ในปัจจุบันคุณแม่หลายท่านเริ่มหันมาให้ความสนใจกับการเลี้ยงลูกด้วยนมกันมากขึ้น เพราะเรารู้ดีกว่า “น้ำนมแม่” นั้นมีคุณค่าและประโยชน์มหาศาลกับลูกน้อยขนาดไหน ในส่วนประกอบของน้ำนมแม่มีอะไรบ้าง แล้วเมื่อเวลาผ่านไปคุณค่าน้ำนมแม่นั้นจะยังคงอยู่เหมือนเดิมหรือไม่ มาไขข้อข้องใจกันในจุดนี้กันคะ หนังสือ “มีอะไรในน้ำนมแม่” ของศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย และเอกสารประกอบการอบรมเรื่อง การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ของกองอนามัยครอบครัว กระทรวงสาธารณสุข ได้อธิบายถึง ส่วนประกอบน้ำนมแม่ ในแต่ละระยะไว้อย่างชัดเจนว่า
ส่วนประกอบของนมแม่ น้ำนมแม่แบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ
1. ระยะหัวน้ำนม (colostrum)
หัวน้ำนม มีลักษณะสีเหลืองข้น ที่เรามักเรียกกันว่า “น้ำนมเหลือง” นั้น คือน้ำนมที่หลั่งในช่วงระยะแรกหลังคลอด ส่วนประกอบน้ำนมแม่ ระยะนี้ได้แก่
- มีสาร Beta-Carotene ที่ทำให้น้ำนมมีสีเหลือง และเปลี่ยนเป็นวิตามิน A ที่ช่วยบำรุงสายตา
- มีสารภูมิคุ้มกันโรคในปริมาณสูง เช่น Secretary IgA, เม็ดเลือดขาว, ไลโซไซม์ (lysozyme)-เอมไซม์ที่มีฤทธิ์ย่อยสลายผนังเซลล์ของเชื้อแบคทีเรียทำให้เชื้อตาย, lactoferrin – โปรตีนที่ช่วยต่อต้านเชื้อโรค และ bifidus growth factor – สารที่ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของแล็กโตบาซิลัส ให้แบคทีเรียไม่สามารถอาศัยอยู่ในลำไส้ได้
- มีวิตามินที่ละลายในไขมันในปริมาณสูง ได้แก่ วิตามินเอ แคโรทีน และวิตามินอีสูง
- นอกจากนี้ยังมีเกลือแร่ที่มีซิงค์ (zinc), โซเดียม (na), โปแตสเซียม (K) มากกว่านมแม่ในระยะหลัง และในนมแม่ระยะนี้ยังมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยขับขี้เทาและลดปัญหาตัวเหลืองของทารกด้วย
2. ระยะน้ำนมปรับเปลี่ยน (Transitional milk)
เป็นระยะเปลี่ยนจากหัวน้ำนมเป็นน้ำนมแม่ ซึ่งอยู่ในช่วง 7-10 วัน จนถึง 2 สัปดาห์หลังคลอด
3. ระยะน้ำนมแม่ (Mature milk)
สารอาหารในน้ำนมแม่ ประกอบด้วย
- สารอาหารต่าง ๆ ที่ช่วยในระบบการย่อยและฮอร์โมนต่าง ๆเช่น เช่น GnRH , GRF , TRH , TSH และสารที่เกี่ยวข้องกับการปกป้องร่างกายอาทิ Immunoglobulins, เม็ดเลือดขาว
- มีโปรตีน 9% โดยเป็นเคซีน (Casein) 30-40 % และโปรตีนเวย์ (Whey) ที่ละลายน้ำได้ 70-80%
(Whey ประกอบด้วย Alpha-lactalbumin และโปรตีนที่ช่วยต่อต้านเชื้อโรค ได้แก่ Lactoferin , Lysozyme , Secretary IgA) - มีไขมันและมีกรดไขมันไม่อิ่มตัวมากกว่าอิ่มตัว และมีกรดไขมันที่จำเป็น คือ Linoleic acid และ Arachidonic acid และยังมี Prostaglandin ที่ช่วยย่อยอาหารและการเจริญของเซลลำไส้
- มีคาร์โบไฮเดรต มีแล็คโตส และ Oligosaccharide
- มีวิตามินที่ละลายในไขมันเพียงพอ
- มีเกลือแร่ ซึ่งถึงแม้จะมีน้อยกว่าในนมผสมทุกชนิด แต่ก็เพียงพอกับความต้องการของทารก
- มีเอนไซม์ช่วยดูดซึม เช่น Protease , Antiprotease, Amylase, Lipase
- มีสารควบคุมการเจริญเติบโต (Growth Factor) ได้แก่ EGF, IGF-I, HMGFI, II, III, NGF
- และในนมแม่มีน้ำ 87% ซึ่งเพียงพอกับความต้องการของเด็ก ดังนั้นเด็กในช่วง 6 เดือนแรกที่กินนมแม่เพียงอย่างเดียว จึงไม่จำเป็นต้องป้อนน้ำตาม
จะเห็นได้ว่าในส่วนประกอบน้ำนมแม่นั้นมีทั้งสารอาหารที่มีประโยชน์และภูมิคุ้มกันที่ลูกน้อยจะได้รับ ดังนั้นสำหรับทารกในช่วง 6 เดือนแรกนั้น การเลี้ยงลูกด้วยน้ำนมแม่ถือเป็นวัคซีนหยดแรกที่จะช่วยลดโอกาสเกิดโรคต่าง ๆ และลดอัตราการเสียชีวิตของทารกได้ นอกจากนี้สัมผัสจากอ้อมกอดของแม่ก็ยังกระตุ้นให้เกิดการเชื่อมต่อของเส้นประสาทเร็วขึ้น และการที่แม่ได้กอดลูกน้อยเข้ากับอกเพื่อให้ดื่มนม ถือเป็นการสร้างสายใยและความสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก ช่วยเพิ่มความมั่นคงทางอารมณ์ให้กับลูก เอาใจช่วยคุณแม่ที่ตั้งใจเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และให้ลูกได้กินนมแม่ยาวนานที่สุดนะคะ
บทความอื่นที่น่าสนใจ :
ประโยชน์ดี๊ดีของการให้ “นมแม่” ที่ทั้งแม่&ลูกได้รับ
ถ้วยเก็บน้ำนม มีประโยชน์อย่างไร ช่วยเก็บน้ำนมแม่ได้จริงหรือ ??
6 เครื่องอุ่นนม ที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อบของคุณในประเทศไทยในปี 2021