ลดการบ้าน ของขวัญวันเด็กส่งตรงจากลุงตู่ พ่อแม่ชอบไหม?
การศึกษาเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศ เพราะเด็กในวันนี้จะโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต หลายคนคงได้ยินประโยคนี้บ่อยๆ สำหรับประเทศไทยเรื่องที่ผู้ผู้ปกครองบ่นกันทุกปีคงหนีไม่พ้นเรื่องของการสั่งงาาน สั่งการบ้าน และหนังสือเรียนเล่มหนาที่ต้องหอบไปโรงเรียนกันทุกวัน จนในถึงในยุคของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือลุงตู่ นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ที่ได้รับรู้ถึงปัญหานี้ จึงมีนโบายเรื่องการ ลดการบ้าน ของเด็กให้ลดลง
แนาวทางการลดการบ้านนั้น ดร.บุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) บอกว่า เป็นหน้าที่ของโรงเรียนที่ต้องบริหารจัดการกันเอง ครูจะมีบทบาทหลักในการวางแผนกิจกรรมต่างๆ ไปจนถึงการบ้านของนักเรียน มีการบูรณาการวางแผนร่วมกัน เช่น การบ้าน 1 ชิ้น ต้องสามารถวัดผลและประเมินผลร่วมกันได้หลายกลุ่มสาระการเรียนรู้ ซึ่งต้องคำนึงถึงความเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน ปริมาณการบ้าน ระยะเวลา เครื่องมือ อุปกรณ์ทีใช้ และความประหยัด รวมถึงระยะเวลาในการทำการบ้านในแต่ล่ะวัน ดังนี้
- ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 ต้องใช้เวลาทำการบ้านประมาณ 30 นาทีแต่ไม่เกิน 1 ชั่วโมง
- ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 ต้องใช้เวลาทำการบ้านประมาณ 1 ชั่วโมงแต่ไม่เกิน 1 ชั่วโมง 30 นาที
- ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ต้องใช้เวลาทำการบ้านไม่เกิน 2 ชั่วโมง
“น้องอั้ง” เอกสุกฤษฎิ์ ฐิติจรัสพรสุข นักเรียนชั้น ป.5/3 โรงเรียนสาธิตละอออุทิศ กรุงเทพฯ ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการลดการบ้านลดว่า ตัวน้องการลดการบ้านมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือสามารถจัดสรรเวลาทำการบ้านได้อย่างลงตัว ได้มีเวลาไปทำกิจกรรมอื่นๆ ที่ชอบกับเพื่อนมากขึ้น มีเวลาเล่นเกม ดูทีวี เล่นกีฬา ส่วนข้อเสีย อาจทำให้ตัวเขาเล่นมากเกินไปจนอาจละเลยได้ ซึ่งตัวเราต้องมีความรับผิดชอบ มีสติ พร้อมทั้งพ่อแม่ต้องควบคุมดูแลให้ลูกๆ สามารถรับผิดชอบต่อตนเองได้
ทางด้านคุณแม่ “นิด” นิตยา ล้อถิรธร คุณแม่น้องเปตอง นักเรียนชั้น ม.4 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ (GATE Program) โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย วัย 48 ปี ได้บอกว่า การบ้านจะทำให้เด็กได้ทบทวนความรู้ ฝึกความรับผิดชอบ ส่วนเรื่องปริมาณนั้น มีทั้งเป็นปัญหาและไม่เป็นปีญหา สำคัญที่สุดคือการรู้จักแบ่งเวลาให้เป็น อีกทั้งการลดการบ้านลงไม่ได้ทำให้การลดการกวดวิชาลงแต่อย่างใด เพราะลูกไปเรียนกวดวิชาจะได้อะไรเพิ่มเติมมากกว่า และมีความรู้ที่แน่นมากขึ้น
คุณแม่ยังฝากอีกว่า นโยบายการลดการบ้านของเด็กนั้น ตต้องมองไปส่วนของช่วงเวลาที่เหลือว่าเด็กจะจัดการยังไงกับเวลาที่เหลือ ให้เขาได้พัฒนาตนเอง เพราะทุกวันนี้รอบตัวเด็กมีสิงเร้ามากมายไม่ว่าจะเป็นเกม สื่อโซเชียลต่างๆ ที่ดึงความสนใจเด็กออกจากการเรียนตลอดเวลา
หลังจากนี้ พ่อแม่ต้องมารอดูกันว่า ของขวัญขากลุงตู่ จะสามารถทำได้จริงไหม เพราะว่าที่กล่าวข้างต้น การสั่งการบ้านให้เป็นหน้าที่ของแต่ละโรงเรียน ต้องมาดูกันว่าคุณครูแต่ละคนจะมีวิธีจัดการกับนโยบายนี้ยังไง คุณพ่อคุณแม่มีความคิดเห็นยังไงกับแนวคิดนี้ของรัฐบาล
ที่มา: komchadluek
บทความอื่นๆ ที่น่าสนใจ:
5 วิธีช่วยให้ลูกสนุกกับการทำการบ้าน
จิตแพทย์ชี้วัย อนุบาล 3 ขวบ อย่าเพิ่งยัดเยียดให้ลูกอ่าน-เขียน ยังไม่ต้องรีบ 5 ขวบก็ไม่สาย!!
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!