กลายเป็นเซเลปตัวน้อยในพริบตา เมื่อคุณแม่โพสต์คลิป ล้างจมูกลูก ของหนูน้อย “เอมิลี่” ลูกสาววัยขวบเศษลงในเพจ น้องเอมิลี Émilie ที่ ล้างจมูกลูก ด้วยความน่ารัก ทำหน้าทะเล้น ไม่ส่งเสียงร้องงอแงเลย แถมยังอารมณ์ดีสุด ๆ จนคุณแม่แอบแซวว่า ขนาดไม่สบาย ยังทำหน้าทะเล้นได้อีก
ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยค่ะ เด็ก ๆ ไม่สบายกันเยอะ การล้างจมูกจะเป็นตัวช่วยทำให้ลูกน้อยที่ยังสั่งน้ำมูกไม่เป็น ได้หายใจโล่งขึ้นจากการที่มีน้ำมูกอยู่ในจมูก
คุณแม่ได้โพสต์ขั้นตอนการล้างจมูกน้องเอมิลี่ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษมาฝากแม่ ๆ มือใหม่ลองทำตามกันไว้ด้วยนะ
1.ก่อนกลั้นหายใจบอกให้น้องลองหายใจเข้าลึก ๆ ก่อน
2.ระหว่างล้างจมูกด้วยน้ำเกลือหนูต้องกลั้นหายใจและร้องอ้า…ห้ามหายใจเข้าเพราะจะสำลักได้
3.การล้างจมูกที่ถูกวิธีน้ำเกลือจะไหลออกจมูกข้างที่เราไม่ได้ฉีดน้ำเกลือเข้าไปและน้ำเกลืออาจจะไหลออกทางปากด้วย
4.หลังจากล้างจมูกเสร็จแล้วให้สั่งน้ำมูกและบ้วนน้ำที่ไหลลงคอทิ้ง
5.การล้างจมูกคือการล้างสิ่งสกปรกในจมูกให้ออกไป
ด้วยความน่าเอ็นดู และความสดใสของหนูน้อย นาทีนี้คลิปล้างจมูกของน้องเอมิลี่มียอดวิวกว่า รวมทั้งยอดไลก์ & แชร์กันกระจาย คลิกดูกันเลย
แม่ ๆ ท่านไหนได้ลองล้างจมูกให้น้อง ๆ กันบ้างแล้ว เป็นยังไงกันบ้าง ส่งคลิป ส่งรูป แชร์มาให้ดูกันนะคะ
ประโยชน์และวิธีการล้างจมูก
การล้างจมูกคืออะไร?
การล้างจมูก คือ การทำความสะอาดโพรงจมูกโดยการใส่หรือหยอดน้ำเข้าไปในจมูก การล้างจมูกจะช่วยชะล้างมูก คราบมูก หรือหนองบริเวณโพรงจมูก และหลังโพรงจมูกออก ทำให้โพรงจมูกสะอาด น้ำที่ใช้แนะนำให้ใช้น้ำเกลือความเข้มข้น 0.9% เนื่องจากมีคุณสมบัติช่วยลดความเหนียวของน้ำมูก และทำให้เชื้อโรคไม่เจริญเติบโต
การล้างจมูกมีประโยชน์อย่างไร?
- ช่วยล้างมูกเหนียวข้นที่ไม่สามารถระบายออกได้เอง ทำให้โพรงจมูกสะอาด
- อาการหวัดเรื้อรังดีขึ้น
- ป้องกันการลุกลามของเชื้อโรคจากจมูกและไซนัสไปสู่ปอด
- ช่วยลดจำนวนเชื้อโรค ของเสีย สารก่อภูมิแพ้และสารที่เกิดจากปฏิกิริยาของ
- ร่างกายที่มีต่อสารก่อภูมิแพ้
- ให้ความชุ่มชื้นแก่เยื่อบุจมูก
- บรรเทาอาการคัดแน่นจมูก ทำให้หายใจโล่งขึ้น
- บรรเทาอาการระคายเคืองในจมูก
- การล้างจมูกก่อนใช้ยาพ่นจมูกจะทำให้ยาพ่นจมูกมีประสิทธิภาพดีขึ้น
ควรล้างจมูกเมื่อไร?
- เมื่อมีน้ำมูกเหนียวข้นจำนวนมาก
- ก่อนใช้ยาพ่นจมูก
การล้างจมูกทำอย่างไร?
- เตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ล้างจมูก
- น้ำเกลือความเข้มข้น 0.9% ซึ่งหาซื้อได้จากโรงพยาบาลหรือตามร้านขายยา (น้ำเกลือที่ใช้เหลือให้เททิ้ง ห้ามนำกลับมาใช้ใหม่ หรือเทกลับเข้าขวดน้ำเกลือเดิม)
- ถ้วยสะอาดสำหรับใส่น้ำเกลือ
- กระบอกฉีดยาพลาสติก
- ภาชนะรองน้ำจมูกและเสมหะ
- กระดาษทิชชู
วิธีล้างจมูก
- ล้างมือให้สะอาด
- เทน้ำเกลือใส่ภาชนะที่เตรียมไว้ ใช้กระบอกฉีดยาดูดน้ำเกลือจนเต็ม
- ฉีดน้ำเกลือเข้าไปในจมูก
วิธีฉีดน้ำเกลือเข้าไปในจมูก
- ก้มหน้าเล็กน้อย หรืออยู่ในท่าศีรษะตรง
- สอดปลายกระบอกฉีดยาเข้าไปในรูจมูกข้างที่จะล้าง โดยวางปลายกระบอกฉีดยาชิดรูจมูกด้านบน
- หายใจทางปากหรือกลั้นหายใจ
- ฉีดน้ำเกลือเข้าไปในจมูก จนน้ำเกลือและน้ำมูกไหลออกทางปาก หรือไหลย้อนออกมาทางจมูกอีกข้าง
- สั่งน้ำมูกพร้อมๆ กันทั้งสองข้าง (ไม่ต้องอุดรูจมูกอีกข้าง) บ้วนน้ำเกลือ และน้ำมูกส่วนที่ไหลลงคอทิ้ง บ้วนเสมหะในคอออก
- ทำซ้ำหลายๆ ครั้งในแต่ละข้างจนไม่มีน้ำมูกออกมา
(หมายเหตุ: วิธีนี้ต้องใช้น้ำเกลือล้างจมูกจำนวนมาก)
วิธีทำความสะอาดอุปกรณ์ที่ใช้ล้างจมูก
ล้างอุปกรณ์ที่ใช้ล้างจมูกให้สะอาดหลังการใช้ทุกครั้ง ด้วยน้ำสบู่หรือน้ำยาล้างจาน ล้างด้วยน้ำประปาจนหมดน้ำสบู่ ผึ่งให้แห้ง
ควรล้างจมูกบ่อยแค่ไหน?
อย่างน้อยวันละ 2 ครั้งช่วงตื่นนอนตอนเช้า และก่อนเข้านอน หรือเมื่อรู้สึกว่ามีน้ำมูกมาก แน่นจมูก หรือก่อนใช้ยาพ่นจมูก แนะนำให้ทำในช่วงท้องว่าง เพราะจะได้ไม่เกิดอาการอาเจียน
การล้างจมูกมีอันตรายหรือไม่?
ถ้าทำได้ถูกต้องและในเวลาที่เหมาะสมไม่น่าจะมีอันตราย อาจมีอันตรายเกิดขึ้นได้ เช่น การสำลัก การนำเชื้อเข้าไปในโพรงไซนัส ปัญหาการสำลักจะไม่เกิดขึ้น ถ้าได้เรียนรู้วิธีการล้างจมูกที่ถูกต้อง และควรล้างจมูกก่อนเวลารับประทานอาหาร หรือรับประทานอาหารแล้วอย่างน้อย 2 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อป้องกันการอาเจียนหรือสำลัก
ข้อควรระวัง
น้ำเกลือและอุปกรณ์ที่ใช้ล้างจมูกต้องสะอาด เพราะการเปิดทิ้งไว้และใช้ต่อเนื่องนานจนกว่าจะหมดจะทำให้มีเชื้อโรคสะสมอยู่ได้ นอกจากนี้ควรล้างจมูกเมื่อมีน้ำมูกเหนียวข้นจำนวนมาก (ถ้าน้ำมูกใส และมีจำนวนเล็กน้อยให้สั่งออกมา) หลังฉีดน้ำเกลือเข้าไปในโพรงจมูกให้สั่งน้ำมูกออกทันที ไม่ควรกลั้นหายใจเพื่อกักน้ำเกลือให้ค้างในจมูกนาน เพราะน้ำเกลืออาจจะไหลย้อนไปในไซนัส และการสั่งน้ำมูกให้สั่งเบาๆ และไม่ต้องอุดรูจมูกอีกข้าง เพราะอาจทำให้แก้วหูทะลุได้
theAsianparent Thailand เว็บไซต์ข้อมูลคุณภาพ และ สังคมคุณแม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ และ เอเชีย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้านกุมารแพทย์ แหล่งความรู้แม่ และ เด็ก รวมถึงแอพพลิเคชั่น theAsianparent Thailand ที่ติดตามการตั้งครรภ์ให้คุณแม่ได้ลงทะเบียนใช้งาน เพื่อติดตามพัฒนาการทารกตั้งแต่ตั้งครรภ์ จนถึงติดตามหลังคลอดที่ครอบคลุมที่สุด และ ผู้ใช้งานสูงสุดในประเทศไทย นอกจากความรู้ยังมีไลฟ์สไตล์ และ สื่อมัลติมีเดียหลากหลาย ไม่ว่าสุขภาพแม่ และ เด็ก โภชนาการแม่ และ เด็ก กิจกรรมสำหรับครอบครัว การวางแผนครอบครัวไปจนถึง การดูแลลูก การศึกษา และ จิตวิทยาเด็ก theAsianparent Thailand เราพร้อมสนับสนุนพ่อแม่ทุกท่าน ให้มีความรู้และมีสุขภาพกายใจเข้มแข็ง เพื่อเสริมสร้างครอบครัวอย่างแข็งแรง เพราะ เราเชื่อว่า “ พ่อแม่เข้มแข็ง ครอบครัวแข็งแรง ”
ที่มาจาก : www.sukumvithospital.com
บทความอืน ๆ ที่น่าสนใจ
วิธีการล้างจมูกเด็ก
รู้ได้อย่างไรว่าลูกน้อยเป็นหวัดVSไซนัสอักเสบ
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!