สมัยก่อนเรามักจะได้ยินคนรอบข้างพูดว่า นมแม่หลัง 6 เดือนไม่มีประโยชน์ แต่ดีหน่อยที่ช่วงนี้มีการรณรงค์และให้ความรู้เกี่ยวกับนมแม่มากขึ้น ทำให้คนส่วนใหญ่เปิดใจและเข้าใจว่า นมแม่นั้น มีประโยชน์กับลูกไม่ว่าลูกจะอายุมากกว่า 1 ปีหรือ 3 ปีก็ตาม
แต่เพื่อเป็นการยืนยันคุณสมบัติและคุณประโยชน์เฉพาะตัวเกี่ยวกับน้ำนมแม่ ทำให้สมาชิกเฟสบุ๊คนามว่า วิคกี้ กรีน ที่ก่อนหน้านี้ ก็เป็นคนหนึ่งที่สงสัยว่า น้ำนมแม่นั้น จะสามารถต้านเชื้อแบคทีเรียได้จริงหรือ เธอจึงตัดสินใจศึกษาและการทดลองจากน้ำนมแม่ที่ให้นมลูก โดยแต่ละคนนั้นมีลูกที่มีอายุแตกต่างกัน เริ่มจากน้ำนมแม่ที่มีลูกอายุ 15 เดือน ต่อด้วยน้ำนมแม่ที่มีลูกอายุ 3 ปี
วิคกี้ เริ่มทำการเพาะเชื้อ โดยการเอาน้ำนมแม่ หยดวางลงแผ่นกลม ๆ จนชุ่มบนจานเพาะเลี้ยง แล้วก็เขียนรายละเอียดเกี่ยวกับอายุของลูกไว้ หลังจากนั้นก็ใส่เชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า M. Luteus ไว้โดยรอบของจานเพาะเลี้ยง เมื่อวันเวลาผ่านไป สิ่งที่เธอเห็นก็คือ ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติที่สร้างขึ้นเพื่อมอบให้กับเด็ก ๆ ทุกคน
นั่นคือ จานเพาะเชื้อไหนที่มีแบคทีเรียนั้น จะมีสีขาวขุ่นไปทั้งจาน แต่จะเว้นตรงกลางไว้ เหมือนกับไม่สามารถทะลุผ่านวงน้ำใส ๆ ที่อยู่รอบแผ่นน้ำนมแม่ไปได้ ซึ่งโดยปกติ ถ้าน้ำนมแม่ไม่สามารถสกัดเชื้อแบคทีเรียได้ เชื้อก็จะสามารถลามเข้าไปเจริญเติบโตในแผ่นน้ำนมแม่ได้
ไม่ใช่แต่เพียงเชื้อแบคทีเรียนี้เท่านั้นที่มีการทดลอง ได้มีนักวิจัยนำเชื้อ E.Coli และ MRSA ซึ่งเป็นเชื้อแบคทีเรียที่มีคุณสมบัติดื้อและต่อต้านยาปฏิชีวนะ ก็ได้ผลลัพธ์ที่น่าทึ่งเช่นเดียวกัน! จากการทดลองนี้ จึงสามารถเป็นเครื่องยืนยันได้ว่า โปรตีนในน้ำนมแม่นั้น สามารถต่อต้านการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรียได้จริง!
ที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าน้ำนมแม่นั้นจะมาจากแม่ที่ให้นมลูกนาน 15 เดือนหรือ 3 ปีก็ตาม ก็มีคุณสมบัติที่ว่านี้เช่นเดียวกัน!
งานนี้บอกได้เลยว่า นอกจากจะต้องร้อง ว้าว! ออกมาดัง ๆ แล้ว ยังรู้สึกภูมิใจและศรัทธาในน้ำนมแม่อีกด้วย เพราะฉะนั้น คุณแม่ท่านไหนที่กำลังท้อ ขอจงอย่ายอมแพ้นะคะ สู้ ! ไปเรื่อย ๆ เพื่อคนที่เรารักมากที่สุดค่ะ
ที่มา: Returntonow
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ:
นมแม่ สุดยอดฮีโร่ที่ไม่ได้มีดีแค่เรื่องสุขภาพ
3 สัญญาณ บอกว่านมแม่ใกล้หมดหรือมีน้อยเกินไป
มีข้อสงสัยเรื่องการตั้งครรภ์ หรือมีคำถามเรื่องการเลี้ยงลูกหรือเปล่าคะ? ติดตามอ่านบทความ หรือสอบถามสิ่งที่คุณอยากรู้ผ่านแอปของเราได้เลย
ดาวน์โหลด theAsianparent แอปพลิเคชัน ทั้ง IOS และ Android ได้แล้ววันนี้!