช่วยแม่เหนื่อยน้อยลง น้ำนมไม่ลด

  • ต้องเบ่งกี่ครั้งกว่าลูกจะคลอด? เคล็ดลับ "เบ่งคลอด" ให้ราบรื่นและปลอดภัย

    ต้องเบ่งกี่ครั้งกว่าลูกจะคลอด? เคล็ดลับ "เบ่งคลอด" ให้ราบรื่นและปลอดภัย

  • 7 อาการปวดที่คนท้องต้องเจอ รับมือยังไง? ให้ราบรื่นตลอด 9 เดือน

    7 อาการปวดที่คนท้องต้องเจอ รับมือยังไง? ให้ราบรื่นตลอด 9 เดือน

  • 5 เทคนิค ลดรอบปั๊มยังไงไม่ให้น้ำนมหด ช่วยแม่เหนื่อยน้อยลง น้ำนมไม่ลด

    5 เทคนิค ลดรอบปั๊มยังไงไม่ให้น้ำนมหด ช่วยแม่เหนื่อยน้อยลง น้ำนมไม่ลด

ลงทะเบียนรับคำแนะนำเรื่องการตั้งครรภ์พัฒนาการลูกในท้องได้ที่นี่
  • เตรียมตัวเป็นผู้ปกครอง
  • พัฒนาการลูก
  • ชีวิตครอบครัว
  • ระยะการตั้งครรภ์
  • โภชนาการ
  • ไลฟ์สไตล์
  • TAP สังคมออนไลน์
  • ติดต่อโฆษณา
  • ติดต่อเรา
  • Influencer Marketing (KOL)
  • มาเข้าร่วมกับเรา


  • Singapore flag Singapore
  • Thailand flag Thailand
  • Indonesia flag Indonesia
  • Philippines flag Philippines
  • Malaysia flag Malaysia
  • Vietnam flag Vietnam
© Copyright theAsianparent 2025. All rights reserved
เกี่ยวกับเรา |ทีม|นโยบายความเป็นส่วนตัว |ข้อกำหนดการใช้ |แผนผังเว็บไซต์
  • เครื่องมือ
  • บทความ
  • ฟีด
  • โพล

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว

เราใช้คุกกี้เพื่อมอบประสบการณ์คอนเทนต์ที่ดีที่สุดให้กับคุณ. เรียนรู้เพิ่มเติมตกลง เข้าใจแล้ว